บทที่๒ปฏิบัติการล่าฉบับอนุบาล(๓)

2370 คำ
เมื่อภายในห้องปลอดบุคคลที่สามและสี่ รัมย์สุดาก็กลืนน้ำลายแข็งๆ ลงคอด้วยความยากลำบาก บอกตามตรงเลยว่า สีหน้าท่าทางของเขากำลังทำให้ใบหน้าเผือดสีลงอย่างเห็นได้ชัด เธอตัดสินใจผิดใช่ไหมที่เล่นกับเขาแบบนั้น แล้วคราวนี้จะเอาตัวรอดได้ด้วยวิธีใดเล่า ในเมื่อร่างสูงใหญ่ปิดกั้นทางหนีทีไล่เอาไว้หมดเช่นนั้น แต่สิ่งที่ทำเอาหัวใจแทบวายเสียทันทีนั่นก็คือ ภาพการเยื้องย่างซึ่งมาพร้อมกับการถอดเสื้อสูทออกช้าๆ เหวี่ยงมันลงไปกับเก้าอี้ทำงานได้ก็หันมาคลายเนคไทให้ปมหลวมลง แล้วกระชากมันทิ้งไปกองอยู่ในจุดเดียวกันกับเสื้อ ตอนนี้ร่างสูงใหญ่ซึ่งอัดแน่นไปด้วยความสมบูรณ์พร้อมราวกับเทพบุตรเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาว และเขาก็กำลังทำให้เหงื่อเธอไหลซกๆ เมื่อปลายนิ้วเรียวยาวหันมาสะกิดกระดุมออกจากรังดุมด้วยนัยน์ตาแฝงเร้นอะไรบางอย่าง “คือฉัน...” ก้นงอนๆ รีบกระถดหนี ยิ่งเขาเข้าใกล้ก็ยิ่งถอยร่นเรื่อยๆ จนแทบจะตกโซฟาอยู่รอมร่อ “อยากให้ฉันจับ...ของเธอมากนักใช่ไหม!” รอสส์คำรามถามโดยเว้นนัยสำคัญไว้ นัยน์ตาสีน้ำข้าวจับจ้องอวัยวะบางส่วนซึ่งเขาเพิ่งได้สัมผัสกับความนุ่มนิ่มมากับมือ ในเมื่อเธออยากให้เขากลายเป็นคนเลวในสายตาลูกน้องดีนัก เขาก็จะทำให้รู้ซึ้งว่าสิ่งที่เธอทำเมื่อครู่มันผิดมหันต์ โอ...เพียงเขากระชากเสื้อเชิ้ตสีขาว ซึ่งห่อหุ้มความสมบูรณ์พร้อมของกล้ามเนื้ออันแน่นขนัด กล้ามหน้าอกก้อนโตๆ ไล่ลงมาถึงช่วงชั้นของซิกแพคซึ่งลดหลั่นกันเป็นลูกคลื่น ไหนจะไรขนสีจางๆ ซึ่งคลุมทั้งสองอกแกร่งลาดต่ำลงเรื่อยๆ จนแพขนสีเข้มช่วงสุดท้ายถูกตะเข็บกางเกงชั้นดีซ่อนเร้นเอาไว้ ทำเอาหญิงสาวเกิดไม่แน่ใจขึ้นมาว่าตกลงใครกำลังยั่วใครกันแน่ เพราะหัวใจกำลังสั่นรัวไปกับสภาพเนื้อตัวซึ่งเปิดเปลือยท่อนบนของเขา หนำซ้ำพวงแก้มทั้งสองข้างก็ร้อนผ่าวๆ ราวกับคนจับไข้อีก “ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอเข้ามาที่นี่ด้วยจุดประสงค์อะไร ในเมื่อฉันปล่อยเธอไปดีๆ แล้วเธอปฏิเสธ...ก็อย่าหาว่าฉันใจร้าย” ‘ทำไมต้องขู่กันด้วย!’ ได้แต่ตะโกนลั่นในใจ เพราะตอนนี้จะพูดอะไรออกมาได้ ในเมื่อนัยน์ตากลมโตกำลังเบิกถลนกับความมาดแมนแสนเท่ของเขาอยู่ รู้ตัวอีกทีก็ในเวลาที่เขาวางมือลงกับพนักพิงโซฟา กักกันเธอไว้ด้วยสองแขนแข็งแรง แล้วก็ใบหน้าหล่อเหลาซึ่งมองเห็นความน่ากลัวบางอย่างแผ่ออกมาจนชวนให้ขนลุกซู่ “ถอดออกสิ!” ชายหนุ่มสั่งเสียงกร้าว นัยน์ตาสีน้ำข้าวจับจ้องเสื้อตัวบางซึ่งมีโซ่เส้นเล็กๆ คล้องลำคอ แล้วก็เสื้อคลุมที่มันปิดบังเนื้อขาวๆ เอาไว้ไม่มิดเสียเลย มองดูอีกทีเนื้อขาวๆ เนียนๆ นุ่มๆ แบบนี้ก็น่าชวนให้ลองลิ้มชิมรสไม่น้อย “ถะ...ถอดอะไรเล่า” แกล้งทำเป็นไขสือ ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าเขาหมายความว่าอย่างไร อยากจะแว้ดด่า อยากจะตบสักทีสองที แต่กลับไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะตอบโต้เขา ตั้งใจจะมายั่วให้เขารักให้เขาหลง แต่ที่ไหนได้ การพบปะกันในครั้งแรกก็ชวนให้อยากกัดลิ้นตายหนีเสียนี่ ครั้นถูกเขาจับจ้องหน้าอกกลมกลึงอยู่ มือน้อยๆ จึงยกปิดอย่างป้องกันตัว แถมยังร้องสั่งเขาด้วยเสียงสั่นๆ อีก “ถะ...ถอยออกไปเลยนะ อย่าเข้ามาใกล้ฉัน เพราะว่าฉันไม่ปลาบปลื้มที่จะเห็นรูปร่างของคุณเลยสักนิด” “ไม่อยากเห็นอย่างนั้นหรือ...” เจ้าของคำถามดูเหมือนจะไม่เชื่อเลยสักนิด แต่ก็ขยับถอยพร้อมผงกหน้าหงึกหงัก “ก็ได้...สงสัยว่าแค่ถอดเสื้อคงไม่ทำให้เธอหวั่นไหวพอ ถ้าอย่างนั้นฉันจะถอดให้หมดทุกชิ้นเลยก็แล้วกัน” สิ้นเสียงห้าวทุ้มชวนให้หวาดหวั่น ทำเอารัมย์สุดาต้องรวบรวมแรงใจแรงกายเฮือกสุดท้ายในการวิ่งหนีจากสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น แต่ก็ยังช้าไปเพราะเพียงแค่คิดจะเปิดประตู ร่างเล็กๆ ของเธอก็ลอยลิ่วห่างจากพื้นมานับเมตร เขาแบกเธอพาดไว้บนไหล่กว้างอันเปลือยเปล่า ให้เนื้อนุ่มๆ ของเธอได้สัมผัสกับกล้ามเนื้อแข็งแรงของเขา และเชื่อเถอะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกำลังทำเอาหัวใจสาวน้อยตุ้มๆ ต่อมๆ ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ จึงเอาแต่ดิ้นขลุกขลักอยู่บนที่สูงพร้อมร้องปาวๆ สั่ง “ปล่อยนะ! คนบ้า คนเลว คุณจะทำอะไรกับฉัน!” “เฉยๆ น่า แล้วก็ปล่อยให้ฉันจับเนื้อตัวอย่างที่เธอต้องการไง” “ไม่เอา!” ส่ายหน้าดิกปฏิเสธ แล้วถึงกับต้องเบ้ปาก เมื่อร่างกายถูกทุ่มลงกับโซฟาตัวกว้างอีกครั้ง แต่ความเจ็บแค่นี้มันไม่ทำให้เธอหยุดหนีได้หรอก ดังนั้นจึงดึงดันตะเกียกตะกายให้พ้นจากโซฟาอีกครั้ง ทว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด เมื่อหนนี้ร่างกายลอยคว้างกระทบกับอกกว้าง ให้ปากและจมูกได้สูดกลิ่นกายหอมมีเสน่ห์ของเขา “ปล่อยนะคุณ!” แล้วคราวนี้เขาก็ทำเอาใจสั่นอีกครา เมื่อเขาไม่ได้ทุ่มร่างของเธอลงกับโซฟาอย่างเคย แต่กำลังพาก้าวไปที่ไหนสักแห่ง พอกระจกบานกว้างเลื่อนออกนั่นแหละดวงตากลมโตถึงกับเบิกกว้าง คว้าลำคอแข็งแกร่งเอาไว้ไม่ยอมคลายง่ายๆ “ถึงห้องนอนของเราละ ถ้าเธอมาที่นี่เพื่ออยากเป็นของฉัน...ฉันจะทำให้เธอสมหวัง” รอสส์ก้มลงมากระซิบใกล้ๆ กลุ่มผมหอมนุ่ม ทรงผมสุดเซ็กซี่สั้นระดับปลายคอสีน้ำตาลอ่อนๆ ช่างเย้าอารมณ์จริง ชายหนุ่มรู้สึกชอบทรงผมทรงนี้ คงเป็นเพราะมันเผยให้เห็นลำคอขาวๆ ซึ่งน่าฝังปากและจมูกลงไปเสียเต็มประดา “ฉันไม่อยากเป็นของคุณสักหน่อย” รัมย์สุดาส่ายหน้าดิก ขยับตัวลงจากอกกว้างเป็นพัลวัน ครั้นถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ก็รีบมุ่งตรงออกจากห้องนอนอันโอ่โถง แต่จะหนีไปไหนได้เล่าในเมื่อเจอแผ่นอกอันแข็งแกร่งขัดขวางอยู่เช่นนี้ ไหนจะสีหน้าท่าทางชวนให้หนาวๆ ร้อนๆ นั่นอีก เวลานี้สิ่งที่ทำได้ก็คือ หาทางผ่อนอารมณ์ดุๆ ของชายหนุ่มให้ผ่อนคลายลง “เอ่อ...คุณใจเย็นๆ ก่อน แล้วเรามาคุยกันให้รู้เรื่องดีไหม” “ฉันไม่มีอารมณ์คุย แต่อารมณ์อย่างอื่นนั้น...มีแบบจัดเต็ม” เจ้าของเสียงทุ้มพร่ากระซิบตอบ “โอ๊ย! ทำไมต้องพูดจาสองแง่สองง่าม ชวนให้คิดแบบนั้นด้วยเล่า” ครั้นจนมุมเข้าจริงๆ ก็แว้ดใส่เสียงขุ่นคลั่ก หนำซ้ำยังก้มหน้าก้มตามองแค่เพียงช่วงขาแข็งแรงลาดลงต่ำเท่านั้น เธอไม่กล้าจับจ้องอกกว้างๆ ผิวขาวๆ ซึ่งน่าซุกซบเอาเสียเลย กลัวจริงๆ ว่าจากการคิดมาหลอกลวงเขา กลับกลายเป็นตัวเธอเองต่างหากที่ถูกล่อให้ตกหลุมพรางเสียเอง แถมหลุมนี้ทั้งลึกและกว้างจนยากจะปีนป่ายขึ้นเสียด้วย “ก็เธอต้องการแบบนั้นไม่ใช่หรือ...แล้วจะเล่นตัวให้ได้อะไรขึ้นมา” ไม่พูดเพียงปาก แต่กลับขยับฝีเท้าแข็งแรงก้าวเข้าใกล้ เสี้ยวหน้าคมคายไม่มีรอยยิ้มใดๆ ปรากฏ มีเพียงดวงตาสีน้ำข้าวซึ่งเอาแต่จับจ้องอากัปกิริยาของร่างบางอยู่ไม่วาง ยิ่งอีกฝ่ายถอยร่นหนีมุมปากได้รูปก็กดลงลึกอย่างมีเลศนัย ไม่นานก็สามารถคว้าเอาเอวคอดกิ่วของคนหนีมากระแทกอกกว้างเข้าอย่างจัง ชนิดที่ว่าเนื้อแนบเนื้อ หนังแนบหนัง ช่องว่างเล็กๆ ก็ไม่มีปรากฏ “บอกหน่อยสิ!...จะให้ฉันเริ่มจับเธอส่วนไหนก่อนดี” คิดสิคิด! รัมย์สุดากำลังบอกตัวเองให้คิดหนักๆ คิดให้ถี่ถ้วน ทว่าเวลามันคงมีน้อยนิดจนหัวสมองพานตีบตันขึ้นดื้อๆ ตอนนี้สิ่งที่ทำได้ก็คือสูดหายใจเข้าปอดลึก แล้วกลบเกลื่อนใบหน้าอันซีดเซียวด้วยรอยยิ้มหวาน ฟันสะอาดขาวก็กัดริมฝีปากล่างแล้วค่อยๆ ยกมือขึ้นคล้องคอ ส่วนอีกข้างก็ลูบไล้หน้าอกกว้างอย่างใจกล้า “แล้วคุณอยากจับส่วนไหนก่อนดีคะ เป็นก้น อก เอว สะโพก...หรือว่า เนื้อนุ่มๆ สองก้อนกลมกลึงที่เรียกว่า...หน้าอก” ลอยหน้าลอยตาพูด แล้วกดปลายนิ้วเล็กๆ ลงกับกล้ามอกอันแน่นขนัด แถมยังถูไถปลายจมูกโด่งเป็นสัน ครูดไปตามผิวเนื้อล่ำสัน เอาสิ! ถ้าเขาอยากจะเล่นไม้นี้ เธอก็มีความสามารถในการยั่วผู้ชายให้ติดกัปได้เหมือนกัน ให้รู้ไป! ว่าคุณหนูรัมย์สุดา ฤทธิกรวดีจะยั่วผู้ชายคนนี้จนอยู่หมัดไม่ได้ คอยดูนะ! ถ้าเขาไม่หลงใหลจนหัวปักหัวปำละก็ จะไม่ขอออกจากที่นี่เด็ดขาด “ว่าไงคะ...คุณอยากจะจับ อยากลูบคลำส่วนไหนก่อนดี” หญิงสาวไม่ปล่อยโอกาสให้ชายหนุ่มได้ขบคิด รีบรั้งเอาฝ่ามือนุ่มๆ ซึ่งเกาะพันกับเอวคอดออกห่าง จากนั้นก็ขยับถอยหนึ่งก้าว แล้วค่อยๆ สลัดเสื้อคลุมออก ให้เหลือเพียงเสื้อตัวบางๆ แนบเนื้อ ซึ่งถ้าปลดสายคล้องคอออกมันก็พร้อมจะล่วงหลุดไปกองอยู่กับปลายเท้า เมื่อเนินไหล่ลาดเนียนเปลือยเปล่า ก็คว้าเอามือฝ่ามือร้อนๆ มาทาบกับผิวเนื้อบริเวณนั้น แอบขำไม่น้อยที่เห็นใบหน้าหล่อคมคายเปลี่ยนสี หนำซ้ำมือไม้เขาก็เริ่มแข็ง เหมือนไม่อยากจับเนื้อเนียนๆ อีก ท่าทีที่เห็นทำเอาอยากจะหัวเราะใส่ แต่สิ่งที่ทำได้ในเวลานี้ก็มีเพียงยิ้มยั่วกลบเกลื่อนความหวาดหวั่น “จับสิคะ ฉันอยากให้คุณทั้งจับแล้วก็จูบทั้งตัว...” “เธอนี่มัน!” รอสส์ได้แต่ขบกรามแน่น อยากจะหักคอคนเสนอตัวให้จูบให้จับยิ่งนัก เป็นผู้หญิงประสาอะไรมายืดอก เชิดหน้าให้ผู้ชายลวนลาม และคนอย่างเขาไม่ชอบอะไรแบบนี้เสียด้วย ดังนั้นจึงได้แต่จับมือจับแขนร่างบางออก แล้วถอยไปตั้งหลักเสียหลายก้าว “เอาละ! หมดเวลาเล่นสนุก เชิญเธอกลับออกไปได้” “กลับหรือ...” รัมย์สุดากำลังเยื้องย่างเข้าใกล้ ปลายนิ้วเรียวขยับไล้ท่อนแขนเปลือยเปล่าไปมา “ก่อนหน้านี้ฉันก็อยากกลับอยู่หรอกนะ แต่พอถูกคุณอุ้ม แล้วก็ได้เห็นผิวขาวๆ เนื้อแน่นๆ ของคุณ ก็ชักอยากเปลี่ยนใจขึ้นมา คุณรู้ไหมว่า...ตั้งแต่ฉันโตเป็นสาวแรกรุ่น จนตอนนี้อายุยี่สิบสี่ ฉันไม่เคยเจอหุ่นของผู้ชายคนไหนน่าขย้ำอย่างคุณมาก่อนเลย” “ถ้าไม่กลับ เธอได้เจอกับปีศาจร้ายในตัวฉันแน่...”รอสส์ไม่ได้ข่มขู่เลยสักนิด เพราะสิ่งที่ชายหนุ่มกล่าวออกมามันคือเรื่องจริง และขอสารภาพออกมาตามตรงเลยว่า ตัวเล็กๆ เนื้อเนียนๆ เช่นนี้ ช่างบอบบางเกินกว่าจะแบกรับบทรักอันร้อนแรงและแฝงเร้นด้วยความดิบเถื่อน ถ้าเธอได้ลองลิ้มชิมดูสักครา ขี้คร้านจะร้องห่มร้องไห้ไปเจ็ดวันเจ็ดคืน หรืออาจจะร้องจนขาดใจตายไปเลยก็เป็นได้ “ฉันไม่กลัวหรอก...เพราะฉันจะทำให้คุณรับผิดชอบในสิ่งที่คุณทำกับฉัน” บอกด้วยเสียงมุ่งมั่นแล้วเขย่งปลายเท้าขึ้นแล้วจูบเบาๆ กับปลายคางได้รูป “นี่คือคำมั่น ว่าฉันจะไม่มีวันไปจากที่นี่เด็ดขาด” พูดไปแล้วก็ยักคิ้วหลิ่วตาให้ พลางหมุนกายเดินไปทิ้งตัวลงนอนคว่ำลงกับเตียงนุ่มๆ ให้เขาได้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งด้านหลังจะจะตา จากนั้นก็เอ่ยขึ้นราวกับเป็นเจ้านายก็ไม่ปาน “ในเมื่อฉันจะอยู่ที่นี่ ก็ขอรบกวนคุณช่วยจัดหาเสื้อสวยๆ เครื่องสำอาง และก็ของใช้สำหรับผู้หญิงให้ด้วย อ้อ! ขอขนมว่างกินเล่นๆ ระหว่างรอมื้อเที่ยงที่กำลังจะมาถึงด้วยนะคะ แล้วก็อย่าลืมน้ำส้มเย็นๆ คั้นสดๆ สำหรับคนสวยสักแก้ว” หญิงสาวไม่อยากรับรู้หรอกว่า หลังสิ้นเสียงของเธอเขาจะทำหน้าอย่างไร ตอนนี้จึงได้แต่แกล้งหลับตาพริ้มลงเสียดื้อๆ เอาสิ! ก็อยากจะรู้นักว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไป ระหว่างปล่อยให้เธออยู่ที่นี่ หรือไม่ก็จับโยนออกไป แต่ด้วยเสน่ห์กับผิวขาวๆ ที่เขาได้ยลไปเมื่อสักครู่ คิดว่าเขาน่าจะให้เธออยู่ที่นี่นะ และเพียงอึดใจเดียว เรียวปากอิ่มชื้นก็แย้มกว้างๆ เป็นรอยยิ้มพอใจ ดูเหมือนชายหนุ่มไม่พูดอะไรนอกจากเดินปึงปังออกจากห้องนอน ตอนนี้ห้องกว้างๆ จึงเป็นของเธอโดยอัตโนมัติ แต่พอเขาไปแล้วจริงๆ ก็รีบลุกขึ้นแล้วคว้าเอาเสื้อคลุมมาสวมใส่ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองจะบ้าดีเดือดได้ถึงเพียงนี้ ถ้าหากเรื่องนี้รู้ถึงหูอิสตรีเข้าละก็ เพื่อนตัวแสบคงหัวเราะชอบใจเป็นการใหญ่ เอาเถอะ! ในเมื่อเข้ามาอยู่ในอาณาจักรส่วนตัวของรอสส์ รชต สเตอร์ลัมล์ได้แล้วจะยอมออกไปให้โง่หรืออย่างไร รอวันที่ได้เงินสักสามร้อยล้านก่อนเถอะ จะรีบชิ่งออกจากที่นี่แล้วกระพือปีกสวยๆ กลับเมืองไทยอย่างเริงร่า หลังจากนั้นต่อให้ผู้ชายหล่อๆ อย่างเขามาแก้ผ้าตรงหน้าเธอก็จะไม่แม้แต่เหลียวตามอง...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม