ด้านอลิซ
@KM PUB 19.20 น.
“ว้าวๆๆ วันนี้ทำไมสาวน้อยของพี่ถึงได้สวยเป็นพิเศษเลยจ๊ะ แล้วนี่แอบไปทำสีผมใหม่มาตั้งเมื่อไหร่?” เสียงพี่เจนนี่เอ่ยแซวทันทีที่ฉันก้าวขาเข้ามาในร้าน
“เมื่อวานค่ะ” :) ฉันตอบพี่เจนนี่กลับไป พร้อมกับฉีกยิ้มกว้างส่งไปให้เธอ
ใช่ฉันไปย้อมผมมาเมื่อวาน จากผมสีดำย้อมให้เป็นสีทองไปเลยจ้า เพื่อที่ว่าผู้ชายคนที่ชื่อเพทายจะตามหาฉันไม่เจอ อีกอย่างตอนนี้ฉันก็บล็อกเบอร์เขาไปแล้วด้วย
“แต่ผมสีนี้เข้ากับอลิซมากนะ ดูโตกว่าเดิมเยอะเลย”
“แหะๆ อลิซว่าอลิซทำผมสีนี้หน้าดูแก่มากเลยค่ะ อย่างกับคนละคนเลย”
“ไม่แก่นะ เหมาะกับวัยเราแล้วแหละ นี่ถ้าแต่งตัวอีกหน่อยรับงานเอนได้สบายเลย”
“ไอ้งานเอนอะไรนี่เงินดีไหมคะ?” ฉันก็ว่าจะถามพี่เจนนี่เรื่องนี้เหมือนกัน ดีแล้วแหละที่พี่เขาเปิดประเด็นขึ้นมาก่อน
“มันก็แล้วแต่ว่าจะเอนแบบไหน ถ้าเอนวี ก็หลักหมื่นถึงแสนเลย แต่ถ้าเอนธรรมดาก็หลักพัน” อะไรคือเอนวี เอนธรรมดาวะ ฉันที่ยืนฟังพี่เจนนี่พูดถึงกับคิ้วขมวดเข้าหากันเลย
“ทำไมมันต้องแยกเอนวีกับเอนธรรมดาด้วยคะ?” ฉันเอ่ยถามคนตรงหน้าอย่างสงสัย
“ถ้าเอนวีก็คือจบที่เตียง ส่วนเอนธรรมดาก็แค่ชงเหล้า ดื่มเหล้าเป็นเพื่อน หรือไม่ก็ไปดูหนังทานข้าวแค่นั้น” ฉันยืนฟังพี่เจนนี่อธิบายอย่างตั้งอกตั้งใจ เพราะฉันไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มาก่อนเลย
พี่เจนนี่นอกจากจะเป็นผู้จัดการร้านนี้แล้ว อีกอาชีพหนึ่งของเธอก็คือการเป็นนายหน้าติดต่อกับลูกค้าให้กับพวกพริตตี้สวยๆ นี่แหละ
“อลิซถามทำไมจ๊ะ? สนใจจะทำเหรอ?”
“อายุของอลิซทำได้เหรอคะ?” เนื่องจากว่าฉันอายุยังไม่ถึงยี่สิบ ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลย ฉันก็เลยถามเพื่อความแน่ใจ
แต่ถ้าทำได้ฉันก็จะทำ เพราะช่วงนี้ฉันต้องเร่งหาเงินเพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดให้ยาย นี่ก็เหลือเวลาอีกไม่กี่อาทิตย์แล้ว
“ได้สิจ๊ะ อายุน้อยกว่าอลิซก็มีนะ แค่อลิซเต็มใจที่จะทำ”
“แล้วอลิซต้องเตรียมตัวยังไงบ้างคะ?”
“ก็แค่ทำตัวเองให้สวยอยู่ตลอดเวลา แล้วเดี๋ยวพี่จะเป็นคนหางานมาให้ อลิซอยากได้แบบไหน?”
“แบบที่ไม่ต้องเปลืองตัวค่ะ ตอนนี้อลิซปิดเทอมแล้ว อลิซสามารถรับงานได้ทุกวันเลยค่ะ”
“หืม ทุกวันเลยเหรอจ๊ะ?”
“ค่ะ ช่วงนี้อลิซจำเป็นต้องใช้เงินค่ะพี่เจนนี่” ฉันพยักหน้าตอบรับไป ซึ่งพี่เจนนี่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ หลังจากนั้นฉันก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง
สองชั่วโมงต่อมา
“น้อง มาชงเหล้าให้พี่หน่อย” ฉันที่กำลังจะเดินกลับไปยังโซนห้องครัวหลังจากที่ยกกับแกล้มมาเสิร์ฟให้ลู้กค้าที่โต๊ะต้องชะงักฝีเท้าอย่างไว เมื่อจู่ๆ ก็มีมือใครไม่รู้มาดึงรั้งแขนฉันเอาไว้ก่อน
“ได้ค่ะ” เรื่องชงเหล้าฉันถนัดอยู่แล้ว ถึงแม้จะดื่มเหล้าไม่ค่อยเก่ง แต่ว่าฉันก็ชงเหล้าเก่งนะบอกเลย
“มานั่งตรงนี้มา” ผู้ชายคนที่จับแขนฉันไว้พยายามจะดึงตัวฉันให้ไปนั่งบนตักของเขา แต่มีเหรอที่ฉันจะยอม
“หนูยืนตรงนี้ก็ได้ค่ะ”
“บอกให้มานั่งก็นั่งสิวะ อย่าเล่นตัวให้มาก”
ฟุ่บ!!
แล้วเขาก็กระชากแขนฉันจนฉันทรงตัวไม่อยู่ ทำให้ตอนนี้ฉันล้มลงไปนั่งบนตักของเขาเรียบร้อย
“คุณคะ กรุณาปล่อยแขนออกจากตัวของฉันด้วยค่ะ” ฉันพยายามข่มอารมณ์โกรธของตัวเองเอาไว้ ทั้งๆ ที่ในใจตอนนี้อยากจะหันไปตบหน้าสักที ไอ้บ้านี่
“จะเล่นตัวทำไม ถ้าคืนนี้บริการดีพี่จะให้ทิปเป็นพิเศษ” ปากว่าแต่มือไอ้นี่เริ่มจะอยู่ไม่นิ่งแล้ว เขาค่อยๆ ลูบไล้ฝ่ามือลงมาบนสะโพกมนของฉัน แล้วขย้ำมันอย่างแรง
จนฉันที่ทนไม่ไหวเด้งตัวลุกขึ้นอย่างไว ก่อนจะหันไปฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าของเขาอย่างแรง
พรึ่บ!!
เพี๊ยะ!!
“ซี๊ด อีนี่มึงกล้าตบกูเหรอฮะ”
“ก็คุณมาลวนลามฉันก่อนนี่คะ”
“มึงรู้ไหมว่ากูเป็นลูกใคร”
“คุณไม่รู้แล้วฉันจะรู้ได้ยังไง”
“อีนี่” ฉันหลับตาปี๋ทันทีเมื่อไอ้ผู้ชายตรงหน้ามันเงื้อมมือขึ้นจะตบฉัน แต่…..
“ไอ้กาย มึงอย่าทำร้ายผู้หญิง” ฉันหรี่ตามองเหตุการณ์ด้านหน้า ก่อนจะพบว่าหนึ่งในเพื่อนของผู้ชายคนนี้กำลังจับแขนของเขาเอาไว้อยู่
“มึงไม่ต้องมาเสือก ปล่อยมือ กูจะสั่งสอนอีนี่” และก่อนที่เรื่องมันจะบานปลายไปมากกว่านี้ พี่เจนนี่ที่ไม่รู้ว่าลงมาที่ชั้นใต้ดินตั้งแต่ตอนไหนก็เข้ามาเคลียร์สถานการณ์ได้ทันเวลาพอดี
“ขอโทษนะคะ มีเรื่องอะไรกันเหรอคะ?”