เพียงแค่กล่าวมาถึงตรงนี้พระนางก็สะบัดกายเดินออกไปจากภายในตำหนักอย่างรวดเร็ว ด้วยไม่สามารถทนเห็น เหตุการณ์เบื้องหน้าได้อีกต่อไป ชื่อเสียงของตระกูลที่พระนางพยายามรักษาไว้ คงต้องถูกทำลายลง เพราะน้องสาวที่ไม่รักดีผู้นี้ของนางเป็นแน่ หากบิดารู้เข้าจะรู้สึกเสียใจมากเพียงใด เหตุใดน้องสาวผู้โง่เขลาของนางผู้นี้ ถึงได้ไม่คิดไตร่ตรองถึงผลที่จะตามมาให้ถี่ถ้วนกัน
แต่สิ่งที่นางสามารถทำได้ในตอนนี้ คงมีเพียงโยนความผิดทั้งหมดไปให้กับชินอ๋องเฉินเทียนอี้ เพื่อที่จะรักษาเกียรติของวงศ์ตระกูลเอาไว้เพียงเท่านั้น…
เพียงไม่นานเรื่องราวเหล่านี้ ก็ได้ถูกลือกันออกไปปากต่อปาก ว่าชินอ๋องเฉินเทียนอี้ได้ทำการหักหาญน้ำใจของบุตรีคนเล็กของท่านเสนาบดีหลิวฉุนเหลียน อย่างไม่อยากจะเชื่อ ว่ามันจะเป็นเรื่องจริง
การแต่งงานสายฟ้าแลบ ก็ได้เกิดขึ้น 1 เดือนต่อจากนั้น ท่ามกลางถ้อยคำติฉินนินทาของผู้คนทั่วทั้งเมืองหลวง ว่าแท้ที่จริงแล้วเรื่องราวคงไม่ใช่อย่างที่ได้ถูก เล่าลือมา เพราะจะมีผู้ใดในเมืองหลวงไม่ทราบว่าคุณหนูหลิวเยี่ยนจือบุตรีคนเล็กของท่านเสนาบดีหลิวฉุนเหลียนนั้น ได้หลงรักชินอ๋องมาเนิ่นนานเพียงใด เรื่องนี้คงเป็นเรื่องสมยอมของสตรีเสียมากกว่า
ตำหนักชินอ๋องเฉียนเทียนอี้
ใบหน้าของสตรีนางหนึ่ง เต็มไปด้วยน้ำตาอาบแก้ม มือทั้งสองข้างของนางถูกกุมไว้ด้วยมือของบุรุษ ที่เป็นเจ้าของตำหนักแห่งนี้
"ถิงเอ๋อร์ ทุกอย่างเป็นเพียงแผนการที่เกิดขึ้นของสตรีไร้ยางอายผู้นั้น"
"แต่ก็ถือว่านางทำสำเร็จไม่ใช่หรือเพคะ ในเมื่อตอนนี้นางได้ตกแต่งเข้ามาเป็นชายาเอกของพระองค์แล้ว"
"ถิงเอ๋อร์ถึงอย่างไร มันก็เป็นเพียงตำแหน่งๆ หนึ่งเพียงเท่านั้น แต่ในหัวใจของเปิ่นหวางนั้นมีเพียงเจ้า อีกไม่นานเปิ่นหวาง จะต้องตกแต่งเจ้าเข้ามาเป็นชายารองของเปิ่นหวางอย่างแน่นอน เจ้าอย่าได้กังวลไปเลย" ชินอ๋องดึงเหอเฟยถิงเข้ามาในอ้อมกอดอย่างรักใคร่ คล้ายกับกลัวว่านางจะบุบสลายไปอย่างง่ายดาย หากเขาทำสิ่งใดรุนแรงเสียอย่างนั้น
"พระองค์ก็ทรงทราบว่าเรื่องนี้ ไทเฮาคงมิยอมโดยง่ายเป็นแน่ ด้วยตำแหน่งของหม่อมฉัน ที่ไม่สามารถค้ำจุนฐานอำนาจของพระองค์ได้ เกรงว่าแม้แต่ตำแหน่งชายารองหม่อมฉันก็มิสามารถเป็นได้อย่างแน่นอน" เหอเฟยถิง กล่าวออกไปอย่างน่าสงสาร ร่างกายของนางสั่นเทาไปด้วยความเสียใจ
จะมีบุรุษใดบ้าง ที่ได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของหญิงงามเบื้องหน้า แล้วจะไม่รู้สึกสงสาร ยิ่งนางเป็นสตรีคนรักของเขาด้วยแล้วยิ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจ แต่สิ่งที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้ กลับทำให้นางรู้สึกเสียใจเสียนี่ ตำแหน่งชายาเอกที่เขาเคยได้ลั่นวาจาสัญญาไว้กับนาง เขายังไม่สามารถทำมันให้เป็นจริงได้
จะโทษก็คงต้องโทษสตรีไร้ยางอายผู้นั้น ที่ทำให้เขาต้องผิดคำสัญญากับสตรีคนรักเช่นนี้
"เจ้าอย่าได้กังวลไปเลยถิงเอ๋อร์ หากเจ้าตกแต่งเข้ามาในตำหนักนี้แล้ว เปิ่นหวางจะมอบอำนาจทุกอย่างให้กับเจ้าได้ดูแล และเป็นนายหญิงที่แท้จริงของตำหนักแห่งนี้"
"มันจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ หรือเพคะ"
ชินอ๋องเฉินเทียนอี้ ได้แต่ถอนหายใจออกมา เมื่อได้ยินถ้อยคำนั้น เพราะเขาเองก็ไม่รู้เช่นกัน ว่าเสด็จแม่จะยินยอมโดยดีกับคำขอนี้ของเขาหรือไม่
ในครั้งล่าสุด ที่เขาได้เคยคุยกันกับเสด็จแม่ในเรื่องนี้ ก็ได้สร้างความไม่พอใจให้กับเสด็จแม่ จนถึงขั้นล้มป่วยลง เขาจึงได้พักเรื่องนี้เอาไว้เสียก่อน รอให้เสด็จแม่ทรงพระทัยเย็นลง แล้วค่อยหาวิธีใหม่อีกครั้ง
แต่ที่แน่ๆ เขาจะไม่มีทาง ปล่อยให้ สตรีผู้นี้หลุดรอดไป นางทั้งอ่อนหวานจิตใจงดงาม และเป็นคนดีโดยแท้จริง เมื่อได้อยู่กับนางแล้วทำให้เขารู้สึกว่า สตรีที่ใสซื่อบริสุทธิ์ และทำให้เขารู้สึกสบายใจนั้นมีอยู่จริง…
เขาคงต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้สตรีไร้ยางอายอย่างหลิวเยี่ยนจือ ได้รับรู้ว่า การเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในตำหนักแห่งนี้นั้น มิได้ราบรื่นหรือโรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่นางต้องการ
ณ ตำหนักเหลียนฮวา
"พระชายาเพคะ สตรีผู้นั้น ได้มาออดอ้อนออเซาะท่านอ๋องอีกแล้ว"
"แล้วอย่างไรเล่าเสี่ยวจิ่ว นางมาหาบุรุษคนรักของนางก็เป็นเรื่องสมควรแล้วไม่ใช่หรือ เกรงว่าข่าวลือที่แพร่สะพัดออกไปทั่วเมืองหลวงในตอนนี้ คงทำให้นางร้อนใจจนไม่สามารถทนอยู่ในเรือนของตนเองได้กระมัง" หลิวเยี่ยนจือยังคงนั่งปักผ้าของนางด้วยท่าทีสบายอกสบายใจ
"พระชายา เหตุใดพระองค์จึงได้มีท่าทีเช่นนี้ สตรีผู้นั้นกำลังจะมาแย่งความรักความโปรดปราน ของพระองค์นะเพคะ"
"เสี่ยวจิ่ว แล้วเจ้าคิดว่าที่ผ่านมา ท่านอ๋องทรงให้ความโปรดปรานกับข้าเช่นนั้นหรือ แม้แต่ย่างกรายเข้ามาในตำหนักนี้ เขายังไม่เคยด้วยซ้ำ แค่เพียงเขายอมรับข้าเข้ามาในฐานะชายาของเขาก็ดีเท่าไหร่แล้ว แค่นี้ข้าก็พอใจแล้ว ถึงเขาจะตกแต่ง ชายารองหรืออนุเข้ามาอีกกี่คน ข้าก็ไม่สนใจหรอก หากนั่นมันคือความสุขของเขา ข้าก็ยินดี"
"พระชายา!!! "
เมื่อได้เห็นใบหน้าที่ตกใจของสาวใช้คนสนิท ที่แสดงออกมา หลังจากได้ยินถ้อยคำนั้นของนาง นางก็ทำได้เพียงยิ้มขมขื่นให้กับตนเอง จะทำเช่นใดได้ในเมื่อเส้นทางนี้ นางได้เลือกแล้ว เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ ก็เป็นสิ่งที่สมควรแล้ว ที่นางจะได้รับมิใช่หรือ?
ภายในกลางดึกคืนนั้นในขณะที่นางกำลังนอนหลับสนิทอยู่ในตำหนัก เสียงเอะอะโวยวายก็ได้ปลุกนางให้ตื่นขึ้นมาจากในภวังค์ หลิวเยี่ยนจื่อจ้องมองไปที่ประตู ที่ถูกเปิดออกอย่างแรง ใบหน้าของบุรุษผู้ที่นางเฝ้าถวิลหาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันได้มาปรากฏยังเบื้องหน้าของนาง อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
ความยินดีในตอนแรก ที่ได้เห็นบุรุษคนรัก ก็ได้แปรเปลี่ยนไป แทบจะในชั่วพริบตา เมื่อนางได้เห็นว่า เขาไม่ได้เข้ามาในตำหนักของนางเพียงลำพัง แต่เขายังนำสาวงามอีก 2 คนเข้ามาในตำหนักของนางด้วย
"พระองค์เสด็จมาที่ตำหนักของหม่อมฉันดึกดื่นถึงเพียงนี้ คงไม่ใช่ว่าคิดถึงหม่อมฉันใช่หรือไม่"
"แน่นอนว่าไม่!!! หลิวเยี่ยนจือ เจ้าอยากจะเข้ามา ในตำหนักแห่งนี้มากไม่ใช่หรือ ต่อจากนี้เปิ่นหวางจะทำให้เจ้าได้รับรู้ว่า การใช้ชีวิตในตำหนักนี้ สำหรับเจ้าแล้วมันจะเป็นเพียงขุมนรกบนดินดีๆ นี่เอง" กล่าวเสร็จชินอ๋องก็ไม่รอช้า จับนางที่กำลังนั่งอยู่ปลายเตียงโยนลงไปที่พื้นอย่างแรง
หลิวเยี่ยนจือได้แต่ข่มกลั้นความเจ็บปวดของนางเอาไว้ และเฝ้าสังเกตถึงพฤติกรรมของพระสวามีของตนเอง อย่างไม่เข้าใจ ว่าเขาต้องการที่จะทำสิ่งใด
เพียงไม่นาน นางก็ต้อง ตื่นตกใจ จนต้องเบิกตาโพลงกับการกระทำนั้นของเขา ชินอ๋องเฉินเทียนอี้จับสตรีทั้งสองนาง ที่เขานำมาด้วย กดลงไปที่ใต้ล่างและปลดเปลื้องอาภรณ์ของพวกนางออกจนหมด และเขาก็ไม่รอช้า ปลดเปลื้องอาภรณ์ของตนเองออกตามไปด้วย
ไม่นานหลิวเยี่ยนจือก็เข้าใจถึงการกระทำทั้งหมดของเขา ในตอนนี้หัวใจของนางรู้สึกเจ็บปวดขึ้นอย่างรุนแรง น้ำตาทั้งสองข้างไหลออกมาอย่างช้าๆ จนภาพที่ปรากฏยังเบื้องหน้ากลายเป็นภาพที่พร่าเลือน
"หลิวเยี่ยนจือ เจ้ารักเปิ่นหวางมากไม่ใช่หรือ งั้นเจ้าก็จงดูในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้เสีย และจงจำเอาไว้ว่า ถึงแม้นว่าเจ้าจะสามารถเข้ามาอยู่ในตำหนักนี้ได้ แต่เจ้าก็จะมิสามารถเข้ามาอยู่ในหัวใจของเปิ่นหวางได้เลยแม้แต่น้อย" ใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวพร้อมกับน้ำเสียงที่ดูประชดประชันและดูจงเกลียดจงชังในขณะที่กล่าวออกมากับนาง ทำให้หญิงสาวถึงกลับต้องหลับตาลงอย่างเจ็บปวด ด้วยว่าไม่ต้องการที่จะทนเห็นภาพบาดตาบาดใจเหล่านี้
"ลืมตาขึ้นมาเสีย นี่คือคำสั่ง และต่อจากนี้ไป สตรีชั่วช้าสามานย์เช่นเจ้า ก็ไม่ควรที่จะอาศัยอยู่ในตำหนักใหญ่เช่นนี้ พรุ่งนี้ให้เจ้าย้ายออกไปอยู่ที่ตำหนักร้างท้ายตำหนักเสีย"
หลิวเยี่ยนจือได้แต่หลับตาลงอย่างเจ็บปวด แต่นางก็ต้องได้รับรู้ถึงความเจ็บปวด เมื่อมือของนางได้ถูกบีบเอาไว้ด้วยมือหนาของบุรุษที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นบุรุษที่นางรักสุดหัวใจ
เขานำบางสิ่งยัดเข้ามาในปากของนาง และบังคับให้นางกลืนลงไปอย่างช้าๆ
"สตรีเช่นเจ้า ชอบใช้วิธีชั่วช้าสามานย์เช่นนี้มิใช่หรือ ยานี้จะทำให้เจ้าเบิกตาโพลง ไม่สามารถหลับตาลงได้ เจ้าจะได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ อย่างชัดเจนเช่นไรเล่า"
ภาพการร่วมรักของสองสตรีและหนึ่งบุรุษ ก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือด โดยมีนางนั่งดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างเจ็บปวด หัวใจของนางถูกบีบรัด เหมือนกับมีเข็มนับร้อยนับพันเล่มกำลังทิ่มแทงมันอยู่ แต่มิว่าจะทำเช่นไร นางก็ไม่สามารถหลับตาลงเพื่อ ปิดกั้นภาพบาดตาบาดใจเหล่านี้ให้หายออกไปจากครรลองสายตาได้เลย
ทันใดนั้นดวงตาของนางก็ได้ปิดลง พร้อมกับลมหายใจที่ปิดปลิวไปอย่างไม่หวนกลับมา ก่อนที่ดวงตาของนางจะปิดลงภาพสุดท้ายที่นางเห็นคือรอยยิ้มที่สาแก่ใจของบุรุษที่นางหลงรักมาชั่วชีวิต กำลังส่งยิ้มมาให้กับนางอย่างจงเกลียดจงชัง