EP 2/7 ว่าที่เมีย

1192 คำ
มินตราถอยหลังกรูด จนแผ่นหลังชิดผนังห้องด้านหนึ่ง เธอคลานไปอยู่บนโซฟาอีกตัว ตัวที่อยู่ตรงข้ามเสี่ย ไอ้สารเลวนี่ยืนขวางประตูอยู่ ถ้าเธอกระโจนหนี มันคว้าตัวเธอได้แน่ เธอต้องหาทางรอด หรืออย่างน้อยก็ซื้อเวลาสักนิดก็ยังดี “เท่าไหร่!” “อะไร” “พี่ฉันเป็นหนี้ใช่ไหม! เท่าไหร่! ฉันจะจ่ายเองแล้วปล่อยฉันไป” “จากไหนล่ะ” “ฉันมีการ์ดของพี่ชายอีกคน ฉันจะไปกดเงินสดมาให้” อาเสี่ยพุงพลุ้ยกลั้นขำ เงินก็อยากได้คืนอยู่หรอก เงินเกือบแสนที่ไอ้มนัสกู้ยืมไป ไม่รู้ว่ามันจะคืนได้เมื่อไหร่ เขาไม่สนตราบใดที่มันยังจ่ายดอกเบี้ย แต่ว่า สองสามเดือนมานี้ มันไม่จ่ายน่ะสิ “ขืนปล่อยไปก็โร่ไปหาตำรวจ แล้วกูก็จะชวดทั้งเงิน ทั้ง...น่ะสิ” สายตาของเสี่ยโลมเลียท่อนขาที่โผล่พ้นกระโปรงนักศึกษาของมินตรา “เท่าไหร่! ฉันจะให้พี่ชายฉันเอาเงินสดมาให้ บอกมาว่าเท่าไหร่” “ห้าแสน! เอามาห้าแสน ถ้าไม่มีก็แก้ผ้า” เสี่ยพุงหนาบอกจำนวนที่มั่นใจว่ามินตราจะหามาให้ไม่ได้ มินตราน้ำตาหยดแหมะ ควานหาสมาร์ตโฟนมาโทรหาเตชิณ ที่พึ่งสุดท้ายของเธอ และแน่นอน เขากำลังมาที่นี่ มันอาจต้องใช้เวลา เธอนั่งรออย่างระแวง ทั้งรู้สึกผิดที่ทำให้เตชิณต้องเดือดร้อน เธอไม่น่าโง่ให้แม่กับพี่ๆ หลอกได้เลย เสี่ยใหญ่มองมินตราเหมือนมองลูกไก่ในกำมือ เฝ้ารอเงินที่เจ้าหล่อนจะเอามาประเคนให้ หากถามว่าจะปล่อยมินตราไปไหม บอกเลยว่าไม่มีทาง ลองให้ไอ้โง่คนนั้นเอาเงินมาก่อนเถอะ เขาจะเอาทั้งเงิน ทั้งตัวของมินตราเลย การเฝ้ารอผ่านไปอย่างเชื่องช้า อาจนานกว่าชั่วโมงที่มินตราทำได้เพียงนั่งฝังร่างอยู่กับโซฟาตัวใหญ่ ในขณะที่เสี่ยหื่นลากเก้าอี้มานั่งขวางประตูไว้ ซดเหล้าไป ตาก็โลมเลียร่างเธอ แล้วนาทีหนึ่ง เสียงโวยวายก็ดังขึ้นด้านนอก ก่อนที่ประตูห้องจะถูกเปิดเข้ามาด้วยมือของลูกน้องเสี่ย “เสี่ยครับ! ตำรวจมา!” “อะไรอีกวะ!” เสี่ยใหญ่ลุกยืนอย่างระอา ส่งส่วยช้าไปสี่ซ้าห้าวัน ถึงกับต้องลงพื้นที่มาขู่กันเลยเหรอ “เจอตัวซะทีนะไอ้เหี้ย!” ไม่ใช่เสียงตำรวจ แต่เป็นเสียงของเตชิณ บุรุษที่อยู่ในชุดคลุมเตรียมเข้านอน ลากคอลูกน้องเสี่ยออกจากการขวางทาง ก่อนจะก้าวพรวดๆ เข้าหาคนที่ลนลานวิ่งหนี เขาคว้าเอาขวดเหล้าหวดเข้าหัวของเสี่ยใหญ่ มันแตกดังโพละ เลือดหัวทะลักอาบหน้าอวบๆ เจ้าตัวก็ได้แต่ร้องโอดโอย แต่ยังไม่พอ ผลัวะ! “อ๊ากกก!!” ร่างเสี่ยร่วงผล็อย เมื่อถูกผู้มาใหม่กระโดดถีบยอดอก เตชิณเข้าไปซ้ำ เขาเหยียบคอมันกดลงกับพื้น “ปล่อย! ปล่อยกูนะเว้ย!!” เสี่ยดิ้นพั่บๆ เรียกลูกน้องให้ช่วย แต่ลูกน้องดันปอดแหก เผ่นแน่บอย่างไว เตชิณกดฝ่าเท้าลงกับลำคอของเสี่ยพุงหนา ส่งแรงลงไปจนอีกฝ่ายหน้าแดงหน้าเขียวด้วยหายใจไม่ออก ยิ่งเห็นสภาพของมินตราเขาก็ยิ่งโมโห ไอ้เหี้ยนี่คงไม่ได้... ถือว่าชะตาเสี่ยยังดี ตำรวจสองนายเข้ามาห้ามเตชิณไว้ ก่อนที่เขาจะกลายเป็นผู้ร้ายฆ่าคน เสี่ยใหญ่ถูกหิ้วปีกออกไป เตชิณถึงได้เข้าไปอุ้มเอามินตรา เขาพาหล่อนออกมาจากที่นั่น แต่แทนที่จะได้กลับบ้าน กลับต้องไปให้ปากคำที่โรงพัก เสี่ยตัณหากลับโดนจับตั้งข้อหาตามระเบียบ โดนไปหลายกระทงด้วย กว่าจะเสร็จเรื่องราว มินตราก็แทบทรุด พี่สาวพี่ชายของเธอไม่แม้แต่จะโผล่หน้ามาขอโทษกัน แต่ถึงจะมา เธอก็ไม่มีวันให้อภัย ติ๊ดๆๆๆ เสียงสัญญาณเปิดประตูห้องดังขึ้นในตอนเกือบตีสอง มินตราลากสังขารเข้ามาข้างใน มันเหนื่อยมันล้า มันเพลียทั้งใจทั้งกาย น้ำตาที่ไหล มันไหลจนไม่มีจะออกมา เตชิณยังเงียบอยู่ เธอรู้สึกว่าที่เขาเงียบเป็นเพราะเขากำลังเก็บกลั้นความไม่พอใจ “พี่...พี่พาตำรวจไปเหรอ” เธอถามออกไปอย่างกล้าๆ เกรงๆ ก็แค่อยากหาเรื่องชวนคุย เพราะตั้งแต่ขึ้นรถมาเขาไม่พูดอะไรเลย “เปล่า ตำรวจมาตรวจร้านเพราะเปิดเกินเวลา พี่ก็เลยบอกไปว่าเธอถูกเจ้าของร้านกักตัวไว้ที่นั่น” “โอ...งั้นมินก็ถือว่าโชคดีใช่ไหม ที่รอดมาได้” “งั้นมั้ง!” “พี่คะ...” เรียกเขาด้วยเสียงอ่อนลง ก้มหน้างุด ไม่กล้ามองหน้าเขา “กะอีแค่เงินห้าพัน ทำไมต้องไปรอให้เสี่ยงด้วย!” เตชิณบ่นอย่างโมโห เขาแทบจะกระโดดลงจากเตียงตอนที่หล่อนโทรมา ดีเท่าไหร่ที่วันนี้เขาไม่ได้ออกไปเที่ยว ไม่อย่างนั้น เขาไม่กล้าคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับหล่อนบ้าง “มินกดเงินของพี่ให้พี่เมย์นี่นา พี่เมย์บอกว่าจะคืนตอนเลิกงาน มินก็ต้องรอ ถ้าไม่รออาจจะไม่ได้ก็ได้” “แล้วได้ไหมล่ะ!” พออีกฝ่ายกระแทกเสียงถามกลับ มินตราก็น้ำตาหยดแหมะ รู้ว่าตัวเองโง่ มันเจ็บใจที่ดันโง่ซ้ำๆ ไม่ฉลาดเสียที “ขอบคุณนะที่พี่ไม่เอาเงินไป” “แน่นอน! พี่ไม่ได้โง่ขนาดจะเอาเงินไปให้คนที่ไม่รู้จักนี่!” “งั้นก็มีแค่มินที่โง่” “เออ! ก็รู้ตัวแท้ๆ แล้วทำไมถึงได้... โอ๊ย...ให้ตายสิ! เงินมันก็ไม่ได้มากเลยนะมิน ทำไมต้องไปเสียดายด้วย ให้ๆ พวกเขาไปซะ อย่าทำให้ตัวเองลำบากได้ไหม!” เตชิณโมโหจนหน้าแดง เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดพรายทั่วร่าง ยิ่งเห็นปากของมินตรามีเลือดซึม เขายิ่งเจ็บใจ มินตรากลับไปหาครอบครัวทีไร ได้เรื่องกลับมาทุกที “มินก็คิดแต่ว่าจะเอาเงินกลับมาคืนพี่นี่นา แล้ว...เงินมันไม่ได้มากเหรอคะ ไม่มากเหรอ เงินห้าพันสำหรับพี่กับมิน มันคงมีค่าไม่เท่ากันละมั้ง” เธอบอกเขาทั้งน้ำตา ไม่ได้ต้องการประชด แต่แค่รู้สึกแบบนั้นจริงๆ “มิน...” น้ำเสียงของเตชิณอ่อนลง รู้สึกผิดเมื่อถูกสาวเจ้าย้อนถาม จะเข้าไปปลอบ แต่หล่อนเดินหนี ก่อนที่เสียงฝักบัวในห้องหล่อนจะดังตามมา แล้วพอเป็นอย่างนี้ เขาก็หลับไม่ลง เบียร์กระป๋องน้อยที่เหลือติดตู้เย็นเลยถูกหยิบมาเปิดดื่ม นี่แหละ ข้อดีของการดื่มแอลกอฮอล์ที่ไม่ถูกกับตัวเอง อย่างน้อยพอดื่มเสร็จ เขาก็มั่นใจได้ว่าจะหลับเป็นตาย [3] จนกว่าฟ้าจะสาง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม