สีหราชเดินหน้าตึง ๆ มาขึ้นรถ แต่พอนึกได้เขาก็หันมายิ้มให้กับคนรัก แต่มนัสวีย์ไม่พูดอะไร เธอกลับนั่งนิ่งหลับตาลงไป แต่ภายในใจครุ่นคิด
“พี่ชายกับน้องสาว ทำไมต้องจูบกันแบบดูดดื่มด้วยคะ” น้ำเสียงที่ไม่พอใจเอามาก ๆ เอ่ยขึ้น หลังจากที่นั่งรถไปได้สักครู่ใหญ่ ๆ แล้ว ตอนที่สีหราชกำลังเลี้ยวหัวรถเข้าไปในเขตบ้านพักของมนัสวีย์
“หลิวเห็นหรือ?” สีหราชถามด้วยความตกใจ
“ค่ะ ถ้าหลิวไม่เห็นก็คือไม่มีอะไรเกิดอย่างนั้นหรือคะ” เธอหันไปสบตากับเขาตอนที่รถยนต์จอดหยุดสนิทที่หน้าบ้าน
“หลิว” สีหราชจับมือของคนรักเอาไว้ทันที แต่เธอสะบัดมือของเธอออกอย่างแรง
“ยังไงคะ พี่สิงห์จะพูดอะไร” หลิวทำน้ำเสียงหมางเมิน
“หลิวพี่รักหลิวนะ อีกอย่าง ผิงผิงยังเด็ก”
“เด็กหรือคะ ยี่สิบสองปีไม่เด็กแล้วละมั้งคะ” เธอเถียงเขากลับมาทันที
“แต่สำหรับพี่ ผิงผิงคือน้องสาว”
“แต่ผิงผิงเธอคิดอย่างนั้นกับพี่หรือเปล่าคะ หลิวไม่รู้เรื่องราวอะไรที่พี่สิงห์สัญยงสัญญาเอาไว้ในตอนเด็ก ๆ หรือตอนไหน ๆ” เธอมองตอบเขาด้วยสายตาที่เจ็บปวด
“แต่หลิวขอทบทวนค่ะ เรื่องที่เราจะแต่งงานกัน” มนัสวีย์กระชับสายกระเป๋าแน่น ก่อนจะใช้อีกมือขยับเพื่อเปิดประตู
“เฮ้ย... หลิวได้ยังไง ทำไมพูดออกมาแบบนี้”
สีหราชเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ เขากระชากแขนของเธอเอาไว้ทันที ก่อนจะกอดกระชับร่างเล็ก ๆ ที่เริ่มสั่นเทาแล้วทำน้ำตาคลอ
“พี่ไม่ยอม เราจะทำทุกอย่างตามกำหนด แล้วพี่จะคุยกับผิงผิงเอง”
มนัสวีย์ผลักหน้าอกของเขาออกทันที
“ผิงผิงไม่ใช่เด็กสาวที่พี่สิงห์จะจัดการเธอได้ง่าย ๆ หรอกนะคะ อีกอย่างถ้าพี่ยังเคลียร์ตัวเองไม่แน่ชัด หลิวก็ต้องถามใจตัวเองด้วยเหมือนกัน”
“เราสองคนรักกันไม่ใช่หรือ หลิวต้องเชื่อใจพี่” เขาโอดครวญ
“แต่สิ่งที่หลิวเห็น พี่ไม่เห็นผลักไสผิงผิงเลย พี่สิงห์ก็รู้ว่าหลิวเกลียดการนอกใจที่สุด”
“แต่พี่ไม่ได้นอกใจหลิว”
“กลับมาจากสัมมนาเราสองคนค่อยคุยกันใหม่ค่ะ ตอนนี้บอกตรง ๆ หลิวยังไม่พร้อม” เธอพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ
“หลิว ไม่เอาสิ อย่าทำแบบนี้ เราต้องพูดกันให้จบคืนนี้” สีหราชจับมือของคนรักเอาไว้แน่น สายตาเต็มไปด้วยคำขอโทษ
“ไม่ค่ะ” เธอสะบัดออกอย่างแรงอีกครั้ง
ก่อนจะทำหน้าตึงขึ้นมาอีก เชิดหน้าสูดหายใจเข้าลึก ๆ
“หลิวไม่พร้อมที่จะคุย พี่กลับไปจัดการตัวเองให้ชัดเจนนะคะ หากว่าพี่เลือกหลิว จะไม่มีผิงผิงในชีวิตของเราทั้งคู่” มนัสวีย์พูดทิ้งท้าย ก่อนจะเปิดประตู แล้วเดินหายเข้าไปในบ้านพัก
“บ้าจริง ๆ” สีหราชสบถออกมา ยกมือขึ้นทุบไปที่พวงมาลัยของรถอย่างแรง นึกไปถึงใบหน้ายียวนของดาริกาแล้ว และการกระทำของเธอที่จู่โจมเขาที่หน้าห้องน้ำแล้ว ถ้าเขาเป็นหลิวก็คงปรี๊ดแตกเหมือนกัน
สีหราชรีบหยิบมือถือ ก่อนจะส่งข้อความเข้าไปหาหญิงคนรัก
“หลิวจ๋าให้พี่นอนด้วยนะคะคนดี เราต้องเคลียร์กัน อีกอย่างพรุ่งนี้พี่จะได้ไปส่งหลิวขึ้นรถด้วย”
“...............” ไม่มีคำตอบใด ๆ ตอบกลับมา
สีหราชนั่งรออยู่ในรถจนเกือบชั่วโมง ก่อนที่ไฟฟ้าในห้องนอนของมนัสวีย์จะดับลงเขาขับรถตรงกลับไปที่บ้านพักด้วยหัวใจห่อเหี่ยว
“ยายจอมยุ่ง หาเรื่องให้พี่แท้ ๆ คอยดูนะจะจัดการให้” เขานึกไปถึงน้องสาวคนสวยที่สร้างเรื่องให้กับเขาแล้วก็อารมณ์เสีย
กริ้ง... กริ้ง... กริ้ง... มือถือของสีหราชดังขึ้น
“หวัดดีครับแม่”
“จะแปดโมงอยู่แล้ว ถึงไหนแล้วข้าวโพด” ไก่ถามออกไปแบบรีบเร่ง
“เข้าไร่มาแล้วครับ” เขารีบตอบพร้อมกับถอนหายใจ พอขับรถเข้ามาถึงหน้าบ้าน ก็เห็นดาริกากำลังยืนอยู่กับเด่นนภาที่หน้าบ้าน
ป้าไก่กำลังจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้กับหลานสาวคนเก่งอยู่
“สวยแล้ว หลานสาวป้า” ไก่ยิ้มหน้าบาน
“ตำรวจไทยเนี่ยเขาต้องตรงเวลานะ” ไก่เหน็บลูกชายทันที
“แปดโมงหนึ่งนาทีนะแม่” เขาส่ายหน้านิด ๆ ยิ้มให้กับแม่ ก่อนจะสวมกอดแน่นแล้วหอมแก้มหนักสองสามที
“ไปส่งน้องด้วย แล้วพากลับมาส่งบ้านนะ เออ... ผิงผิงจำทางไว้นะลูก ต่อไปต้องขับไปเอง” ป้าไก่หันไปสั่งหลานสาว
“ค่ะ ผิงผิงจะพยายาม” เธอยิ้มกว้าง แต่พอหันมาเห็นใบหน้าบึ้ง ๆ ของพี่ข้าวโพดแล้วก็ต้องหุบยิ้ม
“ไปกันได้แล้ว” ไก่ไล่หลัง พร้อมกับโบกมือให้ทั้งสอง
“ขอบคุณนะคะที่พี่ข้าวโพดสละเวลามาส่ง แล้ววันนี้ไม่ต้องทำงานหรือคะ” เธอถามด้วยน้ำเสียงสดใส
ข้าวโพดหันมาทำหน้าเข้ม ๆ ใส่น้องสาว นึกในใจว่าดาริกาแกล้งลืมเรื่องเมื่อคืนหรือเปล่า แต่สำหรับเขาเรื่องของมนัสวีย์และดาริกามันตีอยู่ในหัวของเขาเต็มไปหมดจนนอนไม่หลับ
“ลา... พรุ่งนี้พี่ถึงจะทำงาน”
“ว้า นึกว่าพอส่งผิงผิงเสร็จจะได้ไปดูที่ทำงานของพี่สิงห์สักหน่อย”
“ใครใช้ให้เรียกชื่อพี่สิงห์” เขาหันมาทำหน้าเข้มอีกครั้ง
“อ้าว... พี่หลิวยังเรียกได้เลย พี่สิงห์คะ พี่สิงห์ขา...” ดาริกาทำเสียงยานคาง
“เรียกพี่ข้าวโพดเหมือนเดิม จำเอาไว้นะ ผิงผิงเป็นได้แค่น้องสาว” เขาพูดตัดเยื่อใย หนักใจไม่หายเรื่องที่มนัสวีย์พูดเอาไว้ก่อนจากกันเมื่อคืน
“ค่ะ” ผิงผิงรับปากเสียงยาว ก่อนจะหันมองตรงไปข้างหน้า กำมือที่ซุกอยู่ในกระเป๋าแน่น
“เกลียดผิงผิงมากหรือคะ” น้องสาวหันหน้าไปถามเขา นัยน์ตาตัดพ้อ
“ผิงผิง... มันคนละเรื่อง พี่กำลังจะแต่งงาน แล้วเรื่องเมื่อคืนทำให้หลิวเขาโกรธพี่มาก”
“หึงหรือคะ ผิงผิงมีอะไรน่าหึง ถ้ารักกันจริง ก็ต้องเชื่อใจกันสิคะ”
“เลิกยุ่งเกี่ยวกับพี่นะ ไม่งั้นอย่าหาว่าพี่ไม่เตือน”
“พี่ข้าวโพด” ผิงผิงถึงกลับอึ้งไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปากของเขา
‘ใจร้ายที่สุดเลย’ เธอโอดครวญอยู่ในใจ ทำหน้าเง้าออกมาอย่างชัดเจน สองคนนั่งเงียบกันไปตลอดเส้นทาง
“ถ้าพี่ข้าวโพดไม่เต็มใจจะมาดูแลผิงผิง ผิงผิงจะจัดการตัวเองได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” เธอรีบยกมือไหว้ และลงรถไปในทันทีตอนที่เขาจอดรถสนิท
“ผิงผิง” เขากดกระจกลง แล้วเรียกเธอ
“คะ”
“งั้นพี่กลับเลยนะ หาทางกลับบ้านเอาเอง เดินทางจากอเมริกาถึงเมืองไทยได้ แล้วกะอีแค่เชียงใหม่เมืองเล็ก ๆ จากโรงเรียนนี้ไปถึงบ้าน คงไม่ใช่ปัญหา” พูดจบพี่ข้าวโพดก็ออกรถไปอย่างเร็วทิ้งให้น้องสาวยืนหน้าง้ำอยู่ตรงนั้น มองรถยนต์ของพี่ข้าวโพดที่แล่นออกไปจนลับตา