วันส่งตัว 1

920 คำ
ชาติเดินทางมาส่งบุตรสาวตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อให้ทันเวลานัดหมาย บัวคลี่เดินตามบิดาไปอย่างเลื่อนลอย ใบหน้าของหญิงสาวเปรอะเปื้อนด้วยคราบน้ำตา ไม่ว่าจะเช็ดออกไปสักกี่ครั้งก็ไม่เหือดแห้งหมดไปเสียที มีแต่จะไหลออกมาเรื่อยๆ ไม่ขาดสาย ดวงหน้างามที่เคยสดใสและประดับด้วยรอยยิ้มแจ่มใสในเวลาปกติ บัดนี้กลับหมองเศร้านัยน์ตาแดงก่ำ ขอบตาบวมช้ำ เพราะนอนร้องไห้มาตลอดทั้งคืน อีกทั้งก่อนออกจากบ้านมายังกอดน้องสาวและมารดาร้องไห้ไปอีกยกใหญ่ กว่าจะร่ำลากันเสร็จก็กินเวลานานไปหลายนาที ชาติหยุดเดินและหันกลับมามองบุตรสาวที่เดินตามหลังมาเงียบๆ ก็ยิ่งสงสารจับใจ เมื่อบุตรสาวอันเป็นที่รักต้องจากบ้านไปเป็นผู้หญิงขัดดอก “บัวคลี่เอ๊ย เร่งเท้าหน่อยลูก เดี๋ยวสายแดดจะร้อน อีกอย่างพ่อเข้มเขาจะรอนาน” บัวคลี่เงยหน้าขึ้นมองยบิดาผ่านม่านน้ำตา ก้อนสะอื้นวิ่งมาจุกอยู่ที่คอจนพูดอะไรไม่ออก “จ๊ะพ่อ” เพียงเท่านี้ที่สามารถพูดออกมาได้ จากนั้นก็เร่งเท้าเดินตามบิดาไป สองคนพ่อลูกใช้เวลาเกือบชั่วโมงในการเดินเท้ามายังอีกหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งเป็นหมู่บ้านของนายทุนที่ชาติไปขอกู้ยืมเงินมาลงทุน สองพ่อลูกยืนมองบ้านทรงไทยหลังใหญ่เบื้องหน้าด้วยความตื่นเต้นโดยเฉพาะบัวคลี่ เพราะหญิงสาวไม่เคยเห็นบ้านใหญ่โตแบบนี้มาก่อน และยังดูแน่นหนามิดชิดไม่เหมือนบ้านของเธอที่มีช่องมีรูหลังเล็กกว่านี้เท่าตัว “เข้าไปในบ้านกันเถอะลูก” ชาติเอ่ยชวนบุตรสาว พร้อมทั้งเดินนำเข้าไปในบ้านอย่างคุ้นเคย เพราะเคยมาที่นี่หลายครั้งหลายครา บัวคลี่จับห่อผ้าที่ตัวเองสะพายไว้บนไหล่เอาไว้แน่น ยิ่งเดินเข้าไปใกล้เท่าไหร่หัวใจของหญิงสาวก็ยิ่งเต้นระส่ำด้วยความกลัว ไม่รู้ว่าผู้ชายที่ชื่อเข้มนั้นหน้าตาจะเป็นเช่นไร อ้วน ดำ หัวหยิก ฟันเหยิน หัวล้านหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นเธอจะทำเช่นไร “พ่อเข้ม ฉันชาติเองนะ พ่อเข้มได้ยินไหม” ชาติตะโกนเรียกเจ้าของบ้านออกไป เมื่อเดินมาหยุดยืนอยู่หน้าบันไดบ้านแต่ยังไม่เห็นเจ้าของบ้านลงมา ส่วนบัวคลี่ก็ชะเง้อคอมองขึ้นไปบนบ้านหลังใหญ่เช่นเดียวกันด้วยหัวใจเต้นระส่ำ อยากเห็นใบหน้าค่าตาเสียเหลือเกินว่าเป็นเช่นไร “มากันแล้วเหรอลุงชาติ” เสียงทุ้มดังขึ้นจากทางด้านหลัง เรียกให้ชาติและบัวคลี่หันกลับไปมองเจ้าของเสียงนั้น บัวคลี่ถึงกับใจเต้นแรงขึ้นจากเดิมเมื่อเห็นบุคคลที่ยืนอยู่ด้านหลัง มองชายหนุ่มตรงหน้าตาค้าง หากชายคนนี้คือนายทุนเจ้าของบ้านที่ชื่อเข้ม หญิงสาวคงดีใจไม่น้อย เพราะชายตรงหน้าไม่ได้หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่แต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับมีใบหน้าคมคาย คิ้วเข้ม รับกลับดวงตาเรียวคม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยัก กรอบหน้าประดับด้วยไรเคราเขียวจาง ช่วงบนไม่ได้สวมใส่เสื้ออวดรูปร่างสูงใหญ่ ผิวสีน้ำตาล ด้านล่างสวมแค่กางเกงเลตัวเดียว อวดกล้ามเนื้อเป็นมัด ยิ่งมีเหงื่อผุดพรายอยู่ตามลำตัวยิ่งทำให้ชายตรงหน้าดูดีน่าดึงดูดและมีเสน่ห์ยิ่งนัก จนบัวคลี่อยากยื่นมือไปจับหน้าท้องที่มีมัดกล้ามเรียงตัวสวยงามว่าจะแน่นดีขนาดไหน ส่วนชายหนุ่มก็สำรวจหญิงสาวที่ยืนมองมาที่ตนตาค้างเช่นเดียวกัน แม้ใบหน้าของหญิงสาวจะไม่ได้สวยหยาดเยิ้มจนต้องมองเหลียวหลัง แต่กลับน่ารักดูมีเสน่ห์ไม่น่าเบื่อ โดยเฉพาะดวงตากลมโตที่มองมายังเขาช่างน่าค้นหายิ่งนัก แม้จะบวมช้ำจากการร้องไห้มาก็ตาม ริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อตามธรรมชาติที่เผยอขึ้นอยู่ในขณะนี้ก็น่าลิ้มลอง อยากพาลิ้นเข้าไปชอนไชในโพรงปากเล็กว่าจะหวานสักเพียงไหน และที่สะดุดตาจนทำให้หัวใจของชายหนุ่มแกว่งไกวไม่เป็นจังหวะ คงเป็นทรวดทรงองเอวของหญิงสาวที่โดดเด่นสะดุดตาจนคับเสื้อที่หญิงสาวสวมใส่ “บัวคลี่ นี่พ่อเข้ม” บัวคลี่ยกมือไหว้ชายตรงหน้าอย่างเงอะงะ เนื่องจากสติที่หลุดลอยไปยังไม่เข้าร่องเข้ารอย ส่วนชายหนุ่มก็ยกมือรับไหว้เช่นเดียวกันพร้อมทั้งส่งยิ้มบางให้หญิงสาว และรอยยิ้มนั้นก็ยิ่งทำให้ใจของบัวคลี่เต้นแรงแทบหลอมละลายลงไปเสียเดี๋ยวนี้ จับห่อผ้าที่อยู่บนไหล่เอาไว้แน่น “ขึ้นไปนั่งบนบ้านกินน้ำกินท่าพักผ่อนกันก่อนดีกว่าลุงชาติ มาครับ” ชาติเอ่ยขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็เดินนำสองพ่อลูกขึ้นไปบนบ้าน “ไปบัวคลี่” ชาติหันมาเรียกบุตรสาวที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม จากนั้นก็พากันเดินตามเจ้าของบ้านขึ้นไปเช่นเดียวกัน ด้านนอกที่ว่าใหญ่โตเมื่อเข้ามาด้านในบัวคลี่กลับยิ่งตื่นตาตื่นใจ เพราะภายในนั้นสะอาดสะอ้านกว้างขวาง แคร่ไม้นั่งพักผ่อนก็ตัวใหญ่ขัดเงาสวยงามทำจากไม้เนื้อดี “
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม