12
ณัฏฐลักษณ์อดที่จะถามไม่ได้
“มันก็เหตุผลเดียวกับที่คุณอาสั่งเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ไงคะ คุณอาอยากให้กุ๊กเป็นคนแรกที่ได้นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้คุณอา” เขาขยับเท้าเข้าไปใกล้หลานสาว กระซิบบอกประโยคต่อมา “แล้วจะเป็นตุ๊กตาหน้ารถคนสุดท้ายของคุณอาด้วยค่ะ”
ณัฏฐลักษณ์ไม่เคยรู้สึกว่า หัวใจของเธอเต้นแรงได้มากขนาดนี้ ตลอดสองสามวันที่ผ่านมานี้ เขามักพูดคำพูดระรื่นหู ที่ส่งผลตรงถึงหัวใจที่ทำงานหนักขึ้น คำพูดแต่ละคำพูดเรียกความเขินอายให้เธอยิ่งนักเพราะความหมายในประโยคนั้น มักจะพูดให้หลานสาวบุญธรรมรู้ว่า เธอคือคนสำคัญที่สุดของเขา
“คุณอาขา” เสียงหวานลากยาว ก่อนที่ผู้พูดจะพนมมือไหว้บนอกแกร่ง “กุ๊กขอบคุณคุณอามากนะคะที่ให้ความสำคัญกับกุ๊ก กุ๊กรักคุณอาที่สุดในโลกเลยค่ะ” พูดจบก็กอดร่างใหญ่ แนบหน้าลงกับอกอบอุ่น
“คุณอาก็รักกุ๊กค่ะ รักที่สุดด้วยค่ะ”
โจนาธานบอกรักเธอหลายครั้ง ทว่าณัฏฐลักษณ์กลับคิดว่า คำรักของเขาหมายถึงรักแบบอารักหลาน ไม่ได้คิดนอกกรอบไปเป็นอย่างอื่น เช่นเดียวกับโจนาธานที่คิดว่า คำว่ารักคุณอาที่สุดในโลก คือความรักระหว่างหลานที่มีต่ออา ต่างฝ่ายต่างมองคำว่ารักในทิศทางเดียวกัน แล้วอย่างนี้อีกฝ่ายจะรู้ความในใจได้อย่างไร
“ถ้าคุณอามีภรรยา คุณอาอย่าทิ้งกุ๊กนะคะ ให้กุ๊กอยู่ใกล้ๆ คุณอาด้วยนะคะ” ณัฏฐลักษณ์อ้อนเสียงสั่น เงยหน้ามองชายหนุ่มที่เธอมอบหัวใจให้จนล้นใจ
“กูจะบ้า รักกุ๊กจนแทบบ้า จะไปมีเมียที่ไหนได้ อยากจะพุ่งหลาวใส่ จับทำเมียวันละหลายๆ รอบล่ะไม่ว่า กูหนอกู กูจะคลั่งตายอยู่แล้ว”
โจนาธานครวญในใจ ความรักทั้งหัวใจเขามอบให้หลานสาวขี้อ้อนแสนงอนคนนี้ไปหมดแล้ว คงไม่มีเผื่อแผ่ให้ใครอีก เป็นเช่นนี้เขาจะมีภรรยาเป็นผู้หญิงคนอื่นได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่เธอ
“คุณอาไม่มีวันทิ้งกุ๊กหรอกค่ะ จะทิ้งกุ๊กไปได้ยังไง กุ๊กน่ารักอย่างนี้มีแต่คุณอาจะยิ่งรักๆๆๆ รักมากขึ้นล่ะไม่ว่า” เขาตอบให้เธอชื่นใจณัฏฐลักษณ์ยิ้มกว้าง ดวงตาสุกใส
“จริงนะคะคุณอา คุณอาไม่ทิ้งกุ๊กแน่นะคะ”
“จริงค่ะ จริงพันเปอร์เซ็นต์ด้วย คุณอาต่างหากที่ต้องกลัวกุ๊กทิ้งคุณอาไปหาหนุ่มๆ คนอื่น ไม่สนใจคุณอา ปล่อยให้คุณอาอยู่คนเดียว” ถึงคราวคนตัวโตอ้อนบ้าง
“กุ๊กไม่มีวันทำอย่างนั้นหรอกค่ะ กุ๊กไม่สนใจผู้ชายคนไหนนอกจากคุณอาขาของกุ๊กค่ะ” คำพูดของเธอเป็นความตั้งใจที่ตั้งมั่นมาหลายปี ดวงตาคู่นี้ไม่มีวันมองชายคนไหนนอกจากผู้ชายตรงหน้า
“น่ารักที่สุดหลานอา อย่างนี้ต้องให้รางวัลซะหน่อย”
พูดจบจมูกโด่งก็กดลงบนแก้มนุ่มทั้งซ้ายขวาของเธออย่างรวดเร็ว สูดความหอมที่ยังฟุ้งกระจายในโพรงจมูก ประหนึ่งจมูกของเขาเป็นที่เก็บกักความหอมสดชื่นตลอดกาล ไม่มีวันจางหาย คนที่ถูกขโมยหอมแก้มหน้าแดงแล้วแดงอีก ลามไปทั่วไม่เว้นแม้แต่ใบหูและลำคอ ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจให้กับผู้มองมากเหลือเกิน
“คุณอาขา เราไปกันดีกว่าค่ะ นี่ก็สายมากแล้วเดี๋ยวกุ๊กไปรายงานตัวไม่ทัน” สาวน้อยหน้าแดงชวน
“ไปสิคะ พอรายตัวเสร็จ คุณอาจะพากุ๊กไปนั่งรถเล่น ขับไปทั่วเมืองเลยดีไหมคะ”
“ดีค่ะคุณอา”
“ถ้าอย่างนั้นเชิญเจ้าหญิงขึ้นรถได้แล้วค่ะ เสร็จธุระแล้วเจ้าชายจะได้พาเจ้าหญิงไปขับรถชมวิวกัน”
โจนาธานทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ เปิดประตูให้เจ้าหญิงของตนเข้าไปนั่งในรถสุดหรู ก่อนจะเดินอ้อมไปนั่งประจำที่คนขับ ทะยานรถออกไปยังจุดหมายปลายทาง โดยมีตุ๊กตาหน้ารถสาวสวยนั่งเคียงข้างไปด้วย
รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์รุ่น 2013 BMW HP4 สุดเท่แต่หรูหราแล่นอยู่บนถนนสายหลักของนิวยอร์ก คนขับขี่บิดด้วยความเร็วค่อนข้างสูง ปาดรถแซงรถยนต์คันหน้านับไม่ถ้วน ขับฉวัดเฉวียนซ้ายทีขวาที ยอมทนเสียงก่นด่าที่ตามหลังมาไม่ขาดสาย สาเหตุที่ต้องกลายร่างเป็นสิงห์นักบิดนิสัยไม่ดี เพราะต้องนำเอกสารสำคัญไปให้พี่ชายก่อนเวลาที่อีกฝ่ายกำหนด และนี่ก็เหลือเวลาไม่มากแล้วด้วย อีกไม่กี่นาทีต่อมารถขับเคลื่อนสองล้อจะมาเบรกหน้าอาคารสูงแปดสิบชั้น จุดหมายปลายทางของสิงห์นักบิด
สาวร่างเล็กแต่งกายด้วยชุดหนังรัดรูปสีดำวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในอาคารเมริเดียนอย่างรีบเร่ง มีกระเป๋าเอกสารสีน้ำตาลสะพายพาดบ่า ดวงหน้าสาวก้มมองดูนาฬิกาบนข้อมือ ที่บอกว่า อีกห้านาทีจะถึงการประชุมสำคัญของพี่ชาย นั่นหมายความว่า เอกสารในกระเป๋าจะต้องถึงมือฐิติภัทรภายในระยะเวลาที่เหลือ
“เปิดซะทีสิ เปิดๆๆ” นิ้วเรียวเล็กกดปุ่มลิฟต์ซ้ำๆ หลายครั้ง ปากก็บ่นไม่หยุด “โอ๊ย! เมื่อไหร่จะมาเนี่ย จะไม่ทันอยู่แล้ว ถ้าไม่ทันพี่แซมฆ่าตายแน่ๆ”
จังหวะที่เธอกำลังรอลุ้นลิฟต์โดยสารทั้งหกตัวว่า ลิฟต์ตัวใดจะเปิดประตูก่อน ก็มีชายหนุ่มสามคนเดินไปยังลิฟต์อีกตัวที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งลิฟต์ตัวนี้ไม่มีปุ่มกดเรียกลิฟต์ แต่มีช่องเสียบการ์ดราวกับว่า เป็นลิฟต์ส่วนตัว และทันทีที่ประตูลิฟต์ตัวนั้นเปิดออก คนกลุ่มนั้นก็เดินเข้าไปในลิฟต์ เธอจึงตัดสินใจวิ่งตามเข้าไปติดๆ หนำซ้ำยังใช้นิ้วมือกดปิดลิฟต์เองอีกด้วย
ชายสามคนที่เข้ามาก่อน ต่างตกใจที่มีคนนอกวิ่งเข้าแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย โดยเฉพาะเจ้าของอาคารที่ปรายตามองหญิงสาวที่สูงเพียงบ่าของตนด้วยสายตาไม่พอใจ เพราะลิฟต์ตัวนี้สร้างมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ
“คุณครับนี่มันลิฟต์ส่วนตัวนะครับ” แอนโธนี่พูดเสียงสุภาพมองหน้าสาวสวย เจ้าของชุดรัดรูปที่อวดสรีระน่าฟัดน่าเหวี่ยงผ่านแว่นกันแดดสีชาเข้ม
“ก็แค่ขออาศัยขึ้นไปเท่านั้นเอง นิดหน่อยน่าหยวนๆ กันไป”
ภัทรพรรู้ว่าตนเองผิด แต่คนมันรีบก็ต้องยอมเสี่ยงโดนตำหนิบ้าง เพื่องาน เพื่อหน้าที่ของพี่ชาย เธอพร้อมลุยเสมอ
“เธอไม่ได้อ่านป้ายก่อนเข้ามาในลิฟต์เหรอ ว่าลิฟต์ตัวนี้เป็นของใคร” แอนโธนี่ถามเสียงเอาเรื่อง