9

1142 คำ
9 ณัฏฐลักษณ์พาซื่อเชื่อที่แอนโธนี่อำแก้ตัว เธอลืมไปว่าร้านอาหารหรูหราในนิวยอร์คไม่อนุญาตให้ลูกค้านำสัตว์เลี้ยงเข้ามาด้วยเป็นแน่ สาวน้อยเลิกผ้าคลุมขึ้นก่อนจะก้มมองดูใต้โต๊ะหาสุนัขที่หลุดเข้ามา “ไหนคะหมา ไม่เห็นมีสักตัว” “มันคงวิ่งหนีไปแล้วล่ะกุ๊ก อย่าไปสนใจเลย มากินข้าวกันดีกว่านะ” แอนโธนี่พูดตัดบท เป็นจังหวะเดียวกันกับที่พนักงานของร้านนำอาหารมาเสิร์ฟ ส่งผลให้สงครามย่อยๆ ระหว่างหนุ่มจอมหวงกับหนุ่มจอมกวนสงบลงชั่วคราว ก่อนจะเริ่มขึ้นใหม่ทันทีที่ร่างของพนักงานเดินห่างโต๊ะไป “กุ๊กรู้หรือเปล่าว่า ร้านอาหารร้านนี้เป็นร้านประจำของจอนเลยนะ” แอนโธนี่เริ่มชวนณัฏฐลักษณ์คุย “จริงเหรอคะ” “จริงสิ” แอนโธนี่ตอบ ตักเส้นสปาเก็ตตี้ใส่ปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ พอกลืนอาหารลงไปในคอจึงเริ่มคุยต่อ “จอนพาผู้หญิงมากินที่นี่บ่อยๆ แทบจะไม่ซ้ำหน้ากันเลยนะ บางคนเป็นถึงนางงาม นางแบบก็มี ดาราก็เยอะ พาผู้หญิงมาแทบจะทุกอาชีพ” คนที่ถูกนินทาซึ่งๆ หน้าสำลักน้ำที่กำลังดื่มเข้าไป ไอออกมาสามสี่ครั้งจนต้องตบอกของตนเอง แอนโธนี่ชอบใจกับท่าทางของเพื่อนจนอมยิ้มแก้มตุ่ย แต่ทว่าหญิงเดียวที่นั่งร่วมโต๊ะหน้าเริ่มบึ้งโดยไม่รู้ตัว “ก็คุณอาหล่อนี่คะ ก็ต้องมีผู้หญิงมาติดพัน” เธอพูดเสียงเบา ส่งค้อนให้อาหนุ่ม “กุ๊กพูดถูกมากๆ เลยครับ กุ๊กคงไม่รู้หรอกว่าอาของกุ๊กเสน่ห์แรงแค่ไหน พาผู้หญิงไปนอนที่บ้านไม่เคยซ้ำหน้า ตุ๊กตาหน้ารถก็เปลี่ยนทู้กวัน” แอนโธนี่ไม่ได้ใส่ร้ายเพื่อน แต่ใส่ไฟด้วยความจริงทุกคำพูด โจนาธานเจ้าชู้ใช้ย่อย มีผู้หญิงมาติดพันมากมาย มีให้เลือกไม่ซ้ำกัน “ไอ้โทนี่ มึงพูดห่าอะไรวะ กูไม่ถึงขนาดนั้นซะหน่อย” คนถูกเพื่อนแกล้งเผากระแทกเสียงเข้มเข้าใส่ “กุ๊กอย่าไปฟังโทนี่นะคะ อาไม่ได้เป็นอย่างนั้นซะหน่อย มันใส่ความอา” ก่อนจะหันมาพูดเสียงหวานกับหลานสาวที่นั่งหน้าเรียบเฉย ส่งสายตาแข็งๆ ให้อาหนุ่ม “กุ๊กไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย คุณอาจะพาใครไปสำราญที่บ้าน หรือจะเปลี่ยนตุ๊กตาหน้ารถมันก็ไม่ใช่เรื่องของกุ๊ก มันเป็นเรื่องของคุณอา กุ๊กแค่คนอาศัยจะไปมีปากมีเสียงอะไรได้คะ” น้ำเสียงของเธอไม่ได้หวานหยดเหมือนก่อนหน้า ค่อนข้างแข็งเสมือนแววตาที่ตวัดมองคุณอาหนุ่มนิ่ง โจนาธานได้ฟังแล้วเขาแทบจะบ้า ยิ่งเห็นสายตาของเธอด้วยแล้ว มันเหมือนเขาอยู่ในห้องแคบๆ ที่ไม่มีช่องระบาย อึดอัด หายใจไม่ค่อยสะดวก เขาไม่นึกว่าตนเองจะตกอยู่ในความรู้สึกเช่นนี้ เป็นเพราะเพื่อนตัวดีแท้ๆ “ยังไม่หมดนะกุ๊ก ยังมีอีกเพียบกุ๊กไม่รู้หรอกว่า ผู้หญิงในสต๊อคของจอนมีเป็นร้อย เรียกใช้วันละคนยังได้เลย ไม่งั้นจอนมันคงไม่ได้ฉายาว่า คาสโนว่าแห่งมหานครนิวยอร์กหรอก” แอนโธนี่ยังไม่หยุด ยังพล่ามต่อไป ไม่สนใจว่าโจนาธานจะแยกเขี้ยวใส่ตนหรือไม่ ณัฏฐลักษณ์เหลือบตามองอาหนุ่มที่นั่งสั่นหัวดิก ราวกับว่าจะปฏิเสธเรื่องที่แอนโธนี่พูด “คุณอาคะ กุ๊กอยากกลับบ้านแล้วค่ะ กุ๊กปวดหัวอยากพักผ่อน” เธอรวบช้อนเหมือนจะบอกให้ชายหนุ่มทั้งสองรู้ว่า เธอต้องการกลับบ้านตามที่พูดจริงๆ โจนาธานพูดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะแก้ตัวยังไงเพราะคำพูดทุกคำของแอนโธนี่ล้วนแต่เป็นเรื่องจริงทั้งสิ้น “จอน ฉันขอตัวกลับก่อนนะ พอดีนึกขึ้นได้ว่ามีธุระ นายก็จัดการเคลียร์ปัญหาเองก็แล้วกัน ไปล่ะ” คนที่ก่อเรื่องไว้ขอตัวกลับทันที ไม่วายยักคิ้วให้เพื่อนสนิท ส่งท้ายด้วยการยิ้มกว้างอย่างสุดกวนเป็นของแถม ก่อนจะลุกเดินออกไปจากร้านอาหารอย่างอารมณ์ดี พอพ้นประตูร้านแอนโธนี่ล้วงหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋า กดข้อความส่งถึงโจนาธานประหนึ่งเยาะเย้ย “คิดจะรักเด็กมันก็ต้องปวดหัวอย่างนี้แหละว่ะเพื่อนรัก หาทางออกเอาเองนะ ฮ่าๆๆ” เสียงอึกทึกข้างล่าง ทำให้คนที่กำลังนั่งแปรงผมอยู่ในห้องพักชะงักมือ ก่อนที่ณัฏฐลักษณ์จะวางแปรงลงบนโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วเดินไปยังประตูห้อง เพื่อออกไปดูว่าที่มาของเสียงนั้นคืออะไร “ทำอะไรกันคะ” ณัฏฐลักษณ์เอ่ยถามเนลลี่สาวใช้ประจำบ้านที่กำลังช่วยชายหลายคนขนของออกจากห้องนอนของโจนาธาน แล้วมีชายอีกกลุ่มหนึ่งทยอยนำเฟอร์นิเจอร์ชุดใหม่เข้าไปแทนที่ “คุณจอนสั่งให้เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ทั้งบ้านค่ะ” เนลลี่ตอบ “เปลี่ยนทำไมล่ะ เฟอร์นิเจอร์พวกนั้นยังดูใหม่อยู่เลย” สาวน้อยชาวไทยยังสงสัยต่อ เพราะเธอเห็นว่าเฟอร์นิเจอร์ของเขายังดูใหม่ ไม่ได้สึกหรอแต่อย่างใด แล้วมีเหตุผลใดจึงต้องเปลี่ยน หรือว่านี่เป็นอุปนิสัยของคนรวย ที่เบื่อง่ายเปลี่ยนข้าวของเครื่องใช้เป็นว่าเล่น “ก็เพราะคุณอาอยากให้กุ๊กใช้ของพวกนี้เป็นคนแรกไงคะ จะได้ไม่ซ้ำรอยใคร” คนที่ตอบคือโจนาธานที่เดินออกมาจากห้องนอนของตน เดินมาหาหลานสาวสุดที่รัก “แล้วกุ๊กจะไปใช้อะไรในห้องของคุณอาล่ะคะ กุ๊กไม่ใช่สาวๆ ของคุณอาซะหน่อย” น้ำเสียงของเธอยังติดสะบัดงอน แต่ทว่าใบหน้าแดงระเรื่อกับคำพูดกำกวมของเขา “คุณอาพูดจริงๆ นะคะ คุณอาอยากให้กุ๊กใช้เฟอร์นิเจอร์ในห้องเป็นคนแรกจริงๆ รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างในบ้านด้วย” เขาไม่พูดเปล่ายังจูงมือหลานสาวเข้าไปในห้องนอน “คุณอาเปลี่ยนใหม่หมดเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นเตียงนอน โซฟา โต๊ะทำงาน เก้าอี้ ตู้เสื้อผ้า” ระหว่างที่เขาพูด ดวงตาคู่สวยก็กวาดตามองไปรอบๆ ห้องที่มีชายหนุ่มหลายคนกำลังทำงานอย่างแข็งขัน เนลลี่กำลังปูผ้าที่นอนผืนใหม่ ใส่ปลอกหมอนหนุนศีรษะและปลอกหมอนข้างใหม่หมด ผ้าห่มก็ผืนใหม่ ผ้าคลุมเตียงก็ใหม่ จะเรียกได้ว่า ใหม่หมดทุกอย่างราวกับว่า เขาเพิ่งเข้ามาอยู่บ้านเป็นครั้งแรก “คุณอาทำแบบนี้ทำไมคะ ไม่เห็นมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนเลย ของคุณอาทุกชิ้นก็ยังดูใหม่ กุ๊กเสียดายน่ะค่ะ เปลี่ยนทีก็หลายตังค์”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม