7

1482 คำ
หัวใจดวงเดิมของสาวน้อยคล้ายถูกสายฟ้าฟาด ราวกับมีมีดคมกำลังกรีดเฉือนลงไปจากคำพูดตบท้ายของเขา เขาจะนอนกับเธอหรือ เธอเพิ่งเจอเขาไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ แม้จะรู้ตั้งแต่สัปดาห์ก่อนจากแม่เลี้ยงบุหงาแล้วว่าลูกชายเขาจะมาที่นี่มารับเธอไปอยู่ไร่ชาด้วยกัน เธอเตรียมตัวเตรียมใจไว้บ้าง แต่ไม่คิดว่าจะเลื่อนกำหนดการเดินทางมาแบบนี้ มิหนำซ้ำ ไม่คิดเลยว่าเขาจะใจร้ายไม่เหมือนมนุษย์ “ไม่ได้นะลุง” เธอรีบตอบกลับ ยกมือบ่ายเบี่ยงจ้าละหวั่น “นอนด้วยกันไม่ได้” เขาตาเขียวใส่ทันที “บอกแล้วใช่ไหมไม่ให้เรียกลุง” ร่างสูงเต็มไปด้วยโคลนก้าวอาด ๆ เข้ามา อิ่มอุ่นรีบถอยหนีแล้วต้องรีบเตือนตัวเองว่าอย่าไปทำให้เขาโกรธโดยการเรียกว่าลุงอีก เธอจะทำอย่างไร แก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไรดี เธอไม่อยากไปจากที่นี่ ไม่อยากไปอยู่กับเขาที่ไร่ชา หัวใจพลันดิ่งวูบกะทันหันเมื่อเขาเร็วราวกับแสง ดึงมือเธอไปถือเอาไว้ สังหรณ์ร้ายกล้ำกรายเข้ามาในความคิด “อย่านะ ตรงนี้เลยเหรอ ฉันยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจ ให้เวลากันหน่อยไม่ได้หรือไง” เขาปั้นหน้าไร้อารมณ์ ก้มดูสภาพตัวเองที่เต็มไปด้วยโคลนแล้วตอบกลับอย่างฉุนเฉียว “ฉันเพื่อนเล่นเธอเหรอ แหกตาดูสิ สภาพคลุกขี้โคลนแบบนี้จะมีอารมณ์อะไร รีบไปเอาผ้าขนหนูมาให้ฉัน เสื้อผ้าด้วยชุดหนึ่ง จะอาบน้ำโว้ย ไม่ได้เกิดอารมณ์” เขาทั้งสั่งทั้งบังคับ แม่ง แ_กอะไรเป็นอาหารถึงดุนัก อิ่มอุ่นขวัญหนีดีฝ่อ จมูกแดงไปหมด น้ำหูน้ำตาไหล แล้วรีบวิ่งไปหาสิ่งที่เขาสั่ง พลางนึกออกว่ากระเป๋าเป้ที่เขาเดินกลับไปเอามาจากที่รถ มันตกไปในบ่อพร้อมตัวเขา เวลานี้เขาคงไม่มีเสื้อผ้าให้ผลัดเปลี่ยน จากนั้นร่างเล็กหายเข้าไปในห้องนอนของบิดาร่วมสิบนาที ก่อนจะเดินออกมาพร้อมผ้าขาวม้าหนึ่งผืนกับกางเกงเลหนึ่งตัว เสื้อกล้ามสีขาวกับเสื้อแขนยาวของบิดามาให้เขายืมสวมใส่แก้ขัด ผู้ชายละแวกนี้ก็แต่งตัวแบบนี้กันทั้งนั้น ไม่ได้แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแพง ๆ แปะตราเบรนด์เนมหรูแบบที่เขาใส่มา พอเข้าไปในห้องน้ำโปร่งกว้างกึ่งปูนกึ่งไม้ เหมราชก็ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกไปทีละเม็ดจนหมด เผยให้เห็นผิวขาว แผ่นอกกว้างและกล้ามเนื้อแน่นเป็นลอนอย่างคนที่ผ่านการออกกำลังกายสม่ำเสมอ จากนั้นก็ปลดกระดุมกางเกงยีนตัวแพงแล้วรูดลงพร้อมกับก้มมอง แม้แต่บ๊อกเซอร์ด้านในก็กลายเป็นสีโคลน เขาชักสีหน้าหงุดหงิดทันที “ใครผลัก คนนั้นต้องซัก!” แม้ไม่ใช่ห้องน้ำหรูหราอะไรมากแต่กว้างสะอาด และมีกลิ่นจากผิวมะกรูดที่ชายหนุ่มมองเห็นว่าถูกหั่นซอยปนกับตะไคร้หอมอยู่ในภาชนะแก้วทรงกลมข้างอ่างล้างหน้า แสดงให้เห็นว่าเจ้าของบ้านเองก็ใช้วิถีชีวิตร่วมกับธรรมชาติ เป็นจุดหนึ่งที่ดึงให้รอยยิ้มปรากฏขึ้นตรงมุมปากชายหนุ่ม “โล่งจมูกดี” การอาบน้ำจึงไม่ได้ลำบากอะไร สายตาของเขามองหาอะไรบางอย่าง แล้วสัมผัสกับครีมอาบน้ำแบรนด์ดังในขวดแก้วใสทรงหรู ก็พอเดาได้ว่าเป็นครีมอาบน้ำของใคร “นังเด็กนี่ รสนิยมไม่เบา บังอาจใช้ของแพง” เขายิ้มน้อย ๆ ก้มลงไปดม “หอมดี ยืมใช้หน่อยก็แล้วกัน” แล้วถือสิทธิ์ความเป็นเจ้าของบ้านคนใหม่ครอบครองเสียทุกอย่าง ครีมอาบน้ำหอมกรุ่นที่อิ่มอุ่นพยายามใช้ทีละน้อย ๆ อย่างกลัวจะหมดถูกบีบลงฝ่ามือจนเต็ม ถูขยี้ไปตามเนื้อตัวเพื่อชะล้างกลิ่นโคลนจนหายไปเกือบครึ่งขวด เขาเทอีกครั้ง เอาไปฟอกถูระหว่างซอกขาเพราะกลิ่นโคลนมันฝังแน่น ผ่านไปสักพัก เมื่อร่างกำยำคิดว่าเนื้อตัวสะอาดดีเป็นที่พอใจกำลังจะเปิดประตูห้องน้ำออกมา ก็นึกขึ้นได้ว่ากำลังเปลือยเปล่าอยู่ ตอนอยู่ที่ไร่ชา เขาพักคนเดียว ให้แม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดแค่เวลาที่ออกไปไร่ เวลาอาบน้ำเสร็จแล้วก็เดินโทง ๆ ล่อนจ้อนออกมาจนติดเป็นนิสัย แต่นี่... “แล้วจะออกไปยังไง...” เขายิ้มกริ่มที่มุมปากอย่างนึกสนุกกับแผนการในหัว ก่อนบิดลูกบิดเพื่อเปิดประตู โผล่หน้ามาแล้วเห็นว่าอิ่มอุ่นกำลังนั่งจดอะไรอยู่ “นี่เธอ เอาผ้าขนหนูกับชุดมาให้ฉันหน่อยสิ” อิ่มอุ่นถอนใจโล่งอก เธอรู้แล้วว่าต้องถูกสั่งแบบนี้ ตอนเขาอาบน้ำเลยแอบเอาไปวางไว้หน้าประตู “ก้มลงไปมองที่หน้าประตูห้องน้ำสิคะ ฉันวางเอาไว้ให้แล้ว” เหมราชก้มมองแล้วเห็นผ้าขาวม้ากับเสื้อผ้าที่พับวางอย่างเรียบร้อยวางขวางอยู่หน้าประตู “ขอบใจนะ” เขาพูดสั้น ๆ แล้วเปิดประตูห้องน้ำออกกว้าง ก้มเนื้อตัวเปล่าเปลือยที่มีหยดน้ำเกาะอยู่ตั้งแต่เส้นผมดกดำและตามเนื้อตัวจรดปลายเท้าลงไปหยิบมันขึ้นมา โชคดีที่อิ่มอุ่นนั่งกดเครื่องคิดเลขอยู่ที่โต๊ะกลางบ้านเพราะพรุ่งนี้มีงานแต่เช้ามืด จึงต้องเตรียมค่าใช้จ่ายให้คนงานที่จ้างคนมาลากปลา เธอหันหลังให้เขา จึงไม่เห็นความน่าสะพรึงกลัวที่กำลังจดจ้องอยู่เบื้องหลัง ตั้งแต่นักวิชาการมาแนะนำให้เลี้ยงกุ้งขาวผสมกับปลา อิ่มอุ่นก็คิดว่าดีเหมือนกัน ปลาใช้วิธีตีอวนแล้วส่งขายแบบปลาอ๊อกฯ ส่วนกุ้งนั้นดักขายไปเรื่อย ๆ เพราะมีแม่ค้ามารับซื้อที่หน้าบ่อทุกวัน แต่บ่อซีเมนต์สำหรับเลี้ยงกุ้งอย่างเดียวก็ยังทำอยู่ แต่ค่าใช้จ่ายในการดูแลในบ่อเลี้ยงกุ้งเพียว ๆ สูงกว่าการเลี้ยงปนกับปลานิล หลังจากนั้นเมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้ว เหมราชก็พาร่างเปลือยเปล่ากลับเข้าไปในห้องน้ำเพื่อแต่งตัวให้เรียบร้อย ทั้งที่จริงก็อยากจะใส่มันตรงนี้ แต่เกรงว่ามันจะอุจาดตาไปหน่อย เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้ำปิด อิ่มอุ่นก็หันกลับไปมองอย่างโล่งใจ เมื่อหันกลับไปมองตัวเลขรายจ่ายค่าแรงคนงานที่เครื่องคิดเลข เสียงของคนในห้องน้ำก็ดังออกมารบกวนโสตประสาท “กางเกงแบบนี้มันใส่ยังไง ฉันใส่ไม่เป็น เธอมานี่หน่อยซิ” อิ่มอุ่นหน้าซีด เพราะในห้องของพ่อมีแต่กางเกงแบบนี้ ใคร ๆ แถวนี้เขาก็ใส่กัน อยู่ในบ่อปลาบ่อกุ้งจะแต่งหล่อให้ใครดู แล้วถ้าเขาใส่ไม่เป็น เธอต้องเป็นคนใส่ให้เขาหรือ แค่คิดก็... มือไม้บางเย็นเยียบ เมื่อเสียงของคนแปลกหน้าบ้าอำนาจคำรามออกมาอีก “ถ้าเธอไม่เดินมานี่ ฉันเดินออกไปแบบนี้แน่ หรือจะลอง” “อย่านะ” ครั้นจะหลุดคำว่าลุงออกมาก็รีบยกมือปิดปากห้ามเสียงเอาไว้ทัน “คุณเหมอย่าออกมาแบบนั้นนะคะ ฉันยังไม่พร้อมจะดูของโบราณ” “อะไรนะ พูดใหม่ซิ” เสียงห้วนหาเรื่องตะโกนออกมาถาม อิ่มอุ่นตีปากตัวเองเบา ๆ “เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร ฉันแค่คิดว่าอายุอานามคุณเหมก็ร่วมจะสี่สิบปีแล้ว ทำไมคุณเหมนุ่งกางเกงเลไม่เป็น” เขานุ่งไม่เป็นจริง ๆ ไม่เคยนุ่ง ติดใส่กางเกงยีน เวลานอนบางครั้งก็ใส่บ๊อกเซอร์ตัวเดียว บางวันเหนื่อย ขี้เกียจ ก็ไม่ใส่อะไรนอน “ไม่เคยใส่จริง ๆ” เขาพูดตามตรงแต่ไม่ได้บอกว่ามันไม่เกินความสามารถ เรื่องแค่นี้ ทำไมเหมราชจะเรียนรู้เองไม่ได้ ชายหนุ่มไหวไหล่ แล้วยกยิ้มยียวน อิ่มอุ่นฟังเขานิ่ง ๆ แล้วหวนนึกตามเขาพูด อาจจริงของเขาที่ไม่คุ้นชินกับกางเกงเล เพื่อนชายหญิงของเธอสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ยามที่ขอมาเที่ยวที่บ้านและนอนค้าง เมื่อเธอให้ยืมใส่กางเกงเล ต่างก็ทำหน้างง แล้วถามว่ามันต้องใส่ยังไงอยู่เหมือนกัน อิ่มอุ่นไม่อยากจะแหย่คนแก่ใจร้อนอีก เพราะมีแผนการบางอย่างในใจ จึงพยายามใจเย็นลง “เอาแบบนี้นะคะคุณเหม คุณเหมก็เอาขาทั้งสองข้างใส่เข้าไปในกางเกงเล อ้อ...อย่าใส่นอกกางเกงล่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม