การตัดสินคดีดำเนินไปอย่างรวดเร็วราวกับมีผู้กำหนดอยู่เบื้องหลังอย่างไรอย่างนั้น เจ้าหน้าที่ตุลาการสั่งลงโทษประหารชีวิตพวกเขาโดยไม่เปิดโอกาสให้แสดงความบริสุทธิ์แต่อย่างใด หวังกุ้ยฉินและอวี่ถงได้แต่เก็บความเจ็บแค้นในใจเอาไว้แม้เจ็บปวดมากก็ตาม อีกไม่กี่ชั่วยามจะถึงคราวประหารแล้วจึงไม่อาจทำอะไรได้อีก ตราบใดที่พวกเขาถูกขังอยู่ในคุกแน่นหนาเช่นนี้ “นะ...ไหน ๆ ก็จะตายกันมะ มะ...หมดแล้ว ขะ...ข้าต้องขอโทษพะ...พวกท่านจริง ๆ ทะ...ที่ทำให้ต้องเดือดร้อนไปดะ...ด้วย” อวี่ถงกล่าวขอโทษชายเร่ร่อนทั้งสองซึ่งหมิงเช่อและฉางจวนก็ยิ้มให้อย่างปลงตกในโชคชะตา พวกเขาผ่านเส้นระหว่างความเป็นความตายมานับครั้งไม่ถ้วนยามอยู่ในสนามรบ จึงไม่คิดเกรงกลัวความตายที่รออยู่ตรงหน้า “ไม่ต้องขอโทษหรอกขอรับ พวกข้าเป็นเพียงคนเร่ร่อนฐานะต่ำต้อยกว่าพวกท่านมาก ชีวิตของพวกข้าหาได้มีคุณค่าอันใดต่อให้ตายไปก็ไม่มีผู้ใดเสียใจหรอกขอรับนายท่าน