6

1391 คำ
“ถ้าอยากจะเป็นเขยบ่อปลา หัดไปจับปลาก้นบ่อก่อนดีไหมคะลุง” รังสีอำมหิตโหดเหี้ยมพุ่งตรงไปที่ร่างบึกบึนแล้วออกแรงผลักสุดกำลัง อิ่มอุ่นยังไม่รู้จักพ่อเลี้ยงเหมราชดีพอ เขาไม่เคยตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบใคร ก่อนที่ร่างหนาจะทิ้งตัวนอนหงายลงไปก้นบ่อ มือของเขาข้างที่ไม่ได้สะพายกระเป๋าก็ฉุดคว้าร่างเล็กให้ตกลงไปด้วยกันทันควัน "กรี๊ด..." การลงเกลือกกลิ้งกับโคลนไม่ได้ทำให้อิ่มอุ่นตกใจแม้แต่น้อย แต่ต้องมานอนทับเกลือกกลิ้งบนแผ่นอกกว้างของคนปากเสียไม่ใช่เรื่องที่เตรียมรับมือเอาไว้ ต่างฝ่ายต่างจ้องตาราวกับว่าจะกินเลือดกินเนื้อกัน “ฉุดฉันลงมาด้วยทำไม!” “ก็เธอผลักฉันก่อนทำไม!” สีหน้าย่ำแย่ทั้งคู่ อิ่มอุ่นย่นหัวคิ้ว นิ่วหน้าเมื่อมือสัมผัสบางอย่างเข้า วันก่อนเธอสั่งสมประสงค์ หัวหน้าคนงานให้พาลูกน้องลงจับปลาก้นบ่อส่งขายหมดแล้ว แต่ทำไมเธอยังจับได้ปลาช่อนตัวเขื่อง ลักษณะของมันคุ้น ๆ แค่มือน้อยไล่สัมผัส ไม่ผิดแน่ตัวยาวแบบนี้ ลำตัวอ้วนกลมแบบนี้ เธอรีบบีบคอมันไว้ ก็ลงจับปลามาตั้งแต่เด็ก นี่คงเป็นไปตามสัญชาตญาณที่เธอไม่อาจปล่อยให้มันเถือกไถลไปได้ เนื้อปลาช่อนตัวนี้มันไม่นิ่มเหมือนปลาเป็น ลำตัวมันแข็งทื่อ หยุ่นเล็ก ๆ เหมือนปลาตายแล้ว แถมยังไม่ดิ้นขลุกขลักอีก “แย่จริง! สมประสงค์ยังจับปลาช่อนขึ้นไม่หมด” ถ้ามันตายนานคงต้องทิ้งไป แต่ถ้าตายใหม่ ๆ ขอดเกล็ด ปาดคอ คลุกเคล้าเกลือตากแดด ทำเป็นปลาช่อนเค็มไว้กินได้ แต่แล้วเสียงครางลอดไรฟันที่ดังอยู่ใต้ร่างทำให้อิ่มอุ่นไม่ทันยกปลาช่อนตัวใหญ่ขึ้นมาดู แต่ก้มมองคนที่กลายมาเป็นฟูกรองก้นบ่อให้เธอกึ่งนอนกึ่งนั่งทับ เขาตะคอกใส่หน้าทันที “ที่มือเธอจับมันไม่ใช่ปลาช่อนโว้ย แต่เป็นปลาชะโดของฉัน เอามือออกไปเดี๋ยวนี้!” คนนอนหงายหลังอยู่กลางพื้นบ่อแห้งแล้วยังถูกจับกุมตัวตนเอาไว้ไม่ให้ดีดดิ้นไปไหน ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเดือดดาล ความอดทนกำลังจะขาดผึง อิ่มอุ่นตกใจหน้าซีด รีบยกมือออกแล้วไม่กล้าก้มลงไปมอง “ว้าย! นึกว่าปลา ที่แท้เป็นอาวุธสงครามของชายชรา” “ชายชรา! พูดมาได้ เด็กบ้า!” กระแสความโกรธยิ่งเชี่ยวกราก แม้ว่าจะเจ็บจุกไปทั้งตัว และที่จุกหนักจนหน้าเขียวลุกขึ้นไม่ไหวคือระหว่างต้นขาที่ถูกอิ่มอุ่นจับบีบเข้าอย่างแรง พอเหมราชกัดฟันพาตัวสูงใหญ่ลุกขึ้นได้ ก็ย่ำโคลนหนืดไล่ตามนังเด็กแสบที่ออกตัววิ่งแจ้นหนีเขาขึ้นพ้นจากขอบบ่อไปแล้ว เขาคำรามไล่หลังเสียงดังลั่น “ขึ้นไปได้ ฉันจัดการเธอแน่!” เจ้าของร่างสูงที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยโคลนและยังมีกลิ่นคาวปลากลบกลิ่นน้ำหอมสะอาดแบรนด์ดังจนหมดสิ้น ได้แต่มองตัวเองอย่างนึกสมเพชในสภาพอเนจอนาถนี้ กรามแกร่งบดเข้าหากันแน่นส่งเสียงคำรามลั่นอีกครั้ง “วันนี้เธอตายคามือฉันแน่ อิ่มอุ่น!” เท้าเล็กนุ่มนิ่มกำลังวิ่งไปยังบ้านไม้ติดคลองธรรมชาติหลังใหญ่ ซึ่งคลองนี้ถูกผันน้ำเข้าบ่อเพื่อใช้ในการเลี้ยงปลาและกุ้ง เธอพยายามไขกุญแจแต่มือเล็กสั่นเทาเหมือนไม่เป็นใจ หยิบดอกไหนขึ้นมาไขก็ไม่ใช่กุญแจบ้านทั้งที่เธอไขมันทุกวัน แต่เวลานี้เนื้อตัวสั่นไปหมด ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยเจอใครป่าเถื่อนโหดร้ายเท่าไอ้ผู้ชายคนนี้ จนกระทั่งมือหนาใหญ่กระชากพวงกุญแจออกจากมือเธอ แล้วเอาไปถือกวัดแกว่งตรงหน้า ล่อหลอกให้เธอไล่คว้า แต่คว้าได้เพียงแค่ลม เหมราชยังแสยะยิ้มให้อย่างน่ากลัวอีก “ที่นี่บ้านฉัน กุญแจบ้านก็เป็นของฉัน หลีกทาง ออกจากประตูบ้านฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะโทร.แจ้งตำรวจว่าเธอบุกรุก หรือว่าจะไม่แจ้งตำรวจแต่จับหักคอแล้วโยนลงบ่อ แบบไหนถึงจะดี” เพลิงโทสะในตาคู่นั้นเข้มข้นบอกว่าเอาจริง ก่อนจะยื่นมือผลักร่างเล็กที่ยืนขวางประตูไม้จนเธอกระเด็นเซไป เขายืนขวางเต็มบานประตู แล้วเลือกไขทีละดอก จนกระทั่งดอกที่สาม แม่กุญแจจึงคลายออก “อา...บ้านหลังใหม่ของฉัน” เขาหัวเราะ แต่คนที่ยืนโกรธจนตัวสั่น กำมือแน่นเพราะมันคือบ้านที่เธออยู่มาตั้งแต่เกิด ร่างสูงใหญ่เดินเข้าบ้านอย่างถือสิทธิ์ครอบครอง เขากวาดตามองภายในบ้าน แม้ไม่ได้ตกแต่งด้วยเครื่องเรือนหรูหราแต่ดูสะอาดตาน่ามอง ความเย็นในตัวบ้านเกิดจากลมธรรมชาติพัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างหลังบ้านที่เปิดทิ้งไว้ สายตาคู่คมมองผ่านม่านหน้าต่างออกไปเห็นลำคลองไหลผ่าน แล้วยังมียอขนาดใหญ่แช่อยู่ในน้ำ ก่อนจะกวาดตามองไปทั่วบ้านอีกครั้งอย่างลวก ๆ อย่างพอใจ ถึงไม่ใช่บ้านหรูหราแต่ก็ให้ความรู้สึกกว้างขวาง โล่ง โปร่งสบาย ดูน่าอยู่ไม่น้อย พอเป็นที่พักในคืนนี้ได้ ชายหนุ่มยิ้มเล็ก ๆ อย่างพึงพอใจแล้วหันกลับมาถามอดีตเจ้าของบ้าน “บ้านนี้มีห้องนอนอยู่กี่ห้อง” อิ่มอุ่นยืนงง ๆ มนุษย์ขี้หงุดหงิดที่ยืนจังก้าอยู่กำลังทำตัวเป็นเจ้าของบ้าน แต่หวนคิดอีกทีก็ถูกแล้ว ตอนนี้มันบ้านของเขา ไม่ใช่บ้านของเธออีกต่อไป “ฉันถามว่ากี่ห้อง” คราวนี้เสียงเข้มกว่าเดิม คนตัวเล็กจึงกระแทกเสียงใส่ “มีสองห้องนอน” “ก็แค่นั้น กว่าจะตอบได้ กลัวดอกพิกุลร่วงหรือไง” เขาเดาได้ไม่ยากห้องหนึ่งคงเป็นห้องนอนของเธอ ส่วนอีกห้องในอดีตคงเป็นห้องของบิดาเธอ “แล้วเปิดใช้งานอยู่กี่ห้อง” “ห้องเดียว ก็บ้านนี้มีฉันอยู่คนเดียว คนงานปลูกบ้านพักให้อยู่รวมกันที่ข้างบ่อกุ้งฟากโน้น” อิ่มอุ่นตอบกลับแบบมะนาวไม่มีน้ำ เธอรู้เลยว่าจอมอหังการจะต้องยึดบ้านหลังนี้เป็นที่นอนของเขา เธอมันแค่ผู้อาศัยแล้วนี่ น้ำตาที่รื้นออกมาเพราะความน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตาที่ไม่สามารถรักษาสมบัติของตระกูลเอาไว้ก็พานหยดไหลออกมาเอง แต่แล้วก็ถูกปาดทิ้งไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีวันให้คนร้ายกาจตรงหน้ารู้ว่าเธอเสียใจ “ถ้าลุง เอ๊ย...คุณจะพักที่นี่ ฉันจะเอากุญแจไปไขอีกห้องให้” เหมราชยิ้มร้ายแต่หน้าตาของเขาถูกโคลนพอกเอาไว้จนดำมืดไปหมด เธอจึงมองไม่เห็นความร้ายกาจที่ปรากฏขึ้น “เอากุญแจคืนไป” เขาโยนกุญแจกลับมาให้เธอ คนตัวเล็กรับเอาไว้ได้ นั่นหมายความว่าเหมราชคงไม่ได้ไล่เธอออกจากบ้านอย่างกะทันหัน อิ่มอุ่นถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วเดินฉีกไปทางด้านขวามือซึ่งเป็นห้องนอนที่ติดกับห้องของเธอแต่มีขนาดใหญ่กว่า มันถูกปิดตายเอาไว้ตั้งแต่บิดาเสียชีวิตไปเมื่อหลายเดือนก่อน “จะไปไหน” “ไปเปิดห้องให้ไง ก็...คุณจะนอนที่นี่ไม่ใช่เหรอ” “ใช่ ไม่ได้จองโรงแรมเอาไว้ แม่บอกว่าให้มานอนค้างที่นี่เลย” ไม่ต้องเอาแม่มาอ้างก็ได้ ฉันรู้ลุงไม่ได้เชื่อแม่เท่าไหร่หรอก คนตัวเล็กบ่นอุบอิบในใจ “บ่นอะไร” ร่างเล็กสะดุ้ง เธอแค่คิดในใจ เขาหยั่งรู้ความคิดเธอด้วยหรือ “ฉันแค่คิด ยังไม่ได้บ่นออกมาเลย รู้ได้ไง” แล้วหันหลังกำลังก้าวต่อไปเปิดห้องให้เขา “ฉันคืนกุญแจ แต่ไม่ได้ใช้ให้ไปเปิดห้องใหม่ คืนนี้ฉันจะนอน...ห้องเดียวกับเธอ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม