พวกพี่ ๆ พากันเดินออกไปที่บ้านของตัวเอง ผมไม่ได้สนใจอะไรมากนัก ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดปลดล็อก หน้าจอยังคงขึ้นรูปของ
ไอติม เพราะในตอนแรกผมไม่ได้กดออกจากแอปเฟซบุ๊ก ผมกดล็อกไปเลย
สายตาของผมจับจ้องแต่ใบหน้าสวย ๆ ของคนในรูป สวยแบบร้าย ๆ ดูหยิ่ง ๆ นิสัยก็ออกแนวหยิ่งตามหน้าตานั่นแหละ ผมเลื่อนนิ้วมาที่ปุ่มแชร์ตัดสินใจกดแบบไม่ลังเล และกดตั้งค่าความเป็นส่วนตัว เลือกเฉพาะฉัน จะได้ไม่ต้องมีใครเอามาแซว เอามาเยาะเย้ย พูดจากวนประสาท และไอติมจะได้ไม่รู้ด้วยว่าผมแชร์รูปของเธอมา
พูดถึงไอติมแล้วคิดถึง ผมกดเลือกตรงแถบค้นหา TIM.ITIM รายชื่อนี้อยู่ด้านบนสุด ผมกดเลือกและเลื่อนนิ้วสไลด์ดูหน้าไทม์ไลน์เฟซบุ๊กของไอติม ไม่ได้เข้ามาดูหลายวันแต่ก็ไม่ได้มีอะไรอัปเดตมากนัก ไอติมนี่เป็นคนขี้เกียจอัปโซเชียล ส่วนมากพวกเพื่อนเธอหรือเพจงานที่เธอไปทำจะโพสต์และแท็กมา
“กูถึงว่าทำไมมึงหายเงียบ ที่แท้มานั่งแอบดูรูปไอติม” ไอ้ปืนมันมานั่งข้าง ๆ ผม แล้วเอาบุหรี่ไปสูบ
“เสือก” ผมตอบกลับแล้วจะลุกหนี แต่เสียงของมันทำให้ผมชะงักและนั่งเหมือนเดิม
“กูเข้าใจความรู้สึกมึงนะไอ้ไฟ ไปต่อก็ไม่รู้จะไปยังไง จะให้ถอยก็ทำไม่ได้ ก็ได้แต่วนเวียนอยู่ใกล้ ๆ แบบนี้”
หัวคิ้วของผมย่นเข้าหากันในทันทีแล้วหันไปมองหน้าไอ้ปืน สีหน้าของมันดูเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ มันเป็นคนร่าเริง ทะเล้น กวนส้นตีน พอ ๆ กับไอ้กราฟ การที่มันนิ่งขนาดนี้แสดงว่ามันต้องมีอะไร
“มึงกับติมสักวันต้องมีทางออกดี ๆ แหละวะ”
“ฮึ” ผมแค่นหัวเราะออกมา ไอ้ปืนนี่ก็เพ้อเจ้อ ผมกับไอติมจะมีทางออกดี ๆ ได้อย่างไร ไอติมไม่ได้แยแสผมเลย ทุกวันนี้ไอติมจำได้หรือเปล่าว่ามีผมอยู่บนโลก
“เออน่า เชื่อกูเถอะ”
“ไม่” ผมตอบสั้น ๆ ไอ้ปืนก็กลอกตาไปมา
“ซัคเซสนี่ก็ทีมพี่ชายไอติมนี่หว่า มึงอาจจะได้เจอไอติมก็ได้”
“ไม่หรอก ไอติมไม่ค่อยถูกกับพี่ชาย”
เมื่อตอนที่คุย ๆ กัน ไอติมเคยบอกว่ามีพี่ชายชื่อเอ็ม แต่ไม่ค่อยถูกกันสักเท่าไหร่ เป็นลูกคนละแม่กันน่ะครับ แม่ของไอ้เอ็มเสียชีวิตตั้งแต่ที่ไอ้เอ็มยังไม่ถึงขวบ เราสองคนพูดถึงครอบครัวของเราและเพื่อน ๆ ของเรากันอยู่ตลอด ไอติมรู้จักทางฝั่งผมทุกคน ก็เหมือนที่ผมก็รู้จักทางฝั่งของไอติม
“ก็ไม่แน่นะเว้ย ไอติมเป็นพริตตี้ อาจจะมายืนที่รถของพี่ชายก็ได้”
“กูว่าไม่”
“แต่กูว่าไม่แน่ มึงซ้อมคุยกับไอติมเถอะ เวลาเจอจะได้ไม่ต้องหลบหน้า” ไอ้ปืนมันยกยิ้มขึ้นมา คนอย่างมันนี่นิ่งได้ไม่นานจริง ๆ
“กูไม่กล้าเผชิญหน้ากับติมหรอก”
“มึงอย่าปอดแหกกูขอร้อง หน้าตามึงก็ดีแม้จะหล่อน้อยกว่ากูแต่มึงก็จัดว่าหน้าตาดี ฐานะมึงก็ดี สันดานมึงก็ใช้ได้ สาว ๆ ชอบมึงเยอะแยะ”
“เว้นไอติม”
“ไอติมอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ ถ้ามาเห็นมึงตอนนี้”
ผมพยักหน้าส่ง ๆ ไอ้ปืนมันจะได้เลิกพูดสักที ผมขี้เกียจฟัง คนอย่างไอติมไม่ได้ชอบแค่ที่หน้าตาหรือฐานะหรอก ผมว่าผมยังนิสัยดีไม่พอ หรืออาจจะคุยแล้วไม่คลิก ไอติมถึงได้เท ผมก็หน้านี้มาตลอด มีแค่หุ่นที่ล่ำขึ้นเพราะออกกำลังกาย จะว่าชอบเพราะหน้าตาก็ตัดทิ้งไปได้เลย ฐานะก็ไม่ได้เพิ่งจะรวยข้อนี้ก็ตัดทิ้งไปได้อีกเช่นกัน สรุปว่า ไอติมไม่ชอบผมนั่นแหละ…
ฟิตเนสในหมู่บ้านที่แม่อยู่ ผมมาออกกำลังกายที่นี่อยู่บ่อย ๆ วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมและเพื่อน ๆ พากันมา เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมาออกกำลังกายที่ตัวเองต้องการ ช่วงนี้ผมเน้นเวตสร้างกล้ามต่อสักหน่อย
“จ๊ะเอ๋” เสียงใสดังขึ้นมา ผมวางดรัมเบลลงแล้วหันไปหาต้นเสียง ลูกเกดยิ้มแฉ่งให้ ไม่ได้เจอกันตั้งนานเธอก็ดูไม่เปลี่ยนเลย
“ลูกเกดมาได้ไงอะ” ผมถามกลับไปไม่คิดว่าจะมาเจอเธอที่นี่
“เกดอยู่หมู่บ้านนี้พ่อแม่เกดเพิ่งมาซื้อน่ะ อยู่ซอยสิบท้ายซอยเลย”
“อ๋อ” ผมพยักหน้ารับ
“เกดเห็นในเฟซเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ไฟจะมีแข่งรถเหรอ”
“อืม”
“งั้นถ้าเกดว่าง เกดจะชวนเพื่อนไปเชียร์ไฟนะ”
“อ่า” ผมพยักหน้าหงึก ๆ จะให้ปฏิเสธก็คงไม่ใช่ ก็ต้องปล่อยเลยตามเลย ลูกเกดจะไปใครจะไปห้ามได้ล่ะ อีกอย่างคือไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องไปห้ามเธอด้วย
“แล้วนี่ไฟมีแฟนยัง เกดเห็นในเพจมหา’ลัยไฟฮอตเวอร์”
“ไม่มี” ผมตอบกลับแล้วมองไปทางเพื่อน ๆ ของผม พวกมันก็กำลังมองมาและยังทำหน้าล้อเลียนผมด้วย
“ดีจัง เผื่อเกดอยากจีบไฟอีก”
“อ่า” จะให้ตอบอย่างไรล่ะแบบนี้
“งั้นเกดไปวิ่งก่อนนะ ไว้เจอกันที่สนามแข่งนะไฟ” เธอลุกขึ้นยืนแล้วหันมายิ้มให้อย่างสดใสก่อนจะเดินออกไป
ผมมองตามแผ่นหลังของเกดแล้วค่อยหันกลับมาทางเดิม ออกกำลังกายไปเรื่อยเปื่อยไม่ได้สนใจกับสิ่งที่ลูกเกดพูด…