บทที่ 3

1108 คำ
บทที่ 2 “ตุรกี! เป็นประเทศเดียวในโลก ที่มีดินแดนอยู่ในสองทวีป ทั้งในทวีปเอเชียและทวีปยุโรป ได้แก่ทวีปยุโรปทางตอนใต้ ที่เรียกว่า เทรซ (Thrace) และทวีปเอเชียทางฝั่งตะวันตก ที่เรียกว่า อนาโตเลีย (Anatolia) โดยส่วนที่แยกอานาโตเลียและเทรซออกจากกัน คือ ทะเลมาร์มารา ช่องแคบบอสฟอรัส และช่องแคบดาร์ดะเนลส์” พันธิสาอ่านข้อมูลของดินแดนมหัศจรรย์ ที่อยู่บนแผ่นดินสองทวีปจากหนังสือคู่มือนำเที่ยวประเทศตุรกี ซึ่งแน่นอนว่าคนที่จัดแจงหามาให้เธออ่านก็ไม่พ้นแพรไหม ที่เจ้ากี้เจ้าการทุกอย่าง ตื่นเต้นมากกว่าเธอซะอีก “เฮ้อ...จะหมู่หรือจ่าก็ไม่รู้ จะทำงานบ้านได้ไหมหว่าเรา เกิดมาไม่เคยทำงานเป็นแม่บ้านให้ใครเลย” พันธิสาบ่นอุบ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ วางหนังสือลงกับหน้าตัก พลางซบหน้าลงกับหน้าต่างเครื่องบิน ทอดสายตามองออกไปด้านนอกเห็นทิวทัศน์มองเมืองอิสตันบูลที่อยู่ด้านล่าง พร้อมกับเสียงของกัปตันที่ประกาศให้ทราบว่ากำลังจะนำเครื่องลงจอดในรันเวย์อีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้แล้ว “ถ้าทำงานไม่ได้ ขอกลับประเทศไทยเลย เขาจะให้เรากลับไหม” “เขาฟ้องเราไหม ถ้าเราทำงานไม่ครบตามสัญญา” “เฮ้อ...ยิ่งคิดยิ่งกลุ้ม...ไม่น่ามาเลยเรา...” พันธิสาโอดครวญตั้งแต่เครื่องบินทะยานออกจากประเทศไทย กระทั่งเครื่องบินแตะกับรันเวย์ประเทศตุรกีแล้วก็ยังบ่นไม่เลิก และทั้งๆ ที่รู้ว่าโอดครวญไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะตอนนี้เธอเหยียบแผ่นดินประเทศตุรกี และผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ทำได้ก็คือสูดลมหายใจเข้าปอดลึก เพื่อรวบรวมกำลังใจให้กับตนเอง พร้อมกันนั้นได้กวาดสายตามองหาคนที่จะมารับเธอ “คนมารับเราอยู่ไหนนะ” พันธิสาพึมพำกับตนเอง ลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ กวาดสายตามองบรรดาฝูงชนที่ชูป้ายขึ้นสูง เพื่อบอกให้รู้ว่าพวกเขามารอรับใครบ้าง เจ้าของร่างบอบบางเดินมองหาป้ายชื่อของตนเองไปเรื่อยๆ กระทั่งสุดแถวก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งชูป้ายมีชื่อของเธอพิมพ์อยู่บนป้ายใบนั้นด้วย ก็ปรี่เข้าไปหาอีกฝ่ายในทันที “ Merhaba (เมอร์ฮาบา) มิสพา..พะ...พาธิสา” หนุ่มใหญ่คนนี้แต่งตัวด้วยชุดฟอร์มแลดูสะอาดตา เอ่ยทักทายเป็นภาษาตุรกี และพยายามเรียกชื่อของพันธิสา ซึ่งอีกฝ่ายออกเสียงไม่ถูกเอาซะเลย ทางด้านของพันธิสา ไม่ได้เตรียมตัวมากมายสำหรับการมาทำงานเป็นแม่บ้านในดินแดนแห่งนี้ จึงตีหน้ายุ่งขมวดคิ้วเข้ากัน ไม่เข้าใจว่าประโยคแรกที่ชายผู้นี้พูดออกมานั้นหมายความว่าอย่างไร แต่กระนั้นก็เอ่ยทักทายอีกฝ่ายตามมารยาท “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อพันธิสา นี่ค่ะสัญญาจ้างงานจากเจ้านายของคุณ” พันธิสายื่นสัญญาว่าจ้างงานซึ่งเธอปริ้นติดตัวมาด้วย ยื่นให้กับชายคนดังกล่าว ซึ่งอีกฝ่ายรับไปถือไว้ แต่หาได้อ่านข้อความบนกระดาษแผ่นนี้ไม่ “เมอร์ฮาบา” ชายผู้นี้กล่าวทักทายอีกครั้ง พร้อมกับแนะนำตัวเองด้วยกริยานอบน้อม “ผมชื่ออาลีครับ เจ้านายให้มารับมาดาม เชิญมาดามทางเลยครับ” “มาดาม?” พันธิสารทวนคำอย่างงงๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ชายที่ชื่ออาลี ให้เกียรติกับคนที่มาทำหน้าที่เป็นแค่เพียงแม่ด้วยด้วยการเรียกว่า ‘มาดาม’ “เอ่อ...คุณอาลีคะ ไม่ต้องเรียกฉันว่ามาดามก็ได้นะคะ เรียกว่าธิสาก็ได้ค่ะ” อาลีส่ายหน้าปฏิเสธ แล้วเอ่ยตอบว่า “ไม่ได้หรอกครับ เจ้านายสั่งผมไว้ว่าต้องเรียกคุณว่ามาดาม ผมต้องทำตามที่เจ้านายสั่งครับ” “ฉันมาทำงานเป็นแค่แม่บ้านเองนะคะ ไม่ต้องให้เกียรติฉันมากถึงเพียงนี้หรอกค่ะ” พันธิสาค้านออกมา เดินตามอาลีไปขึ้นรถยนต์ โดยไม่ลืมบ่นอุบตามหลังไปด้วย “เรียกมาดาม ฟังแล้วทะแม่งๆ หูชะมัด” อาลีคลี่ยิ้มบางๆ ไม่โต้เถียงกับพันธิสาอีก พอหญิงสาวเดินมาถึงรถยนต์ ก็ทำหน้าที่เปิดประตูรถ ผายมือเชิญให้หญิงสาวก้าวเข้าไปนั่งในรถยนต์ “เชิญครับ มาดาม” พันธิสาเบิกตากว้างกับรถเบนซ์รุ่นใหม่ล่าสุดราคาเหยียบล้าน ที่อาลีขับมารับเธอถึงสนามบิน พอเข้าไปนั่งในรถแล้ว ก็อดแซวอาลีไม่ได้ “สงสัยฉันคงเป็นแม่บ้านกิตติมศักดิ์แน่ๆ เจ้านายคุณถึงส่งรถเบนซ์ป้ายแดงมารับฉันด้วย” “ใช่ครับ มาดามเป็นไวซ (wife) ของเจ้านาย เพราะฉะนั้นเจ้านายจึงสั่งให้ผมเอารถเบนซ์คันนี้ ซึ่งเพิ่งซื้อมาเมื่อไม่กี่วัน เพื่อเอามารับมาดามโดยเฉพาะครับ” อาลีเอ่ยบอกยิ้มๆ พลางเคลื่อนรถออกจากบริเวณสนามบินอย่างนุ่มนวล พอเหลือบสายตามองพันธิสาผ่านกระจกมองหลัง ก็ฉีกยิ้มกว้าง รู้สึกชื่นชอบหญิงสาวผู้นี้ตั้งแต่แรกเห็น พันธิสาไม่ได้เป็นปลื้มกับรถเบนซ์ราคาแพงลิบ และไม่ได้ดีใจที่อาลีบอกว่าเจ้านายของเขาซื้อรถเบนซ์คันนี้เพื่อส่งมารับเธอโดยเฉพาะ เพราะคำพูดบางคำของอาลีช่างฟังแล้วแปร่งๆ หู ชวนให้ตีความหมายไปในอีกทาง “อาลี ทำไมคุณถึงพูดว่าวันเป็นเอ่อ...ไวซ (wife) ของเจ้านายคุณ ฉันไม่ได้มาเป็นเมียใครนะ ฉันมาทำงานเป็นแม่บ้านต่างหาก” “มาดามเป็นไวซ (wife) ของเจ้านายถูกต้องแล้วครับ” อาลียังย้ำคำพูดเดิม สร้างความหงุดหงิดระคนคลางแคลงใจให้กับพันธิสาเป็นอย่างมาก แต่คำถามที่เตรียมไว้ซักไซ้อาลีก็มีอันต้องจางหายไป เมื่อหันไปมองนอกตัวรถเห็นทิวทัศน์ อารยะธรรมอันยิ่งใหญ่เป็นดั่งอัญมณีโลกของเมืองอิสตันบูล “อาลี! ที่เห็นอยู่ข้างนี้เขาเรียกว่าอะไรคะ” พันธิสาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงบ่งบอกถึงความตื่นเต้น ดวงตากลมโตเปล่งประกายขณะทอดมองสถาปัตยกรรมของเมืองแห่งนี้  อาลีเหลือบสายตามองพันธิสาผ่านกระจกมองหลัง ก็คลี่ยิ้มกว้างกับท่าทีตื่นเต้นของหญิงสาว ซึ่งขยับกายไปนั่งชิดกับประตูรถ เพื่อทอดสายตามองความงดงามของมัสยิดที่อยู่ตรงหน้าอย่างชัดๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม