Episode-๐๑ รุ่นพี่

955 คำ
“พี่คนนั้นน่ารักว่ะ” “ดูสารรูปตัวเองก่อนมึงค่อยไปชอบเขา” “กูแค่บอกว่าน่ารักเอง” “ฮ่า ๆ อีควาย! ไม่ดูตัวเองเลย อย่าว่าแต่ชอบอย่างมึงจะมีคนมองหรือเปล่าก็ไม่รู้” แน่นอนว่าประโยคชั่วร้ายนี้ถูกพ่นออกมาจากปากของเพื่อนในกลุ่ม พร้อมกับเสียงหัวเราะที่ระเบิดดังลั่นไปทั่วโรงอาหาร แต่ว่าฉันก็ไม่ได้โกรธหรอกนะคะ ที่พวกมันพูดก็มีส่วนถูก เร็ว ๆ นี้จะมีการจัดกีฬาสีของโรงเรียนค่ะ และตอนนี้ก็ถึงเวลาจับฉลากคัดเลือกสีแล้วด้วย “เอ็งอยู่สีอะไรวะ” ไอ้หมูเอ่ยถาม “ข้า จูน อีต้นและก็กิ๊บอยู่สีส้ม” “จริงดิ กรี๊ด...!! ยินดีด้วยจ้ะเพื่อนมึงได้อยู่สีเดียวกับพี่ทิวค่ะ” หมูมันว่าพลางทำท่าทีดี๊ด๊าใส่ “เอ็งรู้ได้ไง” “ชอบใครสักคนแค่นี้คงไม่ใช่เรื่องยาก” “...” เหรอวะ? ได้แต่คิดในใจก่อนจะจับสังเกตอะไรบางอย่าง “น้ำตาล เอ็งอย่ามองข้าแบบนี้ดิ” มันว่ายิ้ม ๆ “มีอะไรอยากบอกไหม?” “ข้าแอบปลื้มพี่ริวอยู่เขาน่ารักมากเลย” พี่ริวเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันกับพี่ทิวค่ะ “เอ็งอย่าบอกพวกมันนะ ข้าไม่อยากได้ยินอะไรแย่ ๆ ” “เออ เอ็งก็เก็บอาการหน่อยแล้วกัน ไม่ใช่มายืนบิดเป็นเลขแปดแบบนี้” “คิกคิก ก็เขาน่ารัก!” “หมูแต่พี่ริวมีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ แฟนเขาอยู่มอสาม” “ก็เรื่องของเขาดิ วันข้างหน้าเดี๋ยวก็เลิกกัน เพราะข้าแอบแช่งอยู่” “ไอ้ห่า!” “ฮ่า ๆ ชีวิตยังอีกยาวไกล อะไรก็ไม่แน่นอนหรอก เราไปเรียนกันดีกว่า” หมูมันหมูสมชื่อค่ะ ตัวสั้น ๆ ปุ๊กปิ๊กมากเลย ในกลุ่มเหมือนจะมีแค่ฉันกับมันนี่แหละที่โดนโจมตีบ่อย ในทุก ๆ วันก็วนเวียนอยู่แบบนั้นจวบจนใกล้ถึงวันกีฬาสี ก็จะมีกิจกรรมเข้าสีค่ะ ซ้อมเชียร์แหกปากร้องเพลงจนเสียงแหบเสียงแห้งกันไป “สวัสดีค่ะน้อง ๆ พี่ชื่อเมย์นะคะ วันนี้เราจะมาตามหาดรัมเมเยอร์ของสีกัน มีน้องคนไหนอาสาไหมคะ ยกมือขึ้นมาได้เลย เราจะให้เสียงส่วนมากค่ะ คนไหนคะแนนโหวตมากที่สุดพี่จะเลือกคนนั้น” ในจินตนาการถ้าเป็นฉันก็คงจะดี แต่ในความเป็นจริงไม่ได้เลย! “มึงว่าใครได้” เสียงไอ้จูนเอ่ยถาม “พี่ก้อยมั้ง” “ก้อยไหนวะ” “พี่มอสามนั่นไง” ฉันว่าพลางชี้มือไปให้มันดู “ไอ้ทิว ลงตะกร้อกับกูหน่อย” เสียงใครคนหนึ่งดังเข้ามาในหูฉัน ไม่ได้เบือนหน้าไปมองหรอกค่ะ แค่ฟังเฉย ๆ “เสียใจด้วย กูลงบอลไปแล้ว” “อะไรวะ” น้ำเสียงของพี่คนนั้นหัวเสียพอสมควรต่างจากใครอีกคนที่ชิวมาก “ไอ้ทิว! มาช่วยพวกกูเลย ไม่ต้องมาเนียนแอบต่อแถวน้อง” พี่เมย์ตะโกนเรียกทำให้ทุกสายตาจับจ้องมาทางฉัน เห็นแบบนั้นฉันจึงหันไปมองด้านหลังตัวเองทำให้ปะทะเข้ากับสายตาดุ ๆ คู่หนึ่ง ตึกตัก! ตึกตัก! ใจเต้นแรงเป็นบ้าเลยค่ะ ได้สบตากับเขาด้วย “ขี้เกียจ! จบนะ” “สัส! กินแรงฉิบหาย” ถูกเพื่อนด่าก็ยังคงนั่งชิวอยู่ จนกระทั่งหมดชั่วโมงกิจกรรม พวกเราก็แยกย้ายกลับบ้านค่ะ “กลับเลยหรือเปล่า” ฉันหันไปถามไอ้จูน “มึงกลับไงอ่ะ กูต้องไปรออ้อซ้อมเต้นอีก” “วินมั้ง รถเมล์คนเยอะฉิบหาย” “เออ ถึงบ้านแล้วโทรหากูด้วย” พูดจบมันก็เดินไปทางห้องดนตรีเลยค่ะ แฟนมันเป็นแดนเซอร์ของโรงเรียนไง คล้อยหลังไอ้จูนฉันก็แยกตัวมาเข้าห้องน้ำและจังหวะนรกก็เกิดขึ้นจริง ๆ ดันเป็นวันนั้นของเดือนค่ะที่สำคัญมันเลอะกระโปรงนักเรียนตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เพื่อนก็กลับไปหมดแล้ว ร้านค้าในโรงเรียนก็ปิดหมด แล้วแบบนี้จะกล้าเดินออกไปได้ยังไง นานมากที่เก็บตัวอยู่ในห้องน้ำ ชะเง้อออกไปเป็นระยะว่าด้านนอกยังมีคนอื่นหลงเหลืออยู่ไหม ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้วค่ะ ประตูโรงเรียนจะปิดแล้วด้วย เมื่อเห็นว่าปลอดคนฉันจึงค่อย ๆ ก้าวเท้าออกมา... “ยังไม่กลับอีกเหรอ” “...” “เป็นอะไรหรือเปล่า” พี่ทิวพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นฉันเอาแต่เงียบ “เปล่าค่ะ แล้วพี่ยังไม่กลับอีกเหรอ” “ซ้อมบอลน่ะ” “อ๋อ...” “น้องก็กลับได้แล้วครับ” “ค่ะ” ล้างหน้าเสร็จเขาก็วิ่งกลับไปหากลุ่มเพื่อนทันที กวาดสายตาไปรอบบริเวณ บรรยากาศมันโคตรจะเงียบเลย วังเวงแปลก ๆ มองซ้ายที ขวาทีตั้งสติแล้วก้าวเท้าออกจากตรงนี้ให้ไวที่สุด พรึ่บ! เสื้อแขนยาวตัวโคร่งพาดลงบนบ่าฉัน “กระโปรงน้องเลอะครับ เอาเสื้อพี่ผูกเอวไปก่อนละกัน” เชี่ย...โคตรอายเลยค่ะแต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากยกมือไหว้แล้วกล่าวขอบคุณกับเขาแทน “ขอบคุณนะคะ หนูจะรีบซักมาคืน” “อืม” “...” หลังจากนั้นอีนี่ก็ก้มหน้าก้มตาเดินอย่างเดียวเลยค่ะ แต่ก็ไม่วายได้ยินประโยคเจ็บ ๆ อยู่ดี “ไอ้ทิว! มึงชอบใหญ่ ๆ แบบนี้เหรอวะ ฮ่า ๆ ๆ ” “เหี้ยไรมึง กูก็แค่หวังดี” “เหรอ? กูนึกว่าชอบของแปลก” “...” ก็แค่อ้วนเอง มันแปลกมากเลยสินะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม