ตอนที่ 2 พี่หมีของเพลง

1681 คำ
"เพลงเข้าไปรอแม่หวาในบ้านเถอะลูก ยุงยิ่งชุมๆ อยู่ เดี๋ยวมันจะกัดเอา" อนงค์ในวัย 52 ปีเอ่ยบอกเด็กหญิงตัวน้อยที่ตนรับจ้างเลี้ยง "เพลงอยากรอแม่หวาตรงนี้ค่ะยายนง ถ้าแม่หวามาเพลงจะได้เห็น" เพลง เพลงภิณ เด็กน้อยวัย 3 ขวบ นั่งกอดตุ๊กตาหมีสีขาวอยู่ที่ซุ้มชิงช้าที่มีสภาพเก่าไปตามกาลเวลาแต่ก็ยังสามารถโยกไหวไปมาได้ "ตามใจ ยายไล่ยุงให้ สงสัยวันนี้แม่หวาของเพลงจะงานเยอะถึงได้กลับผิดเวลา" อนงค์เดินมานั่งข้างๆ เพลง ใช้แส้ที่ทำจากเชือกฟางคอยปัดไล่ยุงหรือแมลงให้พลางชวนคุยไปเรื่อย "เพลงไม่อยากให้แม่หวาทำงานเยอะเลยค่ะยายนง ทำงานเยอะแม่หวาก็เหนื่อย" "แม่หวาหาเงินให้เพลงไปโรงเรียนไงลูก ปีหน้าเพลงก็จะได้ไปโรงเรียนแล้ว ถึงเวลานั้นยายคงเหงาแย่" "ถ้าเพลงไม่ต้องไปโรงเรียน แม่หวาก็ไม่ต้องทำงานเยอะ เพลงไม่อยากไปโรงเรียนแล้ว" "เพลงต้องไปโรงเรียนสิลูก เพลงรู้ว่าแม่หวาเหนื่อย เพลงก็ต้องตั้งใจเรียนหนังสือให้เก่งๆ แม่หวาจะได้ชื่นใจที่มีลูกสาวน่ารักแถมยังเรียนเก่งอีกด้วย ยายว่าแค่นี้แม่หวาของเพลงก็หายเหนื่อยแล้ว" "ถ้างั้นเพลงจะตั้งใจเรียนหนังสือให้เก่งๆ ค่ะ แม่หวามาแล้ว" เสียงใสร้องเรียกด้วยความดีใจเมื่อเห็นคนเป็นแม่ รีบไต่ลงจากชิงช้าวิ่งเข้าไปหาทั้งที่มีตุ๊กตาหมีสีขาวกอดไว้แนบอกด้วยมือข้างหนึ่ง "ออกมารอแม่หวาเหรอคะ" ยี่หวา บุญญาพร อายุ 20 ปี กำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่สาม มหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง ย่อตัวลงรอรับกอดจากลูกสาวตัวน้อย "ค่ะ แม่หวาเหนื่อยไหม" มือเล็กๆ แนบลงไปบนแก้มของคนเป็นแม่ เอ่ยถามด้วยถ้อยคำเดิมอย่างทุกวันที่เธอกลับจากการทำงานหารายได้พิเศษ "แค่เห็นหน้าเพลงแม่หวาก็หายเหนื่อยแล้วค่ะ ขอแม่หวาเติมพลังหน่อยสิ" ยี่หวาหอมแก้มนุ่มนิ่มของลูกสาวทั้งสองข้างเป็นการเติมพลังใจให้ตัวเอง "ออกมานั่งรอตั้งแต่ทุ่มครึ่งแล้ว" "ขอบคุณมากนะคะป้านง หวามีเรื่องจะคุยกับป้านงค่ะ" "ป้าก็มีเรื่องจะคุยกับยี่หวาอยู่เหมือนกัน มาๆ" อนงค์เดินกลับไปนั่งที่ชิงช้าตามเดิม "แม่หวาขอคุยธุระกับยายนงแป๊บหนึ่งนะคะ เพลงยังไม่ง่วงใช่ไหม" "ยังค่ะ" ยี่หวาจูงมือลูกสาวไปที่ชิงช้าแล้วอุ้มขึ้นไปนั่ง "ยี่หวามีอะไรจะบอกป้าเหรอลูก" "คือพรุ่งนี้หวาจะไปสมัครงานที่ใหม่ค่ะ ที่นี่ได้เงินดีกว่ามาก แต่จะเลิกดึกหน่อย หวาคงต้องรบกวนให้เพลงนอนกับป้านง พอหวาเลิกงานก็จะมารับค่ะ" "เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าพรุ่งนี้ป้าไม่อยู่น่ะสิ ป้าต้องไปงานบวชหลานที่สมุทรปราการ กว่าจะกลับก็วันมะรืนเย็นๆ" "อ้าวเหรอคะ ไม่เป็นไรค่ะ หวาเอาเพลงไปด้วยก็ได้ แค่สมัครงานคงไม่มีอะไรมาก" "เย่ๆ เพลงจะได้ไปทำงานกับแม่หวาด้วย" เพลงยกมือยกไม้ด้วยความโลดเต้นดีใจ "ดีใจใหญ่เลย ไม่อยากนอนกับยายล่ะสิ" "อยากนอนกับยายนงค่ะ แต่อยากไปกับแม่หวามากกว่า" "นี่เป็นค่าเลี้ยงดูเพลงเดือนนี้ค่ะ" ยี่หวายื่นเงินจำนวนห้าพันบาทให้อนงค์เป็นค่าเลี้ยงดูเพลง ซึ่งอนงค์คิดราคาเพียงเท่านี้ด้วยสงสารยี่หวาที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงลูกน้อย แล้วยังต้องส่งตัวเองเรียน และในปีหน้าก็ต้องส่งลูกสาวเรียนอีกคน ช่วงนี้ยี่หวาจึงต้องทำงานมากขึ้น อีกทั้งเธอยังเอ็นดูเพลงเป็นอย่างมากด้วย แล้วบ้านเธอกับสองแม่ลูกก็อยู่ห่างกันแค่สองหลัง เห็นยี่หวามาตั้งแต่ยังตัวเท่าเพลง ส่วนเพลงก็เห็นมาตั้งแต่แบเบาะ และตัวเธอเองก็ไม่มีภาระอะไร ลูกเต้าก็แยกย้ายไปมีครอบครัวกันหมดแล้ว สามีก็ตายจากกันไปหลายปี ทิ้งเงินไว้ให้ก้อนหนึ่งที่มากพอจะเลี้ยงตัวเองไปตลอดชีวิตถ้ารู้จักกินรู้จักใช้ "ยายให้ค่าขนมเพลงลูก ถ้าไม่อยากซื้อขนมก็เอาไปหยอดกระปุกไว้ เก็บไว้เป็นทุนการศึกษา หรือไว้ใช้ในยามจำเป็นรู้ไหมลูก" อนงค์ยื่นธนบัตรใบละหนึ่งพันให้เพลงหนึ่งใบ และให้แบบนี้เป็นประจำทุกเดือน "ขอบคุณค่ะยายนง ยายนงใจดีที่สุดเลย" เพลงรับเงินมา และไม่ลืมที่จะขอบคุณอนงค์ ก่อนจะเก็บเงินใส่กระเป๋าสะพายข้างใบเล็กๆ ของตน แล้วจะนำไปหยอดกระปุกหมูสีชมพูที่คนเป็นแม่ซื้อให้ "นี่ก็จะสามทุ่มแล้ว ยี่หว่าพาเพลงกลับไปนอนเถอะ ป้าก็จะไปอาบน้ำนอนเหมือนกัน พรุ่งนี้ต้องไปแต่เช้า" "ค่ะป้านง ไปค่ะเพลง กลับบ้านกัน" "เพลงกลับแล้วนะคะยายนง บ๊ายบายค่ะ" เพลงโบกมือลาอนงค์ ยี่หวาจูงมือลูกสาวเดินกลับบ้าน วันต่อมา TXRBO CLUB "เพลงนั่งรอแม่หวาตรงนี้นะคะ ห้ามไปไหนเป็นอันขาด แล้วก็ห้ามคุยกับคนแปลกหน้า ไม่ว่าใครทั้งนั้น ใครชวนไปไหนก็ห้ามไป ถ้ามีอะไรต้องตะโกนเรียกแม่หวาดังๆ เข้าใจไหมคะ" ยี่หวาย้ำเตือนลูกสาวด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง "เข้าใจค่ะ เพลงจะนั่งตรงนี้ไม่ไปไหน เพลงจะไม่คุยกับคนแปลกหน้า ถ้ามีอะไรจะตะโกนเรียกแม่หวาดังๆ ค่ะ" เพลงตอบรับคนเป็นแม่แข็งขัน แล้วนั่งลงบนก้อนอิฐที่ถูกนำมาเรียงกันเป็นแปลงต้นไม้ มีตะกร้าใส่นมกับของกินวางอยู่ บริเวณสวนหย่อมข้างๆ ห้องที่เธอจะมาสมัครงานเป็นพนักงานเสิร์ฟจากคำชักชวนของรุ่นพี่ "เพลงอย่าไปไหนนะคะ รอแม่หวาตรงนี้" ยี่หวาย้ำเตือนลูกสาวอีกครั้งอย่างอดห่วงไม่ได้ ถึงแม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอต้องปล่อยให้ลูกสาวนั่งรอเธออยู่แบบนี้ "แม่หวาไม่ต้องห่วงเพลงเลยค่ะ เพลงจะเชื่อฟังแม่หวา ตั้งใจสมัครงานนะคะ" เพลงโบกมือให้คนเป็นแม่พร้อมรอยยิ้มสดใส รอยยิ้มที่เป็นกำลังใจที่ดีเยี่ยมของเธอ "พี่หมีอยู่ตรงนี้ก่อนนะ เพลงขอกินนมก่อน" เพลงวางตุ๊กตาหมีไว้ข้างตัว ก่อนจะหยิบนมกล่องที่คนเป็นแม่เตรียมไว้ให้ขึ้นมาดื่ม "เจ้าหมา มากัดพี่หมีของเพลงได้ไง เอาพี่หมีของเพลงมานะ" ไม่รู้ว่าลูกสุนัขมาจากไหน จู่ๆ มันก็เข้ามากัดสะบัดตุ๊กตาหมีของเพลงไปมา ราวกับเป็นของเล่นของมัน ก่อนจะคาบตุ๊กตาหมีวิ่งหนีไป "เจ้าหมาหยุดนะ เจ้าหมาหยุดสิ อย่าวิ่งหนีเพลง เอาพี่หมีของเพลงมานะ เจ้าหมา เพลงบอกให้หยุด" เพลงวิ่งตามเจ้าลูกสุนัขที่คาบตุ๊กตาหมีสีขาวอยู่ในปากวิ่งหนีไป ก่อนมันจะปล่อยตุ๊กตาหมีทิ้งเมื่อเจอของที่ถูกใจกว่า และวิ่งหายไป "ไอ้เจ้าหมาดื้อ เจ้าหมานิสัยไม่ดี ดูสิพี่หมีของเพลงเลอะหมดเลย พี่หมีบาดเจ็บด้วย ไอ้เจ้าหมาบ้า ทำหูพี่หมีขาดเลย ไม่เป็นไรนะพี่หมี ถ้าแม่หวาสมัครงานเสร็จ จะให้แม่หวาทำแผลให้ เพราะว่าแม่หวาเก่งที่สุด จริงด้วย ต้องรีบไปแล้ว เดี๋ยวแม่หวาหาเพลงไม่เจอ" เพลงก่นว่าเจ้าลูกสุนัขหลังจากหยิบตุ๊กตาของตัวเองขึ้นมาในสภาพยับเยิน ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังขัดคำสั่งคนเป็นแม่ ระหว่างเดินกลับก็พบผู้ชายคนหนึ่งกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ "คุณลุงอย่าสูบบุหรี่ บุหรี่ไม่ดีต่อสุขภาพค่ะ" เพลงจับดึงชายเสื้อเชิ้ตสีดำของชายหนุ่มตัวสูงที่ยืนสูบบุหรี่ "เฮ้ย! เด็กที่ไหนวะ" ภีมร้องด้วยความตกใจที่เห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กมายืนอยู่ตรงหน้า เขารีบดับบุหรี่ที่พึ่งสูบทันที "คุณลุงอย่าสูบอีกนะคะ" เพลงบอกอีกครั้งก่อนจะเดินเลี่ยงไป "เดี๋ยว หลงทางหรือเปล่า รู้ไหมว่าที่นี่เขาไม่ให้เด็กเข้ามา" ภีมเอ่ยเรียก และยังคงสงสัยว่าเด็กคนนี้เข้ามาที่นี่ได้อย่างไร หรือว่าจะเป็นลูกของใครแถวนี้ จะว่าเป็นลูกหลานของพนักงานก็ไม่น่าใช่ เพราะทุกคนรู้กฎของที่นี่ดีว่าห้ามเด็กเข้ามา "เพลงมาตามพี่หมีค่ะ พี่หมีถูกเจ้าหมาคาบมา คุณลุงดูสิ พี่หมีหูขาดเลย แต่ไม่เป็นไรนะเดี๋ยวให้แม่หวาเย็บให้" เพลงชูเจ้าตุ๊กตาหมีสีขาวที่เปรอะเปื้อนและหูขาดให้ภีมดู ก่อนจะเอามันมากอดแนบอกแล้วเอ่ยปลอบ "เพลง? ชื่อเพลงเหรอ" "ค่ะ แล้วคุณลุงชื่ออะไรเหรอคะ" "ลุงชื่อภีม แล้วทำไมเพลงถึง....." "เพลงต้องไปแล้วค่ะ เดี๋ยวแม่หวาหาเพลงไม่เจอ" เพลงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังขัดคำสั่งคนเป็นแม่อีกแล้ว จึงรีบวิ่งกลับไปทางเดิมที่วิ่งมา ภีมจะก้าวเดินตาม แต่แอล บอดี้การ์ดหนุ่มก็เดินเข้ามาเสียก่อน "เฮียครับ คนที่มาสมัครงานพร้อมให้สัมภาษณ์แล้วครับ" "อืม ...หายไปไหนแล้ว" ภีมตอบรับเสียงในลำคอ หันมองหาเด็กน้อยแต่ก็วิ่งหายไปเสียแล้ว "มีอะไรหรือเปล่าครับ" "ไม่มีอะไร" ภีมว่า ก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม