วฤทธิ์ ทิตตาภา นักแสดงหนุ่มที่กำลังมาแรงทั้งเรื่องข่าวและเรื่องผลงานกำลังนั่งมองมารดาที่กำลังอ่านข่าวของเขาด้วยสีหน้าเครียดจัด
เขาอุตส่าห์คิดว่าวันไนท์สแตนด์ของเขากับยายเพนนีจะเป็นเรื่องเงียบเหมือนที่ยายนั่นบอกตอนสะบัดตัวลุกจากเตียงของเขาว่าจะเลิกแล้วต่อกันไม่สานต่อใดๆ อีก หากแต่หลังจากนั้นเจ็ดวัน เรื่องวันนั้นกลับเป็นข่าวขึ้นมาจนคนพูดถึงกันทั้งเมือง แล้วไอ้ข่าวเจ้ากรรมก็ดันมาดังตอนที่เขากลับบ้านมาเยี่ยมครอบครัว
เยี่ยมจริงๆ!
"ตาไวท์ เรามีข่าวฉาวๆ กับผู้หญิงกี่รายกันแล้ว"
"ไม่เคยนับครับ" เขาเกาหัว เคยนับทั้งนิ้วมือนิ้วเท้าไปหมดก็ยังไม่พอ เลยไม่เคยคิดจะนับอีก
"แม่เคยโกรธเคยวุ่นวายไหม"
"ไม่เคยครับ"เขาตอบแบบใจเย็น แม้รู้ว่าเสียงที่เคยอ่อนหวานของมารดาเข้มขึ้นเรื่อยๆ
"แต่วันนี้รู้ใช่ไหมว่าทำไมแม่ถึงโมโห"
"รู้ครับ"
ปัง! เสียงไอเเพดในมือของ วีณา ทิตตาภา ผู้กุมอำนาจสูงสุดในบ้านกระแทกโต๊ะกินข้าวดังปัง พ่อกับพี่ชายที่ยิ้มล้อเลียนเขาตอนแรกนั้นหุบยิ้ม หันไปมองฟ้ามองลม แบบไม่กล้าช่วยอะไรมากกว่าการทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี
มารดาของเขาเป็นคนอ่อนหวาน ใจดี รักลูก และตามใจลูกจนพวกเขาแทบจะเสียนิสัยหรือบางทีก็เสียนิสัยไปแล้วหลายส่วน แต่วีณามีเรื่องหนึ่งที่จะทำให้นางเป็นเดือดเป็นแค้นจนแทบกระอักจนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน นั่นคือการเอ่ยถึงคนนามสกุลมยุราไพรี
การที่มารดากราดเกรี้ยวจนทุกคนเงียบสงัดเพราะครั้งนี้ไม่เพียงแค่มีการเอ่ยถึงคนนามสกุลนี้ หากแต่เป็นเพราะท่านได้อ่านข่าวที่เขียนว่าลูกชายที่ท่านรักปานแก้วตาดวงใจเมามายในปาร์ตี้แล้วหิ้วดาราสาวนามว่า ปทิตา นามสกุลมยุราไพรี กลับคอนโดมิเนียมมาด้วย หลายคนเลยเริ่มจับตาว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเป็นไปในทิศทางใด โดยเกือบทั้งหมดเชียร์เขากับเธอให้เป็นแฟนกัน เรียกได้ว่าเป็นคู่จิ้นกันชั่วข้ามคืนเลยทีเดียว
"แม่เคยบอกตั้งแต่ลูกบ้านนั้นเข้าวงการตามหลังแกไปแล้วตาไวท์ว่าอย่ายุ่งกับผู้หญิงคนนี้"
เสียงของท่านแว้ดขึ้นเรื่อยๆ จนวฤทธิ์อยากหาอะไรมาอุดหู แต่รู้ดีว่ามันพาลจะทำให้มารดาเขาโกรธมากกว่าเก่าเขาเลยยั้งมือทัน การที่ท่านเรียกเขาว่าแกแสดงว่าท่านโกรธถึงขีดสุดแล้ว
อันที่จริงคราวนั้นเขาไม่ได้สนใจดูหน้าตายายเด็กคนที่แม่พูดถึงให้ดี แล้วชื่อในวงการของยายนี่ก็ใช้ว่า เพนนี ปทิตา เขาเลยไม่เคยจำว่ายายหน้าจืดที่มาเป็นนักแสดงรับเชิญฉากเดียวในเรื่องที่เขาเป็นพระเอกนั้นเป็นคนที่มารดาพูดถึง
วันนั้นเลยหิ้วยายนั่นกลับห้อง
เขาเองก็มารู้ข่าวพร้อมมารดานั่นแหละว่าเธอมีนามสกุลที่เป็นที่ต้องห้ามสำหรับบ้านเขา
"ผมสัญญาว่าจะไม่เฉียดเข้าใกล้ผู้หญิงคนนั้นอีก"
ท่าทางเจ็บแค้นที่เธอแสดงต่อเขายังติดตา ปรกติผู้หญิงที่ตื่นมาบนเตียงเขาต้องอัญเชิญกลับบ้านพร้อมเช็คเงินสดแทบทุกราย แต่เธอกลับตื่นมาก่นด่าเขาและสาปส่งแล้วก็ห้ามเขาไม่ให้ไปยุ่งกับเธอ ทั้งที่คำพูดนั้นควรเป็นคำพูดของเขาที่เขาเอาไว้เตือนสติคนที่ก่อนขึ้นเตียงก็บอกอยากวันไนท์แต่พอตอนจะลงจากเตียงก็อยากจะต่ออีกไนท์ แต่เธอกลับพูดตอกหน้าเขาแล้ว เดินออกไป
เธอทำลายอัตตาของเขาเบอร์นั้น วฤทธิ์ไม่คิดจะเฉียดใกล้เธออย่างที่บอกมารดาไปนั่นล่ะ
"แน่นะ" เสียงมารดาดีขึ้นเล็กน้อย เขาได้ยินเสียงพี่ชายกับพ่อแอบถอนหายใจ ในเมื่อไม่มีตัวช่วย เขาเลยลุกจากเก้าอี้ไปกอดเอวมารดา
"แน่สิครับแม่"
"ดี แม่รู้ว่าแกเป็นคนรักษาสัญญา" และนางก็รู้ด้วยว่าไอ้ลูกชายคนเล็กไม่เคยมีข่าวฉาวกับสาวคนไหนซ้ำสักคน เลยค่อนข้างสบายใจ
พอคนเป็นแม่สบายใจ คนเป็นลูกที่สร้างปัญหาหนักใจให้แม่ก็เบาใจ หากแต่เขาไม่ได้รู้ล่วงหน้าเลยว่า คำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับมารดานั้น จะถูกทำลายลงในเวลาต่อมา
"ปากบอกว่าไม่ชอบฉัน แต่ตอนนี้เธอกำลังอ้าขาให้ฉัน เธอว่ามันน่าตลกไหมเพนนี"
เสียงบอกอย่างเย้ยหยันพร้อมทั้งเงาของร่างใหญ่ที่เคลื่อนไหวอยู่บนตัวเธอทำให้ปทิตานิ่วหน้า
เขามาอยู่บนเตียงเธอ ทำน่าเกลียดกับเธอ และพูดคำเหยียดหยันเธอขนาดนี้ได้อย่างไร ในเมื่อเธอกับเขาตกลงกันนับตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้นขึ้นแล้วว่าจะไม่พูดถึงและยุ่งเกี่ยวกันอีก แม้จะมีข่าวตามหลังจากเหตุการณ์วันนั้นมากมายแค่ไหน แต่เธอก็ไม่พูดอะไรกับสื่อ เธอคิดว่าระหว่างเธอกับเขาจะจบแล้ว แต่เขามาอยู่ตรงหน้าได้อย่างไร
"คุณมาได้ยังไง ออกไปนะ"
"ออกได้ยังไง แน่นขนาดนี้" เขาหน้าเบ้ หากแต่ไม่ยอมหยุดการเคลื่อนไหว ใบหน้าที่เธอเกลียดตั้งแต่เจอเขาที่กองถ่ายตอนที่เธอไปเป็นนักเเสดงรับเชิญ เขาหยิ่งและไม่สนใจเธอตอนเธอไหว้เขาในฐานะนักเเสดงรุ่นพี่เธอเลยไม่ชอบเขา น้าพิมพ์ดาวแม่เลี้ยงและเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเธอบอกว่าเขาหยิ่ง และเขาจะไม่สนใจผู้หญิงเล่นตัว เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ที่อยู่รอบเขาล้วนเข้าหาเขาเองก่อนทั้งนั้น
แต่เธอไม่ใช่คนประเภทนั้นแน่ คำว่าเธออ้าขาให้เขา มันต้องไม่มีทางเป็นไปได้แน่ ใบหน้าหล่อเหลาที่หยิ่งเชิดจนน่าข่วนตั้งแต่หน้าผากจรดคางที่เธอเห็นตรงหน้าตอนนี้ต้องเป็นแค่ความฝันแน่ๆ เพราะในชีวิตจริง เธอคงไม่มีวันให้เขาได้เข้ามาใกล้ชีวิตเธอ
เฮือก!
ปทิตาสะดุ้งตื่นแล้วหายใจเข้าเอาอากาศ ลมหายใจของเธอกลับมาเป็นปรกติ รีบกวาดตามองรอบเตียงแล้วไม่เห็นร่างเปลือยของเขา เสื้อผ้าของเธอยังอยู่ครบ หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกยาว
ขอบคุณ ที่สิ่งที่เห็นเมื่อครู่มันเป็นแค่ความฝัน
มันคงเป็นเพราะตอนก่อนนอนเธอได้เลื่อนผ่านรูปถ่ายเซตแฟชั่นรับซัมเมอร์ที่เพื่อนเธอโพสต์ในไอจีแล้วเห็นวฤทธิ์สวมกางเกงขาสั้นตัวเดียวอวดแผงกล้ามแน่นๆ ผิวขาวจัดกับใบหน้าดูมีเสน่ห์แบบที่ไม่อยากจะยอมรับก็ต้องยอมรับดึงดูดสายตาเธอให้เผลอมอง พอมองเพลินจนรู้ตัวว่าไม่ควรมองแล้วก็รีบเลื่อนหนี
ขออโหสิกรรมที่เข้ามาดู เธอถึงกับอุทานในตอนที่เลื่อนผ่านสำเร็จ
กล้ามเนื้อแน่นๆ และหน้าหล่อๆ ในรูปถ่ายนั้นทำให้เธอลืมว่าเกลียดเขา โยนมือถือไปที่เตียงแล้วรีบไปอาบน้ำนอนสาปส่งถึงความชั่วร้ายของเขาอยู่ในใจทั้งที่รู้ว่าวันนั้นคนที่ผิดก็เป็นเธอส่วนหนึ่ง แต่เธอก็ยังเกลียดเขาและโยนความผิดให้เขาเต็มๆ ถึงเข้านอนอย่างสบายใจ แต่บาปบุญ เธอกลับฝันถึงเขาว่าเขากำลังทำแบบนั้นกับเธออยู่
ปทิตาคิดว่าเธอต้องไปทำบุญจะได้ชะล้างจิตใจของตัวเองไม่ให้นึกถึงเขาในแง่นั้นอีก เพราะมันไม่ต่างจากการเป็นฝันร้ายซ้อนฝันร้าย
กริ๊งงงง
เสียงโทรศัพท์ดังหญิงสาวที่เพิ่งหายอกสั่นขวัญแขวนรีบควานหาเพราะเป็นเสียงเรียกเข้าของพิมพ์ดาว
"สวัสดีค่ะน้าพิมพ์ มีอะไรหรือเปล่าคะ" เธอเอ่ยถามน้าแท้ๆ ที่ตอนนี้ดำรงตำแหน่งเป็นแม่เลี้ยง และผันตัวมาเป็นผู้จัดการส่วนตัว ในตอนที่ปทิตาเข้าวงการเต็มตัว
"ไวท์เขาติดต่อมา ขอเจรจากับหนูเรื่องข่าว"
ชื่อของคนที่เธอเพิ่งตื่นจากการเห็นเขาในฝันร้าย ทำให้เธอเผลอสะดุ้งน้อยๆ
"เจรจาเรื่องอะไรล่ะคะ หนูคุยกับเขาตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องแล้วว่าต่างคนต่างไป แค่เป็นข่าวก็แย่เเล้ว เขาไม่พูดก็จบจะเอาเรื่องอะไรอีก"
"อย่าเพิ่งบ่นไปได้ไหม รีบมาเจรจา เขาจะมากับผู้จัดการ น้านัดพวกเขาที่บ้าน หนูต้องเคลียร์เรื่องนี้ก่อนที่เรื่องจะถึงหูพ่อนะเพนนี เเค่เรื่องข่าวก็ทำให้บ้านจะแตกแล้ว ถ้ารู้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆ พ่อหนูอาละวาดบ้านแตกของจริงแน่"
พิมพ์ดาวบอกเสียงลนลาน
ปทิตาเม้มปาก เพราะบ้านเขาเป็นศัตรูคู่เเค้นกับบ้านเธอตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ พ่อของเธอโกรธแทบตายตอนมีข่าว ถึงขั้นจะให้เธอออกจากวงการ แต่เธอกับพิมพ์ดาวช่วยกันบอกว่าข่าวไม่จริง แต่ก็กว่าจะเคลียร์กับท่านได้ก็เหนื่อยเหมือนกัน
"ตกลงค่ะ เพนนีจะรีบไปเจรจากับเขา จะได้หาทางยุติไอ้ข่าวบ้าๆ นี่เสียที"
เธอบอกแม่เลี้ยงก่อนจะวางสายไป
หญิงสาวถอนหายใจ ใบหน้าอ่อนระโหยโรยแรงจากการนอนไม่พอ เพราะช่วงนี้งานเข้าหนักมีร่องรอยแห่งความเหนื่อยล้าเพิ่มขึ้น
ฝันร้ายของเธอที่เผชิญไปก่อนหน้านี้ ยังไม่สิ้นสุดสินะ