บทที่ 13

1520 คำ
"ปล่อยฉันนะรุ่นพี่" เราเป็นบ้าอะไรเนี่ย พอได้สบตาเขาใกล้ๆ ทำไมมันรู้สึกใจหวิวๆ ยังไงชอบกล "บอกให้ปล่อยไงคะ" น้ำเสียงของคนที่พูดอยู่เริ่มสั่นเครือเล็กน้อย "เราต่างหากที่ต้องปล่อยพี่" เพราะเธอเป็นคนทับร่างเขาอยู่ "อ้าวเหรอ" สโนไวท์ค่อยๆ ดันตัวลุกขึ้น "รุ่นพี่ออกไปนอนระเบียงเลยนะ" "ระเบียงเขาไม่ได้มีไว้ให้นอน" "ถ้างั้นก็กลับห้องไป" "เผื่อพ่อยังไม่กลับล่ะ" "นั่นมันปัญหาของรุ่นพี่ ฉันเป็นผู้หญิงนะ!" "พี่ไม่ทำอะไรหรอก" แกร็ก..แกร็ก.. ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่ เสียงหมุนลูกบิดประตูข้างห้องก็ได้ดังขึ้น ดวงตาของคนทั้งสองประสานกันแบบไม่ได้นัดหมาย และรู้ได้ในทันทีว่าคนที่ทดลองบิดประตูนั้นเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพ่อ คิดว่าที่ท่านลองหมุนเผื่อว่าประตูไม่ได้ล็อกท่านจะได้เข้าไปเช็คห้องนั้นดูได้ "รุ่นพี่ว่าท่านจะรู้ความจริงไหม" "ถ้าเราแยกห้องกันอยู่แบบนี้ท่านคงรู้" "ฉันไม่ร่วมห้องกับพี่นะ" "พี่ก็บอกแล้วไงว่าไม่ทำอะไรเราหรอก นอนเถอะเหลือเวลานอนอีกแค่ไม่กี่ชั่วโมง" ว่าแล้วเทวินก็หันหลังให้ แถมยังทำเป็นหลับอีก "ทำเหมือนกับเป็นห้องตัวเอง" หญิงสาวสะบัดร่างเล็กน้อยแบบไม่สบอารมณ์ ก่อนที่จะทิ้งตัวลงนอน ที่จริงเทวินนอนไม่หลับหรอก คิดเรื่องประชุมแถมยังมีเรื่องพ่อให้คิดเพิ่มอีก ถ้าท่านรู้ความจริงต้องบังคับให้เราหยุดแผนการนี้แน่เลย ชายหนุ่มค่อยๆ หันกลับมามองหญิงสาวที่ดูเหมือนจะหลับไปแล้ว เป็นไปได้ไหมที่เขากับเธอจะทำเรื่องนี้ให้เป็นจริง ..แต่คำตอบที่ได้คือเป็นไปไม่ได้เลย เธอยังเด็กมาก แถมเขาก็ไม่ได้ชอบเธอด้วย 02 : 40 น. ทั้งสองตื่นขึ้นมาพร้อมกันด้วยเสียงนาฬิกาปลุกที่สโนไวท์ตั้งปลุกไว้ ตอนที่รู้ว่าเทวินจะพาเดินทางเวลาไหน "พี่กลับห้องไปเลย ฉันจะอาบน้ำ" ได้ยินเธอพูดชายหนุ่มก็เลยเดินไปทางประตูระเบียง "อย่าบอกนะว่าพี่จะกลับทางเดิม" "ไม่ได้เอากุญแจห้องออกมาด้วย" เพราะรีบเกินไปก็เลยไม่ได้หยิบอะไรออกมาด้วยเลย "แต่มันอันตรายนะ" "อันตรายยังไง" "ตัวเองเพิ่งตื่นนอน" "ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก" พอออกไปนอกระเบียงได้ เขาก็ข้ามไปอย่างง่ายดาย ส่วนสโนไวท์เห็นว่าเทวินปลอดภัยแล้ว เธอถึงได้เข้าห้องน้ำ เวลาผ่านไป..ตอนนี้ทั้งสองคนได้เดินทางออกมาแล้ว เทวินใช้มอเตอร์เวย์ในการเดินทาง จนเวลาผ่านไปตามที่เขาวางแผนไว้ ก็ได้มาถึงบริษัทของคุณปู่ พินัยกรรมที่ศักดินาทำไว้มอบให้หลานชายคนโต เพราะถ้าแยกหุ้นออกให้หลานแต่ละคน..อาจจะไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ก็ได้ แต่ศักดินาก็ไว้ใจเทวินมาก เพราะเลี้ยงมากับมือ ว่าเทวินจะดูแลหุ้นที่มีอยู่ได้ ห้องประชุมใหญ่.. พอเทวินกับสโนไวท์มาถึงในที่ประชุม ก็มีผู้บริหารเข้ามาก่อนหน้านั้นหลายคนแล้ว แต่พอเขามองไปตรงเก้าอี้ประจำตำแหน่งของท่านประธาน กลับมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ "สวัสดีค่ะ" "สวัสดีครับ" ชายหนุ่มทักทายกลับแบบไม่ให้เสียมารยาท แต่สายตาเขาก็ยังคงมองเก้าอี้ว่าเธอจะลุกตอนไหน "สวัสดีครับคุณเทวิน" เสียงนี้ดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง..เทวินก็เลยหันกลับไปมอง "คุณวันชัย" เทวินพอรู้จักผู้ถือหุ้นอยู่บ้าง และวิชัยก็คือหนึ่งในผู้ถือหุ้น "คุณเทวินคงยังไม่รู้ว่าคุณเอกมัยให้หลานสาวเข้ามารับตำแหน่งแทน และเธอคนนี้ก็คือหลานสาวของคุณเอกมัย เธอชื่อว่าลักขณาครับ" "แล้วไงต่อครับ" เทวินรู้จักเอกมัยเป็นอย่างดี ตอนสมัยคุณปู่ถึงแม้เอกมัยจะมีคดีติดตัว แต่ก็รอดพ้นมาได้ แถมยังกลับเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นอันดับที่สอง "อุ้ยขอโทษค่ะ เชิญคุณเทวินนั่งเลยค่ะ" ลักขณาแกล้งลุกขึ้นแบบเขินอาย ที่เผลอไปนั่งโต๊ะของท่านประธาน พอลักขณาลุกขึ้น เธอก็ขยับไปนั่งเก้าอี้ข้างๆ กัน "ขอเก้าอี้เพิ่มอีกตัวด้วยครับ" เทวินนั่งลงประจำตำแหน่งของท่านประธาน พร้อมเอ่ยขอเก้าอี้ เพราะตอนนี้ข้างๆ เขาไม่มีเก้าอี้ว่างแล้ว "ทำไมไม่ให้เลขาไปอยู่มุมนั้นกับเลขาคนอื่นล่ะคะ" ลักขณายื่นใบหน้าเข้าไปถามใกล้ๆ โดยไม่สนใจว่าเสื้อที่ตัวเองใส่แบบโชว์ร่องหน้าอกจะขยับออกจนเห็นเนิน "ขอโทษครับเธอไม่ใช่เลขา แต่เป็นภรรยาของผม" "คะ?" ไม่ได้ตกใจแค่ลักขณา ผู้ร่วมหุ้นที่อยู่ในห้องนั้นต่างก็ตกใจ หันมองไปที่สโนไวท์แบบพร้อมเพรียงกัน ที่ทุกคนแปลกใจ เพราะไม่มีรายงานมาเลยว่าเทวินแต่งงานแล้ว "ถ้างั้นผมถือโอกาสแนะนำภรรยาให้พวกท่านได้รู้จักกันเลยนะครับ เธอชื่อสโนไวท์ เป็นบุตรสาวของท่านพลโทกองทัพ พวกคุณคงรู้จักพ่อของเธอเป็นอย่างดีใช่ไหมครับ" "อะไรนะคะ?" ลักขณาดูจะตกใจกว่าเพื่อนเมื่อรู้ว่าเธอคนนี้เป็นใคร นับจากอายุแล้วลักขณาอายุเท่ากับเทวิน และเธอก็มีสิทธิ์เข้ามารับตำแหน่งนี้ เพราะเธอคือผู้สืบทอดของคุณตาเอกมัย "เชิญนั่งค่ะ" เลขาที่รอสแตนด์บายอยู่ด้านข้าง รีบหาเก้าอี้มาให้กับสโนไวท์ได้นั่ง "คุณช่วยขยับหน่อยครับ ภรรยาผมจะเข้ามานั่งตรงนี้" เทวินปลายหางตามองไปดูลักขณาเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าเธอคนนั้นยังคงนั่งชิดติดกับเขาอยู่ "ค่ะ" พอสโนไวท์ได้ที่นั่งแล้ว เทวินก็เริ่มการประชุม "แต่ได้ข่าวว่าคุณกำลังเรียนอยู่ไม่ใช่เหรอครับ" คุยกันมาถึงบางช่วงบางตอน ผู้ร่วมหุ้นที่รอแทรกแซงอยู่ก็รีบพูดขึ้น "ทำไมครับผมเรียนแล้วจะรับตำแหน่งประธานบริษัทไม่ได้..หรือไงครับ" "รับได้น่ะมันรับได้ครับ แต่คุณจะเอาเวลาไหนเข้ามาบริหารบริษัท" "เรื่องนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผม คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ" เพราะถ้างานไหนไม่สำคัญหรือไม่เร่งด่วน เขาสามารถติดต่อกับเลขาคนของคุณปู่ได้โดยการสื่อสารผ่านหลายๆ ช่องทาง "คุณเห็นบริษัทเป็นสนามเด็กเล่นเหรอครับ ถ้าการบริหารของคุณ ทำเหมือนเด็กๆ แล้วพนักงานตาดำๆ อีกหลายร้อยชีวิตรวมทั้งครอบครัวของพวกเขา จะอยู่กันยังไงถ้าบริษัทไปไม่รอด" "สวัสดีค่ะ" จากที่นั่งเงียบมาตั้งนาน พอถึงจังหวะที่ผู้ร่วมหุ้นกำลังต้อนเทวินให้จนมุมอยู่นั้น เสียงหวานๆ ก็ได้เอ่ยพูดขึ้น จนทุกคนหันมาให้ความสนใจ "คุณชื่ออะไรคะ" สโนไวท์ถามผู้ชายคนที่พูดอยู่เมื่อสักครู่ "ชื่อสุทัศน์ครับ" "คุณสุทัศน์ ผู้ถือหุ้นอันดับท้ายๆ ของบริษัท.. มีสิทธิ์ออกความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเหรอคะ" "คุณรู้ได้ยังไง เออ.." การที่จะรู้ตัวหุ้นที่ผู้บริหารทุกคนมีอยู่ในมือ ต้องผ่านการเช็คจากระบบของบริษัทเท่านั้นถึงจะรู้ได้ แต่เธอคนนี้ฟังแค่ชื่อทำไมถึงรู้ไปถึงหุ้นที่มีอยู่ในมือแล้ว "ฉันยังรู้เยอะกว่านั้นอีก คุณอยากฟังไหมล่ะคะว่าฉันรู้อะไรบ้าง" "ณาว่าเราอย่าเสียเวลากับเรื่องเล็กๆ พวกนี้เลยค่ะ เรื่องใหญ่กำลังรอเราอยู่ ประชุมกันต่อเถอะค่ะ" สโนไวท์เอนกายพิงกับเก้าอี้ที่นั่ง สายตากรอกมองมาดูผู้หญิงที่เพิ่งขัดจังหวะเธอเมื่อสักครู่ แล้วเก็บรายละเอียด หลังประชุมเสร็จ.. "เธอรู้ได้ยังไง" เทวินถามในขณะที่เดินมาใกล้จะถึงรถ "รู้อะไรคะ" "รู้เรื่องหุ้น" "รู้จักลายมือมั้ง" "สโนว์" "จะดุทำไมเนี่ย ก็แค่เดาเอา" ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินไปขึ้นรถ กว่าจะกลับมาถึงหอพักก็ค่ำมืดมากแล้ว.. "ไม่ต้องหันกลับไปมอง" ที่จริงเทวินเห็นแล้วว่ามีรถคันหนึ่งตามมา พอสโนไวท์จะหันกลับไปตอนลงจากรถเทวินก็ห้ามไว้ "รุ่นพี่คิดว่าเป็นคนของใคร" "ของพ่อ" "ห๊า?" "ทำตัวให้ปกติที่สุด ตามพี่มา" เขาพาเธอขึ้นมาจนถึงชั้น 4 "รุ่นพี่จะทำอะไร" "ก็เข้าห้องไง" "แต่ห้องรุ่นพี่ไม่ใช่ห้องนี้" "เปิดประตูก่อนเถอะน่า" เทวินเห็นว่าเธอชักช้าก็เลยเอากุญแจจากเธอมาเปิดห้อง "เราคงต้องอยู่ห้องเดียวกันไปก่อน"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม