กำราบกรัก 2
เช้าอีกวัน รถตู้สีดำสนิทราคาเหยียบสิบล้านแล่นออกจากเพ้นท์เฮ้าหรูเพื่อมุ่งหน้าไปยังสายการบินสกายไลน์ ร่างสูงในรถก้มลงมองนาฬิกาสีเงินยี่ห้อดังบนข้อมือหนา
เมื่อเห็นว่าขณะนี้เกือบถึงเวลาที่เขานัดกับเด็กแสบอย่างหนูซอล เจ้าตัวจึงอดไม่ได้ที่จะโทรหาเธอเสียหน่อย
ตู๊ด ตู๊ด
ทีรอสายอยู่ครู่หนึ่ง ปลายสายก็กดรับด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“โหล คราย”
คนโทรกระตุกยิ้มมุมปากพลางจินตนาการถึงหน้าอีกคน ตอนนี้หน้าคงยับยู่ยี่เพราะโดนก่อกวนเวลานอน มันจะน่ารักสักแค่ไหนเชียวนะ
“เธอมีนัดกับฉัน”
“อือ”
กุญแจซอลตอบรับแต่ฟังแล้วเหมือนเสียงละเมอเสียมากกว่า
“หนูซอลตื่น”
“หนูซอลขออีกสิบนาทีนะคะ”
ได้ยินเสียงพึมพำเพียงเท่านั้น ปลายสายก็ถูกตัดไปเมื่อโทรกลับปรากฏว่าเธอกดปิดเครื่องไปซะอย่างนั้น
“กร วันนี้มีอะไรสำคัญ?”
“ช่วงเช้าไม่มีครับท่านประธาน มีแค่ประชุมช่วงบ่ายสามครับ”
กร ลูกน้องคนสนิทซึ่งนั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับก้มลงมองตารางงานเจ้านายก่อนจะรีบรายงาน
“อือ ไปคอนโดกุญแจซอล”
“ว่าไงนะครับ”
กรถามย้ำเพื่อความมั่นใจอีกครั้งแต่สายตานิ่งเรียบที่เจ้านายส่งกลับมาแสดงให้เขาเข้าใจเป็นอย่างดีว่าสิ่งที่เจ้านายเอ่ยสั่งเมื่อครู่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
“ได้ครับ ให้ผมโทรไปแจ้งคุณหนูซอลไว้ก่อนมั้ยครับ”
“ไม่ต้อง”
ไม่นานรถตู้สีดำของประธานบริษัทสายการบินสกายไลน์ได้เลี้ยวเข้ามาจอดในคอนโดย่านสถานศึกษาชื่อดัง ทีรับกุญแจและคีย์การ์ดห้องของบุคคลที่เขาต้องการมาหาจากกร โชคดีเมื่อวันก่อนพ่อเลี้ยงส่งกุญแจมาให้เขา สงสัยคงรู้ว่าสักวันเขาคงจำเป็นต้องใช้มันแต่ใครจะคิดว่าได้ใช้เร็วขนาดนี้
“ท่านประธานให้ผมรอมั้ยครับ”
“ไม่ต้อง”
“แล้วท่านประธานจะกลับยังไงครับหรือว่าให้ผมมา เอ่อ ขอโทษครับท่านประธาน”
กรรีบสงบปากสงบคำเมื่อสายตาที่เจ้านายส่งมาเหมือนจะแผ่ความเย็นออกมาราวกับเป็นสัญญานเตือนเขาว่าเขาพูดมากเกินไปแล้ว
ทีเดินลงจากรถ เดินตรงไปแตะคีย์การตรงประตูทางเข้าอีกชั้นของตึกในคอนโด
ลิฟต์เปิดออกชั้น 21 ทีก้มลงมองหมายเลขห้องอีกครั้ง คอนโดแห่งนี้ก็ไม่ได้ดูเป็นส่วนตัวเท่าเพ้นท์เฮ้าของเขาถึงแม้คอนโดจะไฮคลาสพอสมควรแต่ก็นั่นแหละเขาก็ยังรู้สึกไม่ชอบใจอยู่ดีเมื่อคิดถึงเรื่องที่คนอื่นสามารถมาห้องกุญแจซอลเอาได้ง่ายๆ
แกร๊ก
ทีเลือกที่จะไม่เคาะประตูเพราะค่อนข้างมั่นใจว่าเจ้าของห้องคงยังนอนขดตัวอยู่ในผ้าห่ม เขาเลยตัดสินใจไขประตูเข้าไปอย่างถือวิสาสะ
“หึ ปาร์ตี้สินะ”
ดวงตาคมเหลือบไปเห็นเศษซากขนมและเครื่องดื่มตรงบริเวณโซนห้องนั่งเล่น นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณหนูซอลตื่นสายในวันนี้สินะ
เจ้าของร่างสูงเดินตรงไปยังประตูห้องนอนสีชมพูพาสเทล เขาลองบิดลูกบิดประตูดูปรากฏว่ามันกลับเปิดออกได้อย่างง่ายดายโดยที่คนในห้องไม่ได้ล็อกมัน นั่นยิ่งทำให้ทีรู้สึกหงุดหงิดใจเข้าไปอีก เป็นสาวเป็นนางทำไมไม่รู้จักระวังตัว
“หลับสบายเชียวนะหนูซอล”
ร่างเล็กนอนขดเป็นก้อนกลมๆอยู่ในผ้าห่มสีเดียวกับประตู ร่างทั้งร่างถูกกลืนกินเข้าไปในผ้าห่มมีเพียงหัวโผล่พ้นมาเท่านั้น
ทีเดินเข้าไปหยุดยืนอยู่ข้างเตียงเธอ ก้มลงมองใบหน้าขาวใสมีเลือดฝาดสีแดงระเรื่อใกล้ๆ ตอนหลับก็ดูน่ารักดีนะแต่ทำไมพอตื่นถึงได้ร้ายนักก็ไม่รู้
“หนูซอลตื่น”
เสียงทุ้มเอ่ยปลุกคนบนเตียงแต่ไร้วี่แววการตื่นของเธอแม้แต่น้อยแถมเจ้าตัวยังมุดหน้าเข้าไปในผ้าห่มอีก
“จะไม่ตื่น?”
ทีถามขึ้นพลางดึงผ้าห่มออกจากตัวกุญแจซอลแต่เจ้าตัวพยายามขืนตัวไว้ไม่ยอมให้เขาดึงผ้าห่มออก
“หนูซอล”
เมื่อเห็นว่าคนบนเตียงเริ่มดื้อ ทีเลยเรียกเธอเสียงเข้ม ครั้งนี้เลยได้เสียงงัวเงียตอบกลับมาแทน
“หนูซอลไม่อยู่”
รอยยิ้มบางปรากฏบนใบหน้าของบุคคลที่ได้ชื่อว่าเสือยิ้มยาก เขานึกขันคนตัวเล็กบนเตียงไม่น้อย อ้างมาได้อย่างไรว่าหนูซอลไม่อยู่แล้วไอก้อนกลมๆบนเตียงนี่แมวที่ไหนกัน
“ตกลงจะไม่ตื่น?”
ทีถามซ้ำอีกครั้งพลางใช้มือดึงแก้มนิ่มให้ยืดออกด้วยความหมั่นไส้ กุญแจซอลฟึดฟัดเล็กน้อยก่อนจะหลบเข้าไปอยู่ในผ้าห่มดังเดิม
“นอนให้ได้ตลอดล่ะกัน”
ริมฝีปากบางยกยิ้มร้ายก่อนจะเดินออกไปเพื่อหาอุปกรณ์ปลุกเด็กดื้อบนเตียง ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมบัวรดน้ำต้นไม้ในมือ ทียืนถือบัวรดน้ำอยู่ข้างเตียงก่อนจะบรรจงรดลงบนตัวของกุญแจซอล
“อร๊าย อะไรเนี่ย”
และมันได้ผล คนขี้เซาไม่ยอมตื่นกระเด้งตัวลุกขึ้นโวยวายแทบทันที เสื้อนอนสีขาวนั่นเมื่อโดนน้ำเลยเผยให้เห็นเนื้อแท้ด้านในของคนใส่แล้วไม่ทราบบังเอิญหรือตั้งใจเพราะบริเวณที่เปียกน้ำมากที่สุดดันเป็นส่วนบนทำให้ภาพหน้าอกอวบอิ่มเกินตัวซึ่งมีบราไร้โครงสีเดียวกันกับชุดเด่นหราอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม
“เปียกหมดเลย คุณเล่นอะไรเนี่ย”
“เธอไม่ตื่นเอง”
ทีพยายามควบคุมอารมณ์แปรปรวนภายร่างกายให้คงที่แม้ว่าสายตาจะไม่สามารถละออกจากเนินอกอวบอิ่มนั่นได้เลยก็ตาม
“คนอำมหิตแล้วทำไมฉันต้องตื่นไม่ทราบ”
“เธอคงลืมว่าฉันนัดเก้าโมง”
ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนเบิกกว้างเหมือนพึ่งนึกบางอย่างออก
“หรือฉันควรโทรหาพ่อเลี้ยง”
ครั้งนี้คนตัวเล็กบนเตียงรีบกระเด้งตัวลุกขึ้น เอื้อมมือไปจับแขนแกร่งของทีพลางพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“โธ่ว เรื่องแค่นี้ไม่ต้องถึงหูพ่อหรอกค่ะ เดี๋ยวหนูซอลจะรีบไปอาบน้ำเพื่อมาทำงานให้คุณที คุณทีอยากให้หนูซอลทำอะไรได้หมดเลยนะ”
ทีกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เพราะนอกว่าเสื้อสีขาวที่เปียกน้ำด้านบนจะเย้ายวนเขาจนแทบตบะแตก กางเกงนอนขาสั้นโชว์เรียวขาเนียนขาวนั่นยังทำให้เขาแทบคลั่งอีก
“พูดมาก รีบไป”
มือหนาผลักหน้าผากเนียนสองสามทีก่อนจะเดินออกจากสถานการณ์อันตรายนี้ไปสงบสติอารมณ์ด้านนอก
‘จับเด็กฟัดตอนนี้ เด็กมันจะตกใจกลัวรึเปล่าวะ’ ทีคิดในใจก่อนจะสลัดความคิดหื่นกามเหล่านั้นออกจากหัวแล้วตั้งสมาธิหันมาสนใจงานในไอแพดต่อ
ใช้เวลาไม่นานกุญแจซอลก็เดินออกมาจากห้องแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีกรมประดับด้วยเพชรเม็ดเล็กเสริมให้ชุดดูน่ารักและน่าสนใจขึ้น
ดวงตากลมโตเหลือบมองท่านประธานซึ่งกำลังนั่งทำงานอยู่โซนโต๊ะทำงานของเธอซึ่งตั้งแต่ซื้อคอนโดนี้มานับครั้งได้เลยที่เธอจะย่างกรายเข้าไปในโซนนั้น
“ชิบหาย ลืมเก็บของ”
มือเล็กตีหน้าผากตัวเองเมื่อหันไปเห็นเศษซากจากการปาร์ตี้เมื่อคืน หวังว่าทีคงไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อของเธอหรอกนะ ไหนจะเรื่องที่เธอไม่ตื่นไปทำงานให้เขาอีก ตาย ตายแน่ๆถ้าพ่อเขารู้เรื่องนี้
เมื่อคิดได้อย่างนั้นกุญแจซอลเลยพยายามคิดแผนเอาใจชายหนุ่ม
“ทำอะไรดีนะ”
กุญแจซอลยืนหันซ้ายหันขวาอยู่ในครัวครู่หนึ่งก่อนจะหยิบอุปกรณ์ทำแซนวิชออกมาตั้งบนเคาน์เตอร์ หญิงสาวตักทูน่าสีชมพูสวยออกจากกระป๋องใส่ชามตามด้วยมายองเนส น้ำตาลทราย พริกไทยดำเล็กน้อย ตบท้ายด้วยเกลือป่นจากนั้นจึงขนทั้งหมดเข้าด้วยกันจนเนื้อทูน่าเนียนได้ที่
เมื่อเตรียมไส้เสร็จ เธอจึงหันไปจัดเตรียมขนมปังโดยการวางผักใบเขียวและมะเขือเทศลงบนขนมปังก่อนจะจัดการใส่ทูน่าที่ผสมแล้วเข้าไปโปะด้วยขนมปังอีกแผ่นขนาดเท่ากัน
“อร่อยจริงๆ ฝีมือใครเนี่ย”
หลังจากชื่นชมฝีมือตัวเองพอเป็นพิธี กุญแจซอลจึงทำเพิ่มอีกพร้อมตัดแบ่งเป็นชิ้นพอดีคำจัดลงในจานลายสนูปปี้แสนน่ารักของเธอ
“โอมจงหลง จงเชื่อ จงเอ็นดูหนูซอล เพี้ยง!”
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องพึ่งไสยศาสตร์สักหน่อย อย่างน้อยให้เรื่องวันนี้ผ่านไปได้ด้วยดีก่อนก็ยังดี
“คุณทีขา ทำอะไรหรอ”
ทีอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเล็กน่ารักดังมาแต่ไกลก่อนจะรีบหุบยิ้มเมื่อเจ้าตัวมานั่งลงตรงข้ามเขาพร้อมแซนวิชจานโต
“หนูซอลทำแซนวิชมาให้ค่ะ”
กุญแจซอลเลื่อนจานแซนวิชไปตรงหน้าทีพลางส่งยิ้มกว้างให้เขา ทีไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่พยักหน้าแล้วหันไปสนใจงานต่อ
“เอ่อ ว่าแต่คุณทีนัดให้หนูซอลไปหาทำไมอะ”
“จะชี้แจ้งงาน”
“หรอคะ ถ้าอย่างนั้นชี้แจ้งมาได้เลย หนูซอลพร้อม”
น้ำเสียงมุ่งมั่นนั้นทำให้ทีต้องเงยหน้าขึ้นมอง ทีกลั้นขำแทบไม่ทันเพราะท่าทางเธออย่างกับจะออกไปรบยังไงอย่างนั้นแหละ
“เธอแค่คอยติดตาม เรียนรู้งานจากฉันรวมถึงดูแลในเรื่องต่างๆเกี่ยวกับฉัน”
“นี่มันทาสชัด” กุญแจซอลพึมพำกับตัวเอง
“บ่นอะไร”
“ป่าวค่ะ งานน่าสนุกมากเลย”
กุญแจซอลตอบพยายามฉีกยิ้มให้ดูจริงใจที่สุด
“คุณทีกินแซนวิชสิคะ หนูซอลตั้งใจทำมาให้เลยนะคะ”
ตาคมหรี่มองเธออย่างจับผิด แต่เมื่อเห็นเธอยิ้มตาหยี่ รอยยิ้มสดใสนั่นก็ทำเอาเขาเคลิ้มเผลอหยิบแซนวิชเข้าปากโดยไม่รู้ตัว
‘ให้ตายเถอะ แพ้รอยยิ้มเด็กจนได้’
———————-