Episode-๐๔ เพราะพี่!

1577 คำ
ชีวิตในมอสองเป็นอะไรที่ล่องลอยมากจริง ๆ ค่ะ สำหรับฉันมันเหมือนใช้ชีวิตไปวัน ๆ แค่นั้นเองและบางวิชาก็ไม่รู้ว่าเรียนจบไปแล้วเอาไปทำอะไร ยกตัวอย่างเช่น รำกระบี่กระบอง ... “ทำหน้าดี ๆ หน่อย กลัวคนอื่นไม่รู้เหรอว่ามึงไม่ชอบเรียนวิชานี้” “พูดอย่างกับมึงชอบตายแหละ” “จำใจเรียนอ่ะ เคยได้ยินไหม” “เฮ้อ...” “เขาเรียนให้มีความรู้ มึงอย่าสงสัยเยอะสิ” ฉันไม่ชอบเลยค่ะ อาจารย์ก็เอาแต่พูดว่าถ้าเธอรำเป็นนะ ไปสมัครงานที่ไหนเขาก็รับเลยทันที มันใช่เหรอคะ? มันเป็นศิลปะป้องกันตัวอย่างหนึ่งนะ แต่เหมือนอาจารย์ท่านนี้จะอธิบายแบบขอไปทีแล้วมันทำให้น่าเบื่อ กลายเป็นวิชาที่ไม่อยากเข้าเรียนน่ะ “ท่องไว้ว่าเขาให้คะแนนเยอะ” “เฮ้อ...” ถอนหายใจวนไปค่ะ ไม่เข้าใจตรงไหนให้ถาม พอยกมือถามกลับถูกย้อนมาว่าตอนสอนทำไมไม่ฟัง อ้าว! กว่าจะหมดชั่วโมงคือนานมาก ไม่ชอบเลยเวลาที่ไม่ได้คำอธิบายอะไร แต่ช่างมันเถอะ! “คาบต่อไปเรียนอะไร” “คอมสองชั่วโมง บ่ายดนตรี” “ฝากเปิดคอมด้วยกูไปห้องน้ำก่อน” “เออ” คล้อยหลังไอ้จูนฉันก็รีบมาเข้าห้องน้ำทันทีแต่ว่าห้องคอมมันอยู่ตึกสามค่ะ ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือห้องน้ำหลังตึกนั่นเอง พอทำธุระส่วนตัวเสร็จก็ออกมาล้างมือด้านนอก แต่คราวนี้มีสมาชิกใหม่มาเพิ่มด้วยอีกหลายคน เป็นรุ่นพี่มอปลายค่ะ มีคนหนึ่งไม่ได้เข้าห้องน้ำแต่มายืนล้างมือข้างฉัน หลังจากนั้นเขาก็สะบัดมือเต็มแรงทำให้ละอองน้ำกระเด็นใส่หน้าฉันเข้าอย่างจัง “ก็งั้น ๆ อย่ามั่นหน้าไปหน่อยเลย” เขาต้องจงใจพูดกับฉันแน่ ความรู้สึกมันบอกแบบนั้น แต่ฉันไม่อยากมีเรื่องกับใครไง “อย่ายุ่งกับทิว” ในที่สุดก็เปิดประเด็นออกมาจนได้ค่ะ “พี่เป็นแฟนพี่ทิวเหรอ” “กูบอกอย่ายุ่งก็คืออย่ายุ่ง จะวัดกันก็ได้นะ” “หนูไม่ได้รู้จักพี่ทิวเป็นการส่วนตัวสักหน่อย ไม่ได้คุยกันอยู่ด้วย” “ตอแหล!! วันก่อนที่โรงอาหารกูเห็นกับตา หลายครั้งแล้วนะมึงอ่ะ” น้ำเสียงไม่พอใจยังคงเอ่ยออกมาอย่างต่อเนื่อง “ใครกันแน่ที่ตอแหล บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกันไงวะ” “รู้ตัวว่าไม่ได้เป็นก็อย่าเสนอหน้าให้มาก!!” พลั่ก! “กูเห็นอีกครั้งนะมึงเจอกูแน่” คำขู่ดังขึ้นพร้อมกับฝ่ามือยื่นมาผลักฉันเต็มแรงจนล้มขมำไม่เป็นท่า “อีเกตุใจเย็น ๆ เดี๋ยวอาจารย์มาก็โดนเล่นหรอก” เพื่อนเขาเข้ามาห้ามก่อนจะลากกันออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันนั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นมองตัวเองในกระจก “เพราะพี่! เพราะพี่คนเดียวเลย” ก่นด่ากับตัวเอง ไม่ชอบเลยที่จะต้องมาทะเลาะกับคนอื่นด้วยเรื่องแบบนี้ “เป็นอะไรวะ หน้าบึ้งมาเชียว” มาถึงห้องคอมไอ้จูนก็เอ่ยถาม “ช่างแม่ง!” ตอบแบบขอไปที พอเห็นแบบนั้นมันก็ไม่เซ้าซี้อะไรต่อ จนหมดชั่วโมงเรียนก็ลงมาที่โรงอาหารกัน อีต้นไปซื้อน้ำ ไอ้จูนไปซื้อข้าว ส่วนฉันนั่งรอที่โต๊ะค่ะ รู้สึกได้เลยว่าอารมณ์ตัวเองยังไม่เป็นปกติ จนสายตาหันไปเห็นใครบางคนกำลังเดินเข้ามาในโรงอาหารเหมือนกัน ฉันทำเป็นไม่เห็นแล้วมองเลยไปทางอื่นแทน “กินข้าวเสร็จไปเข้าห้องน้ำกันนะ” ไอ้หมูเอ่ยชวน “ไปดิ” ระหว่างมื้อเที่ยงก็จะมีเสียงพูดคุยหัวเราะดังอยู่ตลอด จนกระทั่งกินข้าวเสร็จแล้วมาเข้าห้องน้ำ “ตาล ไปมินิมาร์ทเป็นเพื่อนหน่อยดิ” “ปวดท้องว่ะ เอ็งไปกับมุขแล้วกันนะพลอย” “เออ ๆ เอาไรกันหรือเปล่า” “อะไรก็ได้ แล้วแต่จะกรุณา” ฉันว่ายิ้ม ๆ ตอบปัดมันไปแบบนั้นแหละ พอคล้อยหลังพลอยฉันก็มานั่งรอในห้องดนตรี แต่เท้าทั้งสองข้างกลับชะงักไปเมื่อเห็นใครบางคนอยู่ในห้องนี้ด้วย ไม่สิ! เขาอยู่กันหลายคนเลยแหละ “พี่มอห้าเข้ามาทำไมวะ” หันไปถามหัวหน้าห้อง “อาจารย์เขาสอนควบ” “หมายความว่าต้องเรียนกับพี่เขางี้เหรอ” “เออ สองชั่วโมงวนไป” อยากจะบ้าตายค่ะ! อย่างนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกว่ายิ่งหนียิ่งเจอน่ะ ฉันแยกตัวออกมานั่งมุมหนึ่งของห้อง แค่เพียงไม่นานไอ้จูนกับหมูก็ตามมาติดๆ แถมยังมีขนมมาฝากฉันอีกด้วย “ซื้อแบบนี้มาจากไหน” “...” นอกจากจะไม่ตอบแล้วมันสองคนยังอมยิ้มใส่อีกด้วย ฉันมั่นใจว่าขนมห่อนี้มันไม่มีในมินิมาร์ทแน่นอน “ไม่บอกไม่กินนะ” “ขนมที่มึงคุ้นเคย” ไอ้จูนมันว่ายิ้ม ๆ คราวนี้กลายเป็นฉันเองที่เงียบไป ก่อนจะเบนสายตาไปทางใครบางคนที่กำลังหัวเราะกับกลุ่มเพื่อนเขาอยู่ “เขาฝากให้มึงตอนกูไปซื้อข้าว” “อืม” พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ “น่าอร่อยอ่ะ แกะดิกินด้วย” ไอ้หมูพูดขึ้น “แกะดิ กินได้เลย” “ให้ข้ากินเหรอ แต่เขาให้เอ็งนะ” คนตรงหน้าดูอึดอัดใจนิดหน่อย เห็นแบบนั้นฉันจึงเป็นฝ่ายแกะคุกกี้ห่อนี้เองแล้ววางลงตรงหน้า หยิบกินไปแค่หนึ่งชิ้น ที่เหลือมันสองคนซัดเรียบค่ะ ระหว่างชั่วโมงเรียนก็ไม่ได้สนใจเขาอีกเลยจนไอ้หมูสะกิด “เขามองเอ็งด้วย” “...” เขาจะมองฉันทำไม? ไม่ได้มีอะไรให้น่ามองเลยด้วยซ้ำ บางทีมันก็เว่อร์เกินไป หลังจบคาบดนตรี วิชาต่อไปเป็นคณิตศาตร์เพิ่มเติมค่ะ แต่อาจารย์ไม่อยู่และไม่มีใครสอนแทน ก็เลยอยู่ในห้องดนตรียาวเลย “กูไปห้องน้ำก่อนนะ” “เออ” บอกพวกมันก่อนจะแยกตัวออกมา แต่ใครบางคนกลับรั้งฉันไว้ซะก่อน “ถ้าไม่ได้เป็นควายก็คงเข้าใจภาษาคนที่กูพูดนะ” “พูดอะไร?” น้ำเสียงห้วนเอ่ยจากด้านหลัง เบือนหน้าไปมองเป็นพี่ทิวค่ะ ฉันไม่รู้ว่าระหว่างเขากับพี่เกตุคืออะไร และมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้แทรกกลางความสัมพันธ์ของใครด้วย “ทิวก็รู้ว่าเรา...” ฉันเลือกที่จะเดินออกมาแล้วปล่อยให้พวกเขาเคลียร์กันเอง นี่ขนาดแค่แอบชอบนะ หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จก็กลับเข้ามาในห้องดนตรี บรรยากาศรอบตัวแปลก ๆ ค่ะเหมือนถูกจับตามองยังไงก็ไม่รู้ “มึงจะยุ่งกับใครก็ได้ แต่มึงห้ามยุ่งกับคนของพี่เกตุ” ไอ้น้องเปิดประเด็นขึ้นคนแรก “ใครเหรอคนของพี่เกตุน่ะ” “มึงรู้อยู่เต็มอก! อย่าทำเป็นใสซื่อได้ไหม” “แล้วมึงจะเป็นเดือดเป็นร้อนอะไรด้วยอีน้อง กูเห็นหลายครั้งแล้วมึงออกตัวแทนอีนี่ตลอดเลย” ไอ้ป๊อปเสริมขึ้นอีกคน “ก็มันเป็นพี่กู” “มึงคลานตามมันมาหรือไง!! นี่ถ้าไม่บอกกูคิดว่ามึงชอบพี่ทิวนะเนี่ย” “...” ฉันเองก็แอบคิดเหมือนกัน แต่ไม่มีสิทธิ์โวยวายอะไร เพราะไม่ได้เป็นอะไรกัน แค่แอบชอบเขาเฉย ๆ น้องมันเงียบไปจนไอ้จูนทนไม่ไหวแล้วตั้งคำถามกับมันแทน “มึงชอบพี่ทิวเหรอไอ้น้อง” “เปล่า” “ขอให้จริงอย่างที่พูด กูไม่ได้เข้าข้างใครมึงก็เพื่อน ตาลก็เพื่อน แอบชอบก็ไม่ผิด แต่มึงจะมาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของไม่ได้” “...” ทุกอย่างเงียบลงจนถึงเวลาเลิกเรียน วันนี้ออกประตูหน้าโรงเรียนค่ะเพราะนัดกับมุขไว้จะไปร้านศึกษาภัณฑ์เพื่อซื้อของมาทำงานกลุ่ม “ขอคุยด้วยหน่อย” พี่ทิวค่ะ เขามากับพี่ริว “คุยอะไรคะ” “เกตุพูดอะไรด้วย” “พูดอะไรไม่สำคัญหรอก เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่เห็นต้องสนใจเรื่องนี้เลย อ๋อ.. เรื่องขนมขอบคุณนะคะ แต่คราวหน้าพี่ไม่ต้องลำบากหรอก หนูเกรงใจ” “เกรงใจหรืออะไรกันแน่” “...” ถ้าจะบอกว่ารู้สึกแย่เพราะพี่! ก็คงไม่ถูก การแอบชอบของฉันมันควรมีแค่ฉันที่รู้สึกสิ อีกอย่างก็ไม่ได้อยากผิดใจกับคนอื่นเรื่องผู้ชายด้วยค่ะโดยเฉพาะเพื่อน “ก่อนพี่จะคุยกับเพื่อนมุข พี่ไปเคลียร์กับคนของพี่ก่อนดีกว่านะ ตาขวางจนจะหลุดออกมาจากเบ้าอยู่ละ” ไม่รู้ว่ามุขมันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ก็คงได้ยินทุกอย่างหมดแล้ว “เออ กูเห็นด้วย เกตุแม่งโคตรน่ารำคาญ” พี่ริวเสริมขึ้นอีกคน “เราไปกันเถอะ” ฉันจูงมือมุขออกมาจากตรงนั้นทันที คิดแบบไม่ได้เข้าข้างตัวเอง การกระทำแบบนี้มันหมายความว่าพี่ทิวกำลังแคร์ความรู้สึกฉันอยู่หรือเปล่านะ แต่คงไม่หรอก...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม