ความจริงเธอถามคู่ควงหลายคนที่ผ่านมาของเธอแทบจะทุกคน แต่เฮ็นริคเป็นผู้ชายคนแรกที่เธอสนใจอยากฟังคำตอบของเขาเป็นพิเศษ
“และผมอยากจะบอกว่า คุณเป็นหญิงไทยคนแรกที่ผมอยากรู้จักมากกว่านี้ จะให้เกียรติผมพาคุณออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอกไหมครับ เพราะผมรู้ว่าบรรยากาศในนี้ไม่เหมาะกับผู้หญิงสวยๆ น่าทะนุถนอมอย่างคุณเลย เราออกไปดื่มต่อที่บรรยากาศหรูๆ ที่มีเพียงแค่เราสองคนดีกว่านะครับ”
เฮ็นริครุกไวเสมอเมื่อมีโอกาส ผู้หญิงที่มานั่งดื่มคนเดียวในสถานที่แบบนี้ มีเหตุผลสำคัญไม่กี่ข้อ ประเด็นหลักๆ ที่ฮิตมากก็คือโดนหักอกมา ดังนั้นอารมณ์ของพวกหล่อนจะอ่อนไหวมากในช่วงเวลาแบบนี้
แต่สำหรับผู้หญิงตรงหน้าเขาเดาใจเธอไม่ออกเลย หญิงสาวมีผิวพรรณเปล่งปลั่ง ชุดที่สวมใส่ก็ดูมีราคา น้ำหอมที่เธอใช้รู้เลยว่าคงแพง ใบหน้าสวยใสดูไม่แคร์สื่อ ออกจะหยิ่งยโสมั่นใจในสเน่ห์ของตนเองเต็มที่ราวกับคุณหนูผู้เอาแต่ใจ เธออาจจะมาจากครอบครัวที่ฐานะดี แล้วทำไมถึงต้องมานั่งดื่มคนเดียว เธออกหักมาอย่างนั้นหรือ สวยๆ แบบนี้น่าจะหักอกผู้ชายเสียมากกว่า
คนถูกชวนยังไม่ตอบคำถามเสียทีเดียว เธอยิ้มหวานให้เขาขณะที่สบตาชายหนุ่มนิ่ง สมองก็พยายามครุ่นคิดถึงแผนการที่จะล่อลวงเฮ็นริคให้ติดกับดักที่เธอวางเอาไว้ สงสัยคงต้องขุดหลุมพรางลึกๆ หน่อย แล้วค่อยๆ ตะล่อมเหยื่อให้เดินตกลงไปในหลุม เอาชนิดที่ว่าปีนออกมาจากหลุมไม่ได้เลยยิ่งดี
แต่ว่าจะด้วยวิธีไหนล่ะที่จะล่อลวงเจ้าพ่อคาสโนวาแห่งฮัมบูร์กไปเป็นสามีกำมะลอของเธอได้ เพราะเท่าที่ดูจากท่าทางของเขาแล้ว ชายหนุ่มคงอยากจะมอบความเป็นสามีจริงๆ ทางพฤตินัยให้กับเธอเสียมากกว่า
แต่หากภายในสามสี่วันนี้ถ้าเธอไม่มีวิธีใดที่จะทำให้ทาคุมิยกเลิกงานแต่งงาน เธอก็คงต้องกลายไปเป็นภรรยาของทาคุมิอยู่ดี เรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่มากๆ ในชีวิตของเธอ เพราะการจะเลือกผู้ชายสักคนมาเป็นสามี เธอควรได้เลือกด้วยตนเองเพราะเธอจะต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ อยู่กับเขาไปตลอดชีวิต เพราะฉะนั้นเธอควรจะเลือกแต่งงานกับคนที่เธอรักมากกว่าที่จะแต่งงานกับทาคุมิ ผู้ชายที่เธอไม่ได้นึกพิศวาสเขาเลยแม้แต่น้อย
มนต์นรีรู้ว่าบิดาของเธอพูดจริงทำจริง ยึดถือสัจจะยิ่งกว่าชีวิต ดังนั้นเธอจะไม่หวังให้บิดาใจอ่อน แต่จะหาหนทางที่จะทำให้ว่าที่ซีอีโอหนุ่มแดนปลาดิบนั้นล้มเลิกงานแต่งงานระหว่างเธอกับเขาให้ได้
และกับผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าตอนนี้เขาก็กำลังสนใจในตัวเธอ ผู้ชายคนเดียวที่อยู่ในใจของเธอมาโดยตลอด แค่ยืมตัวเขามาใช้สักพัก เพื่อให้เรื่องทุกอย่างเป็นไปตามที่เธอคาดหวังเอาไว้ แล้วค่อยขอโทษเขาทีหลังก็ได้
‘ข่าวหน้าหนึ่ง เธอแค่ต้องการตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์ชื่อดังและหนังสือบันเทิงทุกฉบับภายในวันพรุ่งนี้เท่านั้น กับผู้ชายคนนี้ คนที่เธอรู้จักดีว่าเขาเป็นใคร’
คืนนี้เฮ็นริคบอกเองว่าเขาต้องการให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา เธอเองก็ฝันถึงเขามานาน เธอควรจะใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ไม่ใช่หรือ ใช้เสน่ห์ของตนเองเพื่อให้รอดพ้นจากการ ‘คลุมถุงชน’ การเป็นผู้หญิงของลูกชายคนเล็กของฟาลิก รอยเออร์อภิมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ แห่งฮัมบูร์ก คงไม่ถึงกับทำให้บิดามารดาของเธอโกรธจนไม่สามารถให้อภัยเธอได้หรอก
ต่อให้วิธีการนี้ออกจะดูโง่เขลา เพราะไม่มั่นใจว่าเฮ็นริคจะยอมแต่งงานกับเธอหรือเปล่า แต่อย่างน้อยเธอต้องได้หมั้นหมายกับชายหนุ่ม ก่อนที่ทาคุมิจะพาพ่อกับแม่ของเขามาสู่ขอเธอในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
“ชัทซี่”
“...”
“มินนี่” เสียงเรียกชื่ออย่างสนิทสนมดังขึ้นอีกนิด เมื่อหญิงสาวยังคงก้มหน้ามองแผงอกแกร่งอย่างใจลอย
“คะ...คุณริค” ดวงตากลมโตที่กำลังเหม่อลอยช้อนมองด้วยแววตาตั้งคำถาม เพราะกำลังใจลอยคิดถึงวิธีการอันแยบยลต่างๆ นานา
“คุณยังไม่ได้ตอบตกลงผมเลยนะครับ ชัทซี่”
หญิงสาวคิดเร็วจี๋ ก่อนจะตอบว่า “เอ่อ ตกลงก็ได้ค่ะ แต่ว่าฉันขอตัวไปบอกเพื่อนรักของฉันแป๊บหนึ่งนะคะ เขาจะได้ไม่ต้องคอยกลับพร้อมกับฉัน”
เฮ็นริคยิ้มกว้างทันทีเมื่อหญิงสาวตอบตกลง “โอเคครับ แต่อย่าให้ผมรอนานนะครับ”
“ค่ะ”
ร่างนุ่มผละออก แล้วเดินเบียดเสียดหายลับไปจากสายตาของเฮ็นริค ก่อนจะเดินตรงไปยังมุมลับตาคน เพื่อเข้าไปหาดารยาเพื่อนรักที่อยู่หลังเคาน์เตอร์บาร์ เพื่อปรึกษาหารือกับเจ้าแม่จอมวางแผนประมาณห้านาทีจึงเดินกลับออกมา แต่เพราะปวดปัสสาวะจึงต้องเดินเข้าห้องน้ำไปก่อน
เฮ็นริคพยายามทำคอยาวมองหาร่างระหงในชุดสุดเซ็กซี่ที่เพิ่งผละจากไปด้วยใจที่ร้อนรุ่ม คาดหวัง และหัวใจเต้นแรง ราวกับจะได้ฟันสาวเป็นครั้งแรกอย่างนั้นแหละ ทั้งที่ความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นมานานมากแล้วจนเขาจำไม่ได้ว่ามันเคยเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอคล้อยหลังมนต์นรีไม่กี่นาทีความซวยก็มาเยือนเขาถึงที่โดยไม่คาดฝัน
“คุณริคขา เราบังเอิญเจอกันอีกแล้วนะคะ”