ตอนที่ปทิตาไปถึงบ้านของตัวเอง เธอก็เห็นรถตู้แวนสีเมทัลลิกจอดและรถมัสแตงของคู่กรณีเธอจอดอยู่ก่อนแล้ว
วฤทธิ์และพี่มิกซ์ผู้จัดการส่วนตัวของเขาคงมาถึงก่อนโดยมีพิมพ์ดาวเป็นผู้ต้อนรับ
แน่นอนว่าเขาเข้าบ้านเธอได้ทั้งที่บิดาของเธอเกลียดพวกทิตตาภาอย่างเขาฝังใจ เพราะว่าบิดาของเธอเดินทางไปต่างประเทศ ส่วนคนในบ้านคงโดนปิดปากเอาไว้หมดแล้ว
ปทิตาเม้มปากเมื่อเดินเข้าไปแล้วเห็นคนตัวโตนั่งอยู่ พอเธอเขาไปและไหว้พี่มิกซ์อย่างนอบน้อม พอเธอหันไปไหว้เขา ชายหนุ่มกลับแค่มองเหมือนเธอทำอะไรที่ไม่เกี่ยวกับเขาเลยสักนิดก่อนจะจ้องสายตาดุๆ มาที่เธอแทน
หญิงสาวร้อง หึ ในลำคอ ไม่อยากไหว้ให้เสียมือหรอก แต่พอดีที่บ้านเคร่งเรื่องมารยาท
"ผมขอคุยกับน้องคนนี้ตามลำพัง" เขาบอก
"ไม่ค่ะ" คนที่มีชื่อแต่ไม่ถูกเรียกด้วยชื่อบอกเร็วๆ
"คุยกันที่นี่แหละค่ะ จะได้รู้กันทุกคน" พิมพ์ดาวเห็นสีหน้าของลูกเลี้ยงแล้วออกตัวแทน
"แน่ใจ" เขามองปทิตาสายตาที่ตวัดมองปราดเดียวแต่ทิ้งรอยเย้ยหยันไว้นานเนิ่นทำให้เธอหน้าร้อนขึ้นมา
"ค่ะ"
"งั้นก็บอกมาตามตรง ตั้งใจจะสร้างข่าวนี้ขึ้นมาหรือเปล่า" เขาถามตรงๆ ทำให้เธอชักสีหน้าใส่เขาทันใด
"สร้างข่าว ฉันจะสร้างข่าวไปเพื่อ?"
"งานอีเวนต์เข้าตลอดเลยนี่ช่วงนี้" สีหน้าดูแคลนทำให้คนที่ตั้งใจมาเจรจากับเขาควันออกหู
"มันเป็นผลพลอยได้ แต่ฉันรับรองว่าฉันไม่ได้อยากให้เรื่องวันนั้นเกิดขึ้นแม้แต่นิดเดียว และฉันเองก็ไม่อยากแม้แต่จะคิดหรือพูดถึงมันอีกด้วยซ้ำไป"
"แต่คนที่จะได้ประโยชน์จากข่าวเป็นคุณ ข่าวว่าพ่อคุณโดนฟ้องถ้าไม่ใช้หนี้จะล้มละลายไม่ใช่เหรอ กลัวว่าจะทำปากเก่งแต่เอาจริงๆ คุณเป็นคนเริ่มเรื่องและหาผลประโยชน์จากเรื่องนี้อยู่"
"มันจะมากไปแล้วนะ" ปทิตาแหวลั่น เรื่องฐานะทางการเงินของครอบครัวที่ต้องพยุงช่วยบิดานั้นเป็นเรื่องส่วนตัว เธอทำงานหนักเพื่อช่วยท่าน แต่ไม่เคยทำอะไรที่ผิดเลย
"ไม่มากไปหรอก เพราะถ้าคิดจะทำอย่างนั้นคุณเลิกคิดไปได้เลย" วฤทธิ์บอกกับเธอโดยไม่สนใจคนอื่น "ผมไปแล้ว ที่เหลือพี่มิกซ์จัดการแล้วกัน"
ว่าแล้วคนตัวสูงก็ลุกพรวดแล้วเดินออกไป แบบที่ไม่ค่อยเคร่งเรื่องมารยาทเท่าไหร่
"พอดีไวท์มีงานต่อเลยรีบ พี่ขอโทษแทนด้วย" พี่มิกซ์พยายามอย่างขอโทษขอโพยนางเอกสาวดาวรุ่งที่ยืนกำมือ น้ำตาคลอ
พิมพ์ดาวสบตากับมิกซ์อย่างเข้าอกเข้าใจ ทั้งสองเป็นพันธมิตรกันเพราะอยู่ในวงการเดียวกันพิมพ์ดาวเป็นนักแสดงมาก่อน ออกจากวงการมาแต่งงานกับบิดาของปทิตาตั้งแต่ปทิตาอายุสิบหก ปัญหาแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยงไม่มี เพราะถึงไม่มีความรักฉันท์แม่ลูกแต่พิมพ์ดาวเป็นน้าแท้ๆ ความรักความเมตตาในแบบคนสายเลือดเดียวกันก็มากพอที่จะทำให้ปทิตาเติบโตมาท่ามกลางความรัก
จนปทิตาอายุยี่สิบสองบริษัทบิดาเธอเริ่มมีปัญหา พิมพ์ดาวเห็นแววลูกเลี้ยงมานานเลยชักนำหญิงสาวเข้าวงการในฐานะนางเอก และรับงานหลายอย่างจนสามารถรับเงินแปดหลักเข้ามาช่วยบริษัทจากการทำงานวงการบันเทิงเพียงแค่สองปี ตอนนี้หญิงสาวขึ้นแท่นนางเอกแถวหน้า แต่จะอยู่วงการนานเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับความประพฤติ และวินัยในการทำงาน รวมทั้งคอนเน็กชั่นที่ดี ไม่อย่างนั้นดาวจรัสแสงอย่างลูกเลี้ยงเธอก็จะดับ มิกซ์จัดอยู่ในผู้คนที่มีคอนเน็กชั่นกัน ไม่จำเป็นไม่ควรผิดใจอะไรกันดังนั้นจึงค่อยพูดค่อยจากัน แม้ว่านักแสดงของพวกจะมีกรณีกันทั้งส่วนตัวและในระดับครอบครัวก็ตามที
"ทางเรายังยืนยันนะมิกซ์ วันนั้นยายเพนนีไปปาร์ตี้กับกลุ่มนักแสดงเรื่องรักของฟ้า ที่ได้ไปเป็นดารารับเชิญ เพราะลูกแก้วนางเอกของเรื่องเป็นเพื่อนสนิทของเพนนี แต่ เพราะดื่มมากในปาร์ตี้นั้น เรื่องก็เลยเกิด แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ให้ข่าวใครไป พี่เองก็ตกใจกับเรื่องนี้ แต่เพนนียืนยันว่าตกลงกับไวท์ได้ว่าต่างคนต่างจบ นี่ก็ไม่รู้ว่ามีข่าวได้ยังไง"
มิกซ์ มองพิมพ์ดาวและมองปทิตาที่นั่งนิ่วหน้าอยู่ เขาลำบากใจ ไม่รู้จะเชื่อใคร เพราะสิ่งที่ได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้จากทางฝั่งหญิงสาวมันเหมือนหนังคนละม้วนยิ่งนัก
"วันนั้นผมเมา แต่เค้าเมากว่า ตอนจะขึ้นรถกลับคอนโด มายืนมองผมตาเยิ้ม เดินมาตกในอ้อมกอดผมงงๆ ผมชวนไปต่อที่คอนโดก็ไป เห็นนั่งซบไหล่ยั่วผมตลอดทาง ก็เลยคิดว่าเข้าหาผมเหมือนทุกคนที่เคยเข้ามา ผมเลยไม่ได้ระแวงอะไรว่าเค้าจะมาปล่อยข่าวเพื่อผูกมัดกันทั้งที่ตอนพาไปคอนโดก็ตกลงว่าจะวันไนท์ ยายนั่นก็อือออ แล้ววันนั้นก็ไม่มีใครเห็นแน่นอนว่าเป็นยายนี่เพราะผมอุ้มไปหมวกกับหน้ากากปิดหน้าก็ใส่กันทั้งคู่ คนที่รู้ว่าผมหิ้วเค้าไปคอนโดก็มีผมกับเค้า ถ้าเค้าไม่พูดใครจะพูด"
ฝ่ายชายบอกว่าข่าวนี้เหมือนฝ่ายหญิงจงใจหาผลประโยชน์จากเขา แต่ฝ่ายหญิงก็บอกว่าอยากฝังกลบเรื่องนี้ไว้ให้เงียบไปกับสายลม ดูจากสีหน้าของปทิตาก็อยากจะเชื่อ แต่ก็จนใจ เพราะวฤทธิ์ไม่เคยโกหก
"ถ้าอย่างนั้นเอาตามนี้แล้วกัน ผมขอว่าต่อไปนี้ถ้านักข่าวถามก็ให้ตอบว่าไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ใช่ต่อไปแล้วกัน เรื่องไฟล์ในกล้องวงจรของผับกับคอนโด ผมไปลบหมดแล้ว ถ้าไม่ซวยโดนแอบถ่ายไว้คงไม่มีหลักฐาน เพื่อให้จบเรื่องนี้อย่างที่ฝ่ายผมกับฝ่ายพี่ต้องการนะครับ"
"อืม... ทุกวันนี้ ยายเพนนีก็ทำอย่างนั้นอยู่ เรื่องงานที่มีเข้ามากขึ้นกะทันหันเพราะมีข่าว แต่เราก็ไม่อยากให้ภาพลักษณ์เพนนีเสียหาย อีกอย่างพ่อยายเพนนีก็ไม่ถูกกับบ้านของไวท์ เรามีแต่อยากให้มันจบลงเงียบๆ ไม่มีทางไปหาผลประโยชน์กับไวท์อย่างนั้นแน่"
ปทิตาพยักหน้าสนับสนุนคำพูดของแม่เลี้ยงที่พูดแทนเธอ
"อีกอย่าง เรื่องนี้ก็ทำให้ยายเพนนีโดนแฟนบอกเลิก จากที่ห่างๆ กัน เขาเลิกเลย พี่ว่าการเลิกกับอาร์ม เมธัส ไม่ใช่ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการปล่อยข่าวว่ามีความสัมพันธ์กับไวท์แน่ๆ"
ปทิตาหน้าหมองลงไปเมื่อนึกถึง เมธัส ไฮโซพันล้านที่เป็นนักแสดงต่างช่องซึ่งคบหากับเธอออกสื่อตั้งแต่สมัยเรียน เขาห่างกับเธอมาสักพัก เพราะเธอทำงานในวงการเยอะ แต่เธอคิดว่าเขาจะรอและเร่งทำงานเจ็ดวันเจ็ดคืนเพื่อหาเงินก้อนมาอุ้มบริษัทบิดาไม่ให้โดนฟ้องล้มละลาย ความสัมพันธ์ที่เปราะบางแตกหักเมื่อสองวันก่อนหลังจากมีข่าวเธอกับวฤทธิ์ เธอเหนื่อยเกินจะรั้งเขาและปล่อยเขาไปจากชีวิตแล้ว
"เพนนียืนยันค่ะพี่มิกซ์ว่าไม่ได้อยากเปิดเผยเรื่องวันนั้นเลย น้าพิมพ์ดาวก็เพิ่งรู้เรื่องตอนมีข่าวเพราะว่าก่อนหน้านั้นคิดว่าจะไม่มีใครพูดถึงและก็ลืมมันไป" หญิงสาวบอกเสียงสั่น บอกชัดว่าเรื่องนั้นก็สะเทือนใจของเธอไม่น้อยเลย
ผู้จัดการส่วนตัวของวฤทธิ์พยักหน้าเข้าใจในเหตุผลที่อีกฝ่ายบอกมา เขาเลยคิดว่ามีคนรู้ว่าขึ้นคอนโดอาจจะเป็นคนที่เห็นโดยบังเอิญแล้วรู้จักทั้งคู่ หรือว่าเห็นตั้งแต่ลานจอดรถ
"ถ้าอย่างนั้นก็เข้าใจตรงกันว่าข่าวไม่ได้รั่วมาจากทั้งสองฝ่าย เรื่องของไวท์เดี๋ยวพี่บอกเขาให้เข้าใจเอง ช่วงนี้ข่าวมันยังดัง ไม่มีเรื่องที่ดังกว่ามากลบอยู่สามวันแล้ว รอสักพัก คนก็ลืมเอง" คนที่เคยรับมือกับเรื่องนี้มาก่อนเอ่ยขึ้น
เพราะดูแล้วทั้งคู่คงไม่ได้สานต่อสัมพันธ์ พอที่จะออกมายอมรับว่ากำลังคบหากัน หรือว่าดูใจ เลยจบที่ว่าแค่รู้จักเพราะเคยร่วมงาน ไม่ได้สนิทกัน คำตอบที่มีให้สื่อมีได้แค่นั้น แล้วสักพัก ทุกคนก็จะลืมไป เอาจริงๆ ปทิตาด้วยซ้ำที่ตกเป็นเหยื่อในข่าวนี้เพราะภาพลักษณ์นางเอกเรียบร้อยที่มามีข่าวกับคาสโนว่าตัวพ่ออย่างวฤทธิ์ทำให้เสียชื่ออยู่ไม่น้อย
หลังจากที่ตกลงกันเรื่องทิศทางการตอบสื่อเรียบร้อยและเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย มิกซ์ก็ขอตัวกลับ โดยเขาฝากซองที่วฤทธิ์เตรียมเอาไว้ให้ปทิตาโดยเฉพาะยื่นให้หญิงสาวก่อนออกมา
และของในซองนั้นทำให้ปทิตาที่นิ่งสงบคิดว่าทุกอย่างจะจบแล้วลุกเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา
สิ่งนั้นมันคือเช็คเงินสดหนึ่งล้านบาท ซึ่งเธอไม่รู้ว่าเขาให้มาเพราะเหตุผลอะไร แต่รู้แค่ว่าเธอจะไม่เอาและจะหาโอกาสเอาไปเขาคืนแน่นอน!