โชว์รูมซูเปอร์คาร์...สาขาภาคใต้
ในห้องประชุมของทีมนัมเบอร์วัน ตอนนี้กำลังประชุมกันอยู่ และคนที่พูดไม่หยุดอยู่หัวโต๊ะก็คือหัวหน้าของพวกเขา
วันนี้เป็นวันซวยจริงๆ เพราะฉันต้องมานั่งประชุมกับเพื่อนร่วมทีมมาเกือบชั่วโมงแล้ว แต่ละคนต่างทำหน้าเซ็งกะตาย จะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ กาแฟที่วางอยู่บนโต๊ะไม่ช่วยอะไรเล๊ย!
ลืมบอกไป...ทีมนักขายอันดับหนึ่งในโชว์รูม มีกันอยู่ห้าคน คือ โสภา สาวประเภทสองที่ผ่าตัดเป็นหญิงมาแล้วทุกส่วน หล่อนอายุสี่สิบอัพเป็นหัวหน้าทีม นิสัยปากจัด จิกเจ็บกับผู้หญิงและตุ๊ด ส่วนกับผู้ชายพูดดีจนน่าถีบ แต่ยอมรับเลยนะว่าเธอพูดดีจูงใจเก่ง ทำยอดขายเป็นอันดับหนึ่งทุกปีจนกลายเป็นที่อิจฉาของทีมอื่น พวกเราได้โบนัสเยอะก็เพราะเธอนี่แหละ สมแล้วที่เป็นหัวหน้าทีม แต่ด้วยนิสัยด้านลบของเธอ ลับหลังฉันจึงเรียกเธอสั้นๆว่า อีโส ไม่ใช่หมายถึง โสภา แต่หมายถึงโสเภณี คนอื่นเลยพากันเรียกตาม
ชูครีม หญิงสาวเรียบร้อย สายตาสั้น ใส่แว่นหนาเต๊อะ ผิวขาว อวบ ใส่ชุดทำงานปิดมิดชิด ทำงานกับเธอมาเป็นปียังไม่เคยเห็นแขนเธอเลยด้วยซ้ำ รายนี้พูดน้อย ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลรถยนต์รุ่นต่างๆ และคอยสรุปจุดเด่นข้อดีข้อเสียของรถแต่ละคัน ไว้ให้พวกเรานำเสนอกับลูกค้า เธอคือหัวกะทิก็ว่าได้
เจนี่ ดูข้างนอกเป็นชายแทน ตัวสูง รูปหล่อ ผิวขาว คิ้วเข้ม แต่งตัวดีใช้ของแบรนด์เนม ผู้หญิงคนไหนเห็นก็ต้องมองเหลียวหลัง แต่จริงๆแล้วมันเป็นตุ๊ดนะเธอจ๋า ใจหญิงสุดๆ โวยวายเสียงแหลมเป็นที่หนึ่ง แต่งหน้าแต่งตาเก่งกว่าฉันสะอีก ทุกคนเรียกว่าเจนี่ แต่ฉันเรียกเธอใหม่ว่าเจนจัด เพราะคุณเธอชอบเล่าเรื่องผู้ชายอย่างช่ำชอง สมแล้วล่ะที่ได้ฉายานั้นไป
มะนาว หญิงแท้ หน้าตาสะสวย ทรงโต ผิวขาว แต่งตัวเปรี้ยวสมชื่อ ชุดทำงานของเธอไม่สั้นจู๋ ก็โชว์ร่องอก พูดเอาใจเก่ง อ้อนเก่ง จนลูกค้ายอมซื้อรถกับเธอมาหลายคันแล้ว แต่บทโกรธก็ด่าแหลกไม่ไว้หน้าใครเหมือนกัน แม้แต่อีโสก็โดนมาแล้วจะบอกให้ มะนาวเป็นเพื่อนสนิทในที่ทำงานของฉันเอง พวกเราอายุเท่ากัน เข้าทำงานพร้อมกัน สนิทถึงขั้นที่ว่ามองตาก็รู้ใจ
ฉันชื่อ พะพิม ชื่อเหมือนเป็นหญิงสาวที่ควรจะเรียบร้อย แต่ตรงกันข้ามเลยล่ะ เพราะฉันถือเป็นคนแรดก็ว่าได้ ชอบอ่อย ชอบยั่วผู้ชาย แต่ไม่มั่วหรอกนะ อย่างว่าอาชีพนักขายอย่างฉัน มันเป็นธรรมดาที่จะต้องใช้วาทศิลป์บวกกับมารยาหญิง ลองเงียบๆสิ รถสักคันคงขายไม่ออก
อายุ23ปี จบปริญญาตรีการขาย ทำงานที่โชว์รูมนี้มาได้หนึ่งปีแล้ว เงินเดือนได้ตามวุฒิหนึ่งหมื่นสองพัน โบนัสต่างหาก ถือว่าเงินดีเมื่อเทียบกับโชว์รูมอื่น ที่นี่ไม่ใช่ว่าใครจะเข้ามาทำได้ง่ายๆ ฉันไม่ได้เก่งการขาย ที่เข้ามาได้เพราะใช้เส้นจากรุ่นพี่ที่เคยเป็นหัวหน้าพนักงาน แต่ตอนนี้เธอลาออกไปแล้วเพราะอยากทำธุรกิจส่วนตัว ฉันโชคดีได้เป็นพนักงานประจำก็เพราะอย่างงี้แหละ
ฉันก็เป็นคนสวยระดับหนึ่งนะ ชอบแต่งตัวแต่งหน้า ทำศัลยกรรมมาบ้าง ทั้งจมูก ตาสองชั้น สักคิ้ว ฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปาก ฉีดผิวขาว ทุกอย่างที่ทำก็เพื่อให้ใบหน้าสวยมีเสน่ห์ดึงดูดความสนใจของลูกค้าก็เท่านั้นเอง
นิสัยจริงๆ ออกห้าว มั่นใจ รักเพื่อน เป็นคนจริงลองใครมาหาเรื่องดิ แม่ตบไม่เลี้ยง ดูร้ายๆอย่างงี้เฮอะ ฉันยังเป็นคนช่างสังเกต มีไหวพริบ แต่ในทีมเรียกว่าฉลาดแกมโกงสะมากกว่า คอยเก็บข้อมูลลูกค้า ดูท่าทางของพวกเขาว่าชอบอะไรยังไง บันทึกใส่หัวสมองไว้ และคราวหน้าเมื่อมาอีก ฉันก็จะสร้างความประทับให้พวกเขา จนยอมซื้อรถไปอีกคัน
“เอาเป็นว่าอาทิตย์หน้าทีมเราจะไม่มีใครหยุดสงกรานต์ เพราะต้องเข้ามาศึกษาเรื่องรถตัวใหม่”
“อะไรนะ!! โหย~” ทุกคนต่างพากันร้องโอดครวญ เออ! ก็ไอ้วันสงกรานต์คือเทศกาลที่ทุกคนต้องหยุดเปล่าวะ? ตอนเช้าไปเล่นน้ำสาดผู้ชาย ส่วนกลางคืนก็ต้องไปแดกเหล้าสังสรรค์ อีโสคิดไงให้พวกเรามาทำงาน สัส!เงินเดือนก็ไม่เพิ่มให้ มีหน้ามาสั่งให้ทำงานอีก และดูเหมือนเธอจะอ่านสีหน้าฉันออก หันขวับมาหาในทันที
“อย่าให้รู้ว่าพวกหล่อนกำลังด่าฉันอยู่ในใจ”
‘ใช่ค่ะ! กูกำลังด่า’ ฉันตอบเธอด้วยสายตา ใครจะกล้าพูดออกไปมีหวังโดนไล่ออกจากทีมแน่ๆ
“ใครจะไปกล้าล่ะพี่โส~” มะนาวเอ่ยแทรกพร้อมกับทำเสียงลากยาว รู้ๆกันอยู่ว่าเธอกำลังแดกดัน
“แล้วไป เอาเป็นว่าหมดเรื่องแล้ว แยกย้ายกันไปทำงานได้”
ทุกคนต่างทำหน้าจ๋อย ลุกขึ้นยืนด้วยความห่อเหี่ยว หมดแล้ว...หมดกันวันหยุดยาว หนึ่งปีมีแค่ครั้งเดียว แต่กลับถูกอีโสนางมารร้ายขัดสะเนี่ย ขอให้พระลงโทษมันอย่างหนัก เพี้ยง! เอาให้มันไม่มีผัวไปเลยชาตินี้ เพี้ยง!
และในขณะที่คนอื่นทยอยกันเดินออกไป ฉันก็กำลังเก็บแฟ้มงานตัวเองอยู่นั้น ไอ้คนที่ฉันแช่งไปก็เอ่ยก่อนที่จะผลักประตู
“อ้อ! พะพิมวันนี้คุณธเนศจะเข้ามาดูรถตัวใหม่ อย่าลืมต้อนรับดีๆด้วยล่ะ”
“เข้าใจแล้วค่ะหัวหน้า” ฉันตอบแบบเซ็งๆ ก็เพราะคุณธเนศที่หัวหน้าสั่งให้ดูแลไอ้คนนั่นน่ะ มันเป็นเสี่ยคนรวย อ้วนพุงพลุ้ย ใส่ทองเส้นเบ้อเร่ออวดรวย ซื้อรถจากโชว์รูมไปแค่ครั้งเดียว แต่ดันแวะเวียนมาที่นี่บ่อยๆ ถ่ายรูปกับรถคันโน้นทีคันนี้ที ทำเป็นว่าตัวเองมาซื้อรถ ที่ไหนได้มาทดลองขับฟรีต่างหาก แต่ไอ้เรื่องพวกนั้นไม่ได้เป็นปัญหาเท่ากับเรื่องเจ้าชู้ มือปลาหมึกของมันหรอก ผู้หญิงฝ่ายขายทุกคนล้วนแต่ถูกแตะอั๋งมาแล้วทั้งนั้น ยกเว้นฉันที่คอยเลี่ยงไม่เข้าหามัน เพราะรู้เกียรติศักดิ์ดี แต่วันนี้ดันเป็นวันซวยจริงๆ เพราะเพื่อนร่วมงานหลายคนต่างต้องดูแลลูกค้าท่านอื่น เหลือแค่ฉันที่ดูเหมือนจะว่างที่สุด หัวหน้าจึงโยนลูกค้าห่วยๆมาให้
“อย่าให้รู้นะ ว่ามึงคิดจะไม่รับลูกค้า อย่ามาทำมึน ไม่งั้นอย่าหาว่ากูไม่เตือน” ภาษาใต้ก็มาจ้ะ อีโสชี้หน้าฉันเอ่ยจบก็เดินออกไป
‘แหย็ดแหม่!’ ฉันด่าในใจพร้อมกับชูนิ้วกลางตามหลังเธอ ขอระบายอารมณ์เล็กๆน้อยๆก็ยังดี
(แหย็ดแหม่ = คำอุทานอย่างหนึ่ง หรือ คำไม่พอใจ)