มนต์นรีพยักหน้าเชิงเข้าใจ ตอนนี้เธออายมาก รู้สึกหน้าร้อนไปหมด ไม่รู้ตัวเลยว่าเธอคล้อยตามเขาถึงขนาดยอมให้ผู้ชายคนนี้กอดจูบเธอโดยที่มีคนอื่นอยู่ด้วยได้ยังไงก็ไม่รู้ ลืมไปเลยว่ามีคนขับรถอยู่ข้างหน้า หญิงสาวกะพริบตาปริบๆ ความจริงเธอต้องรักษามารยาทของกุลสตรีไทยเอาไว้ ไม่ควรสมยอมเขาง่ายๆ แบบนี้ ควรจะเล่นตัวบ้างอะไรบ้าง ถึงแม้ว่าจะแอบชอบเขามานานแล้วก็ตาม
‘คงเพราะเธอเมา ใช่...เธอต้องโทษความเมา เพราะเธอไม่เคยโทษตัวเอง’ ร่างบางกลับมานั่งตัวตรงมีสติเกือบเต็มร้อยอีกครั้ง พยายามไม่หันไปมองคนข้างๆ อีก ตอนนี้เธอแค่พยายามทำตามแผนการที่วางเอาไว้เท่านั้น ทำให้เขาหลงเสน่ห์เธอ ไว้วางใจเธอ แล้วค่อยเผด็จศึกเมื่อถึงเวลา
แต่ทำไมหัวใจของเธอถึงได้เต้นแรงไม่ยอมหยุดแบบนี้ก็ไม่รู้ และยิ่งเต้นกระหน่ำแรงขึ้นเมื่อนึกถึงแผนการขั้นตอนสุดท้าย เธอจะทำสำเร็จหรือเปล่า
ก่อนที่รถจะออกตัวเฮ็นริคบอกคนขับรถว่าให้ไปคอนโดของเขา นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ นะเนี่ยที่เธอทำตัวเหมือนผู้หญิงใจง่าย แต่จะทำยังไงได้ในเมื่องานนี้เธอจำเป็นต้องเสี่ยง เพราะมั่นใจว่าโอกาสที่จะทำตามแผนได้สำเร็จมันมีสูงกว่าความล้มเหลว และนี่อาจจะเป็นโอกาสเดียวที่เธอจะไขว่คว้ามันไว้ได้
หากเธอจะต้องเข้าพิธีแต่งงานกับใครสักคน เธอขอเป็นคนเลือกเองดีกว่า และมนต์นรีก็มั่นใจว่าครั้งนี้เธอตัดสินใจไม่ผิดแน่นอน หากจะต้องพลาดท่าเสียทีให้กับเฮ็นริคที่เป็นเทพบุตรในฝันของเธอมานานหลายปีมันก็คงจะไม่เสียหายอะไร
‘อ๊าย...เพ้ออีกแล้ว เมื่อไหร่เธอจะหยุดเพ้อสักที’
สิบนาทีต่อมารถเก๋งราคาแพงมันปลาบก็มาจอดอยู่หน้าคอนโดที่หรูมากที่สุดแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพมหานคร ร่างหนาเปิดประตูลงไปจากรถเมื่อคนขับรถมาเปิดประตูให้ แล้วร่างสูงสง่าก็เดินอ้อมมาเปิดประตูรถอีกฝั่งให้คู่ควงคนล่าสุดของเขาอย่างเอาใจ
“ถึงคอนโดที่ผมพักแล้วครับ เชิญครับมายชัส” เขาเรียกเธอว่า ‘ที่รักของผม’ อีกแล้วสิ แต่พอฟังๆ ดูก็รื่นหูดีเหมือนกันนะ แม้ว่ามันออกจะขัดเขินเล็กน้อยที่ได้ยินเขาเรียกเธอด้วยคำหวานๆ เช่นนี้ก็ตาม แต่อีกหน่อยเธอคงจะชินไปเอง มนต์นรีคิดยิ้มๆ พลางส่งมือให้เขาจับก่อนจะส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่มด้วยแววตาหวานซึ้ง ร่างระหงซวนเซเล็กน้อย แต่วงแขนแข็งแรงก็คอยโอบประคองเธออยู่ไม่ห่าง
“คุณรู้ไหมว่ารอยยิ้มของคุณ ทำให้ใจผมแทบละลาย”
“คุณเองก็มีเสน่ห์ดึงดูดใจ จนฉันต้องตามติดมาถึงที่นี่” หญิงสาวตอบเสียงหวาน แอบเขินตนเองอยู่เหมือนกันเพราะไม่เคยปากหวานและให้ท่าใครขนาดนี้มาก่อน แต่หนนี้เธอจำเป็นจริงๆ เพื่อให้เหยื่อติดเบ็ดเธอต้องอ่อนหวานมารยาแบบนี้แหละ และเฮ็นริคก็คงกำลังคิดว่าเธอตามมาให้เขาฟันถึงที่แน่ๆ ดูจากสายตาแสนเจ้าชู้ของชายหนุ่มก็รู้
เฮ็นริคยิ้มมุมปาก พึงพอใจที่มนต์นรีดูไม่ไร้เดียงสาจนน่ารำคาญ เธอมีจริตมารยาแต่พองาม รูปร่างหรือก็น่าฟัดเอามากๆ หากให้เดาอายุคงจะห่างจากเขาเป็นสิบๆ ปี แต่เขาก็ยังไม่แก่นี่นะ สาวๆ หลายคนบอกว่าวัยของเขากำลังเหมาะที่จะเป็นสามีของพวกหล่อน ทว่าเขาไม่คิดที่จะจริงจังกับใครทั้งนั้น รวมทั้งผู้หญิงตรงหน้านี้ด้วย เขาก็แค่พอใจในรูปร่างหน้าตาของเธอ อีกไม่นานหลังจากที่เขาได้ฟันเธอสักสองสามครั้งเขาก็คงเบื่อมนต์นรีเหมือนกับที่เบื่อผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ผ่านมาของเขา
“ที่นี่ดูหรูโรแมนติกจังเลยค่ะ” เมื่อเดินขึ้นลิฟต์ผ่านห้องต่างๆ มาจนถึงเพนท์เฮ้าส์ที่นักธุรกิจหนุ่มพักอาศัยอยู่ มนต์นรีก็กวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยความชื่นชม
ภายในเพนท์เฮ้าส์ดูหรูหราน่าอยู่มากเลยทีเดียว สมแล้วที่เป็นที่พักของอภิมหาเศรษฐีแห่งฮัมบูร์ก เขาพาเธอมานั่งดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ที่หน้าต่างกระจกบานใหญ่ มองออกไปเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองกรุงฯ ยามค่ำคืนที่สวยงามมากๆ
“คุณชอบบรรยากาศที่นี่ไหม” ถามเสียงทุ้มพร้อมกับรินไวน์แดงใส่แก้วคริสตัลทรงสูงบริการแขกสาวก่อนจะบริการให้ตนเอง ขณะที่ดวงตาคมกริบจ้องมองใบหน้าสวยซึ้งไม่วางตา
“ชอบค่ะ ที่นี่น่าอยู่มาก”
“ถ้าอย่างนั้น ก็ค้างที่นี่สักคืนสิครับ” ดวงตาเจ้าเล่ห์ที่มองมาเปิดเผยความรู้สึกของชายหนุ่มอย่างชัดเจน ทำไมมนต์นรีจะมองไม่ออก เธอคบผู้ชายมาตั้งหลายคน จึงพอมองออกว่าเฮ็นริคกำลังคิดที่จะแอ้มเธอ เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนการที่วางเอาไว้ เขาคงจะไม่โกรธเธอ
“ไม่ดีมั้งคะ คือฉันแค่ตั้งใจมาดื่มกับคุณ ไม่ได้...ตั้งใจมาค้างกับคุณสักหน่อย” คนเจ้าเล่ห์ตอบเอียงอาย แต่ว่าเธอกำลังเขินอายและประหม่าจริงๆ นั่นแหละ ทุกอย่างจึงดูสมบทบาทไปเสียหมด
แม้จะมึนเมาเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์อยู่บ้าง แต่เธอก็ยังมีสติพอสมควร แล้วมีผู้หญิงคนไหนบ้างล่ะที่อยู่ใกล้ชิดผู้ชายคนนี้แล้วหัวใจจะไม่เต้นแรงแกว่งไกว เขามีองค์ประกอบครบทุกอย่างที่ผู้หญิงครึ่งค่อนโลกปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา ฐานะชื่อเสียง แต่ถ้าถามใจเธอจริงๆ เธอชอบที่ผู้ชายคนนี้ที่ไม่เหมือนใครมากกว่า เขาดูเป็นผู้นำ มีเสน่ห์ มีแรงดึงดูดทรงพลังที่ทำให้เธออยากเข้าใกล้ชิดเขาแม้จะรู้ว่ามันอันตรายมากก็ตาม
“แต่ผมต้องการให้คุณค้างที่นี่ คืนนี้”
ฟังดูเหมือนเขากำลังออกคำสั่ง ทำให้หัวใจเจ้ากรรมเต้นแรงมากขึ้น และมากขึ้นเมื่อร่างหนาลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วเดินเข้ามาโอบตัวเธอกับโต๊ะทางด้านหลัง ลมหายใจอุ่นๆ รินรดต้นคอส่งผลให้ผิวกายของหญิงสาวรู้สึกวาบหวิวซ่านสยิวจนขนอ่อนบริเวณต้นคอลุกชัน เส้นชีพจรเต้นตุบๆ ชวนให้ชายหนุ่มอยากจะแนบริมฝีปากลงมาขบเม้ม แล้วเขาก็ไม่อยากแค่คิด เมื่อร่างกายมันสั่งให้ทำ ริมฝีปากร้อนๆ จึงได้แนบลงมาจุมพิตเบาๆ ที่ต้นคอขาวผ่อง ขบเม้มหยอกเย้าบริเวณติ่งหู ก่อนจะประคองดวงหน้าสวยซึ้งให้หันมารับจุมพิตแสนหวานจากเขาอีกครั้ง