EP.25

1159 คำ
ริมฝีปากสีระเรื่อเม้มเข้าหากันบ่อยครั้ง เท้าก้าวถอยหลังเมื่อเขาเดินเข้าใกล้ นั่นยิ่งทำให้รอยยิ้มเยาะมีมากขึ้น ขณะที่สายตาก็มองเธออย่างกับเห็นเป็นตัวอะไรสักอย่างที่น่ารังเกียจ เขารู้ว่าท่าทางหวาดหวั่นไร้เดียงสา กล้าๆ กลัวๆ แบบนี้คือหนทางอัปค่าตัวที่ดูดีและมีค่าที่สุด และพรบุหลันคงจะยิ่งจัดเจนเพราะเธอมีครูดี ร่างกายที่คล้ายจะสั่นเทานี้จึงกลายเป็นสั่นสู้มากกว่าจะสั่นหนี            “กายพาเธอไปดูห้องทำงานหรือยัง”            เขาถามเพื่อรอจังหวะกระตุกเบ็ด เพราะถ้าเธอเห็นห้องทำงานแล้ว แต่ยังนั่งรอเขาอยู่แบบนี้ ก็แสดงว่าพรบุหลันรู้งานเป็นอย่างดี แต่ง่ายเกินไปเขาก็ไม่ชอบ คงต้องหาวิธีอื่นมาเล่นสนุก เขาจะไม่มีทางให้เธอสมใจ อยากอ่อยเขา เขาก็จะให้อ่อย อยากสนุกกับเขา เขาก็จะให้สนุก แต่ต้องสอดคล้องกับความทุกข์ที่เขาจะเพิ่มเติมให้เธอด้วย            “เอ่อ...ยังค่ะ คุณกายออกไปเอาเอกสารสมัครงานน่ะค่ะ ดิฉันเลยนั่งรออยู่ตรงนี้”            อาการวูบวาบไปทั่วทั้งใบหน้าและร่างกายยังมีอยู่ ทว่าไม่ได้มาจากความประหม่าความหล่อของเขาอีกแล้ว แต่เพราะอีกความรู้สึกหนึ่งกำลังเต้นเร้าอยู่ในอก คือความเสียใจ ความไหววูบเหมือนสูญเสีย เพราะน้ำเสียงของเขานั้นช่างห่างเหิน เฉยเมย เหมือนคนแปลกหน้า ไม่ใช่ความอบอุ่น ทุ้มนุ่มที่เขาพูดกับเธอในวันก่อนเลย            ‘เธอ’ นั่นคือคำที่เขาใช้เรียก นัยน์ตาสวยหวานฉายความสับสน พยายามคิดถึงครั้งแรกที่เธอเจอเขาในงานของแม่ เขาเรียกเธอว่าอะไร ทำไมครั้งนั้นเธอถึงรู้สึกถึงความอ่อนโยน ความปรารถนาดีจากเขา แต่ในเวลานี้ ทั้งที่เผชิญหน้า ทำไมเธอถึงได้รู้สึกอีกอย่าง ‘รังเกียจ’ อย่างนั้นเหรอที่เธอรับรู้ได้            ผู้ชายคนนี้กำลังแสดงท่าทางรังเกียจเธอหรอกเหรอ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาในขณะนี้ไม่ใช่ความยินดีที่ได้พบ แต่เป็นรังเกียจที่จะเสวนาด้วยต่างหาก และถ้าเป็นอย่างนั้น เขาจะนัดเธอมาสัมภาษณ์งานทำไม ทำไมคุณกายถึงบอกว่าเขาปรารถนาดีที่จะช่วยเหลือเธอทุกอย่าง เพราะเธอเป็นลูกของแม่            “งั้นตามมา จะพาไปดูห้องทำงาน” เขาพูดพลางเดินนำ            “เดี๋ยวค่ะ”            เสียงร้องทักของพรบุหลันทำให้อารัญต้องหันมองเธอ สายตาหยามเหยียดไม่คิดจะปกปิดสักนิด เลยส่งตรงไปกวาดมองเธอตั้งแต่ปลายเท้ายันศีรษะอีกครั้ง            “ดิฉันว่ารอเอกสารการรับสมัครจากคุณกายก่อนดีกว่าค่ะ เพราะหากดิฉันทำไม่ได้ คุณอารัญจะได้ไม่ต้องเสียเวลาพาดิฉันดูห้องทำงานด้วย”            พรบุหลันพูดเป็นการเป็นงาน เพราะเข้าใจว่าเวลาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักธุรกิจ แต่หากกายไม่พร้อมจะพาเธอเดินดูห้องทำงาน ก็ควรจะเลี่ยงเป็นวันอื่นดีกว่า หรือไม่เธอก็ควรยกเลิกการสัมภาษณ์งานครั้งนี้ด้วยตัวเอง เพื่อไม่ให้ฝ่ายไหนได้รับความผิดพลาด ไม่ต้องสร้างความลำบากให้เขาคนนี้ด้วย            เพราะรอยยิ้มเยาะที่ปรากฏบนใบหน้าของเขาทำให้พรบุหลันเลือกที่จะยั้งเขาไว้ ความหวาดหวั่นทั้งจากน้ำเสียง คำพูด และสีหน้าของเขา ทำให้สัญชาตญาณร้องสั่งให้เธอรอคอยกายอยู่แต่เพียงบริเวณนี้จะดีกว่า เธอยังไม่ควรจะไปเห็นห้องทำงานหรอก เพราะเธอยังไม่รู้เลยว่าเขาจะรับเธอเข้ามาทำงานในตำแหน่งอะไร และเธอจะทำได้ไหม            ‘นี่มันอะไรกัน! ทำไมเขามองเราแบบนั้น จะฆ่ากันหรือไงนะ’            สายตาบอกความรู้สึกที่เขาใช้มองเธอส่งผลให้ขนทั่วร่างกายลุกพรึ่บอย่างพร้อมเพรียง นั่นทำให้พรบุหลันคิดว่าตัดสินใจถูกแล้วที่จะไม่เดินตามเขาไป            “จะต้องรออะไรอีก ฉันเป็นคนตัดสินใจว่าจะรับเธอเข้าทำงานหรือไม่รับ เอกสารอะไรก็ไม่สำคัญทั้งนั้นแหละ ตามมา”            ส่งเสียงเฉียบขาดออกไปพร้อมหันหลังเดินต่อ แต่คนด้านหลังที่ไร้การเคลื่อนไหวทำให้อารัญเดือด จากที่คิดว่าวันนี้จะแค่ขอดเกล็ดปลาให้แสบๆ คันๆ เล่น ตอนนี้เขากลับคิดจะกลืนกินไม่ให้เหลือซาก ถ้าปลาตัวนี้ยังดีดดิ้นเรียกราคาไม่เลิก เขาก็จะบดสับขยำขยี้ให้เละ และบาทเดียวเขาก็จะไม่จ่าย เพราะนั่นคงแพงกว่าค่าตัวเธอเยอะ            “ฉันบอกให้ตามมา ไม่ได้ยินหรือไง!”            เสียงกระชากทำให้พรบุหลันสะดุ้งวาบ แต่ก็ไม่คิดจะเดินตามคำสั่งเขา ยิ่งเขาแสดงอารมณ์กราดเกรี้ยวอย่างที่ไม่ควรจะทำกับคนไม่คุ้นเคย เธอก็ยิ่งคิดว่าควรจะไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ เพราะ ‘ฉัน-เธอ’ สรรพนามแทนตนเหล่านั้นไม่ใช่แน่            “คุณอารัญคะ ถ้าวันนี้คุณอารมณ์ไม่ดี ดิฉันกลับก่อนดีกว่าค่ะ”            พรบุหลันหันไปคว้ากระเป๋าสะพายที่วางอยู่บนโต๊ะกลางของโซฟารับแขกอย่างเร็วรี่ ไม่รอให้เขาตอบรับหรือปฏิเสธ ร่างแบบบางก็ถลาไปที่ประตูทันที ทว่าประตูที่ถูกล็อกเอาไว้ด้วยรหัสเข้าออกกลับทำให้ดวงตาสวยหวานเบิกกว้าง เธอหันมองเจ้าของห้องชุดสุดหรูด้วยความตกใจ            “เปิดประตูนะคะ!”            “เธอเป็นใครมาสั่งฉัน” เสียงเขายังคงห้วนดังเดิม แต่เพิ่มเติมคือรอยยิ้มเยาะอย่างสาแก่ใจเมื่อเห็นแววตาตื่นตกใจคู่นั้น            “ดิฉันไม่ได้สั่งค่ะ แต่ดิฉันจะกลับ กรุณาเปิดประตูให้ดิฉันนะคะ”            “ถ้าฉันไม่อนุญาตให้ออกไป เธอก็ออกไปไม่ได้ จะตามมาดีๆ หรือจะต้องให้ใช้กำลัง”            เบื้องหลังชายร่างสูงใหญ่ที่เดินจากไปทำให้พรบุหลันก้าวเดินตามไปอย่างงุนงง เพราะจะออกก็ไม่ได้ จะเดินตามที่เขาสั่งก็ไม่ควร แต่ก็ต้องเลือกอย่างหลังเพราะคงเป็นหนทางที่ดีสุด ทั้งที่สมองตื้อจนมองเห็นเพียงสีดำในหัว และมึนงงคล้ายถูกทุบด้วยของแข็ง พยายามหาคำตอบกับตัวเองว่าเธอมาทำอะไรที่นี่กันแน่            เธอมาสัมภาษณ์งานตามที่เขาให้กายไปบอกเธอ หรือจริงๆ แล้วเธอมาร้องของานจากคนที่รังเกียจเธอกันแน่ ทำไมเขาถึงแสดงกิริยากับเธอแบบนี้ ถ้าเขาเกลียดเธอ แล้วเขาจะให้กายไปตามเธอมาทำไม ยิ่งคิดก็ยิ่งงง สิ่งที่เผชิญอยู่นี้คือความจริงหรือเปล่า สีหน้าท่าทางคำพูดแสนอบอุ่นและใจดีในวันวาน กับน้ำเสียงเข่นเขี้ยวและรอยยิ้มเยาะในวันนี้ สิ่งไหนคือความจริง หรือทั้งหมดคือความฝัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม