หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เดินทางออกมาจากไร่ภวินตรงไปยังห้างสรรพสินค้าที่อยู่ในตัวเมือง โดยมีกร และคนงานอีกหลายคนขับรถตามมาด้วยเพราะต้องช่วยกันขนของกลับ
และในระหว่างที่มินนี่กำลังกดโทรศัพท์เล่นก็ต้องหยุดชะงักไปเมื่อมีมือปลาหมึกกำลังยุกยิกอยู่ตรงเรียวขาของเธอ หญิงสาวเหลือบสายตาหันไปมองเขาก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย
"วุ่นวายอะไรกับหนูอีกคะ"
"จับไม่ได้หรือไง"
"อะไรของพ่อเลี้ยงค่ะ อยู่ต่อหน้าคนอื่นก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พออยู่ด้วยกันสองคนสะกิดบ่อยนะคะ ทำไมล่ะอยากได้มินนี่อีกยังไง สงสัยจะติดใจล่ะมั้ง"
เธอเอ่ยแซวพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวิน ดวงตากลมโตจ้องมองไปยังเขาไม่ได้มีความเกรงกลัวแต่อย่างใด มือหนาลูบไล้ไปมาอย่างแผ่วเบา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาต้องการเธอมาก ก็เลยคิดว่าอาจจะต้องเจรจากับว่าที่ภรรยาใหม่อีกรอบ
"เย็นนี้ไม่กลับได้ไหม อยู่กับพี่เดี๋ยวจะดูแลอย่างดี"
"แล้วใครที่มันบอกว่าได้คืนเดียวก็พอ หืม"
มินนี่กอดอกเอ่ยถามชายหนุ่มด้วยความกดดัน ก็คิดไม่ผิดว่าถ้าเกิดพ่อเลี้ยงภวินได้กินเธอสักครั้ง ก็คงจะติดออกติดใจไปไหนไม่รอด แต่คนอย่างเธอไม่ยอมให้กินในที่ลับหรอก จะทำทุกวิธีเพื่อให้ชายหนุ่มคลั่งรักเธอต่อหน้าทุกคน
"ก็พี่พูดไม่คิดเองขอโทษได้ไหมล่ะ น้า... คืนนี้นอนด้วยกันนะ"
"ก็ต้องดูก่อนค่ะว่าพ่อเลี้ยงทำให้มินนี่พอใจหรือเปล่า"
"ถ้างั้นหนูอยากได้อะไรไหมล่ะพี่ซื้อให้ทุกอย่างเลยนะ เดี๋ยวให้บัตรเลยเอาไปรูดซื้อของ วงเงินเท่าไหร่ก็ได้อยากจะได้แพงกี่ล้านก็ซื้อไปเลย ตกลงไหม"
ไม่พูดเปล่าเขายังยื่นมือไปเปิดเก๊ะรถ หยิบบัตร wisdom ออกมาให้หญิงสาวตรงหน้า เมื่อเธอเห็นแบบนั้นก็ยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย รับบัตรนั้นมาถือไว้ในมือก่อนจะจินตนาการว่าวันนี้เธอจะซื้ออะไรให้ตัวเองบ้าง
"หนูซื้อได้ทุกอย่างจริงเหรอคะ"
"ซื้อได้เลยค่ะพี่ให้ซื้อได้ทุกอย่าง"
"ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นหนูไม่เกรงใจแล้วนะคะ"
"อือ"
มินนี่จ้องมองไปยังบัตร wisdom ของเขาก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ เมื่อคืนเขาทำให้เธอแทบจะคลานลงเตียง จัดหนักทั้งคืนขนาดนั้นสงสัยจะต้องเอาคืนให้สาสมบ้าง ซึ่งเธอไม่ได้มีความรู้สึกเห็นใจอะไรเขาหรอก พ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินมหาเศรษฐีระดับต้น ๆ ของภาคเหนือ เศษเงินเท่านั้นแหละที่เธอจะใช้ซื้อของที่อยากได้
และเมื่อมาถึงที่ห้างสรรพสินค้า เขาก็กลายเป็นอีกคนที่ทำเก๊กขรึมต่อหน้าบรรดาลูกน้อง คงกลัวว่าพวกเขาจะแซวถ้าเกิดว่าพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินเอาแต่วุ่นวายอยู่กับผู้หญิงที่เคยลั่นวาจาไว้ว่าไม่ชอบที่สุด
"มินนี่จะไปไหน"
"ก็ไปช็อปปิ้งไงคะ พ่อเลี้ยงมีอะไรหรือเปล่า"
"มาช่วยเลือกของก่อนสิ วันมะรืนจะต้องเอาให้พนักงานจับฉลากนะ"
เขากวักมือเรียกหญิงสาวให้มาช่วยกันเลือกของก่อน แล้วอีกเดี๋ยวจะปล่อยให้ไปช้อปปิ้งจะใช้เวลานานแค่ไหนเขาก็จะไม่บ่น มินนี่เดินกลับมาหาเขาอย่างว่าง่าย เพราะโดยปกติหญิงสาวก็ไม่ค่อยดื้อกับพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินอยู่แล้ว
"มันจะมีอะไรให้ซื้อล่ะคะก็แบบเดิม ทีวี ตู้เย็น ไมโครเวฟ หม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อน เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างอื่น อ่อ... รอบนี้พ่อเลี้ยงก็ลองซื้อเป็นทองดีไหมคะ เห็นปกติใช้เป็นเงินสด คราวนี้เป็นทองสัก 1 บาท 1 สลึงอะไรแบบนี้ค่ะ"
"ก็ดีนะ ว่าไงกรเอาตามที่คุณมินนี่บอกหรือเปล่า"
"แบบนั้นก็ดีนะครับ เปลี่ยนบ้างจะได้ดูมีอะไรให้ลุ้น แต่ว่ารางวัลแค่นั้นน้อยไปหรือเปล่าครับ"
"ถ้าน้อยไปก็เพิ่มมอเตอร์ไซค์เข้าไปอีกค่ะ รถจักรยานไฟฟ้าอีก เห็นไหมมีให้เลือกเยอะแยะเลยค่ะ เพราะฉะนั้นเต็มที่กันเลยนะคะ มินนี่ขอไปช้อปปิ้งก่อน"
เธอยื่นบัตร wisdom ที่อยู่ในมือให้ทุกคนดู ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี และรีบเดินออกไปจากตรงนั้น พ่อเลี้ยงถึงกับถอนหายใจออกมา ไม่น่าให้บัตรไปก่อนเลยอุตส่าห์ให้มาช่วยเลือกซื้อของกลับเทกันซะอย่างนั้น
"เฮ้อ! ให้มาช่วยเลือกซื้อของ ดูทำสิ"
"เอาน่าถือว่าได้ไอเดียเยอะเลยครับ ถ้าอย่างนั้นเราไปเลือกซื้อของกันดีกว่า ส่วนคุณมินนี่น่าจะเดินเล่นแถวนี้แหละครับ ค่อยโทรหาก็ได้"
"อืม... งั้นก็รีบเลือกเลย"
พ่อเลี้ยงเดินตามผู้ช่วยคนสนิท และก็พนักงานคนอื่นไป ภายในใจก็ยังแอบเป็นห่วงหญิงสาวเพราะว่าเดินออกไปซื้อของเองไม่มีใครไปเป็นเพื่อน แต่คิดว่าไม่น่ามีอะไรหรอก ผู้หญิงที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศคนเดียวได้ถึงสองปี เขาคิดว่าน่าจะดูแลตัวเองได้
และในช่วงเวลาที่พ่อเลี้ยงภวินกำลังเลือกซื้อของที่จะใช้ไปจับสลาก ทางด้านของมินนี่เธอก็พุ่งตรงเข้าไปยังร้านนาฬิกาแบรนด์เนมดัง เลือกรุ่นใหม่ล่าสุดราคาหลักล้าน และเป็นสีที่หายาก ซึ่งตอนนี้เหลือแค่เรือนเดียวเท่านั้นในร้าน
"สวยมาก กรี๊ด! เอาเรือนนี้แหละค่ะ"
"ได้เลยค่ะคุณลูกค้า สนใจจะดูพวกเครื่องเพชรเพิ่มไหมคะ สามารถเอามาตกแต่งตัวเรือนนาฬิกาได้ด้วย"
"ว้าว! จริงเหรอคะถ้าอย่างนั้นรออะไรล่ะคะพาไปเลยค่ะ"
เธอยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินตามพนักงานไปด้วยความตื่นเต้น เลือกเพชรเม็ดงามมาประดับตกแต่งตัวเรือนนาฬิกาอีกหลายเม็ด รวมราคาแล้วก็เกือบ 4 ล้านบาท
จากนั้นหญิงสาวก็ถือนาฬิกาเรือนหรูเดินเข้าไปยังร้านของแบรนด์เนม ซึ่งเธอเลือกที่จะซื้อกระเป๋าใบใหม่ที่พึ่งวางขายได้เพียงสองวัน
"ใบนี้เป็นตัวใหม่ล่าสุดของเพิ่งลงเลยค่ะคุณลูกค้า ตอนนี้เหลือแค่ใบเดียวในร้านแล้ว เพราะว่าของลงมาแค่สามใบเองค่ะ"
"ราคาเท่าไหร่คะ"
"450,000 บาทค่ะ"
"เอาเลยค่ะรออะไรล่ะคะ"
เธอส่งบัตรไปให้พนักงานรีบชำระเงิน ก่อนจะเดินวนไปมาด้วยความอารมณ์ดี เนื่องจากว่าได้ช็อปปิ้งโดยที่ไม่ต้องใช้เงินของตัวเอง แต่ทว่าอีกคนที่ตอนนี้กำลังเลือกซื้อของที่จะนำไปจับฉลาก ได้ยินเสียงข้อความดังขึ้นหลายรอบก็รู้สึกแปลกใจจึงรีบหยิบโทรศัพท์มากดดู
'ขอบคุณที่ใช้จ่ายผ่านบัตร Wisdom XX-8888 ที่ ร้าน XXX จำนวน 3,850,000 บาท วันที่ XX'
'ขอบคุณที่ใช้จ่ายผ่านบัตร Wisdom XX-8888 ที่ ร้าน XXX จำนวน 450,000 บาท วันที่ XX'
'ขอบคุณที่ใช้จ่ายผ่านบัตร Wisdom XX-8888 ที่ ร้าน XXX จำนวน 54,000 บาท วันที่ XX'
'ขอบคุณที่ใช้จ่ายผ่านบัตร Wisdom XX-8888 ที่ ร้าน XXX จำนวน 20,000 บาท วันที่ XX'
"เชี่ย! เงินออกอะไรขนาดนั้น ยัยเด็กแสบ!"