บทที่ 1

1245 คำ
หญิงสาวเรือนร่างบอบบางอรชรอ้อนแอ้นก้าวเดินอย่างกระฉับกระเฉงบนรองเท้าส้นสูงขนาดสองนิ้ว สะโพกกลมกลึงส่ายอย่างยั่วยวนเป็นจังหวะตามเท้าเล็กๆ ที่ก้าวเดิน ใบหน้างามอ่อนหวานเชิดขึ้นเล็กน้อยด้วยความมั่นใจ เส้นผมยาวดำขลับถึงกลางหลังถูกมัดรวบตึงไว้ด้วยริบบิ้นสีดำสนิท ริมฝีปากอวบอิ่มสีกุหลาบตามธรรมชาติแย้มยิ้มน้อยๆ ให้เพื่อนร่วมงานที่เดินสวนกันมา บรรดาหนุ่มๆ ออฟฟิศทั้งที่กำลังเดินผ่านและที่นั่งทำงานอยู่บนโต๊ะแทบจะหลอมละลายไปกับรอยยิ้มหวานพิมพ์ใจที่คลี่ยิ้มบางๆ เปิดให้ใบหน้ารูปไข่ดูสว่างสดใสชวนพิศใคร่หลงใหลยิ่งนัก แต่พวกเขาก็ทำได้แค่เฝ้ามองเท่านั้นเพราะหญิงสาวไม่ยอมให้ความสนิทสนมกับชายใดเกินคำว่าเพื่อนร่วมงาน          ปิณฑิราลอบเป่าลมออกจากปากอย่างโล่งอกเมื่อเดินผ่านดงเสือหิวมาได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ถูกผิวปากหรือเอ่ยแซวเหมือนดังแต่ก่อน หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองป้ายไม้สักที่แกะสลักอย่างงดงามว่าท่านประธานก่อนจะยกมือเคาะประตูเบาๆ 2-3 ครั้งให้คนที่อยู่ข้างในรับทราบการมาถึงของเธอ          “เชิญครับ” เสียงอนุญาตห้าวทุ้มอย่างผู้ใหญ่ใจดีที่ดังออกมากระทบประสาทหูทำให้หญิงสาวเปิดประตูออกกว้างแล้วก้าวเดินอย่างแผ่วเบาไปหยุดยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานใหญ่เพื่อรอรับคำสั่งจากเจ้านาย          “นั่งลงก่อนสิพริ้นซ์”          “ขอบคุณค่ะ” กรกฏท่านประธานใหญ่ของบริษัทจัดทำสื่อโฆษณาชื่อดังมองลูกน้องสาวลอดผ่านแว่นตาหนาครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยถามสารทุกข์สุกดิบของหญิงสาว “ไปดูงานที่อเมริกาเป็นไงบ้าง” ปิณฑิรายิ้มกว้างให้เจ้านาย รู้ว่าที่อีกฝ่ายเอ่ยถามไม่ใช่เป็นห่วงแค่เรื่องงานที่สั่งให้ไปทำ แต่กรกฏรวมถึงความเป็นอยู่การเดินทางขณะที่อาศัยอยู่ที่อเมริกาด้วย กรกฏเป็นเจ้านายที่ดี เขาให้ความรักเอ็นดูลูกน้องในบริษัทราวกับว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน “ดีมากๆ ค่ะ วิวัฒนาการของประเทศเขาเจริญล้ำก้าวหน้ากว่าเรามาก พริ้นซ์ทำรายงานสรุปให้เจ้านายดูแล้วไม่ทราบว่าเจ้านายได้รับหรือยังคะ” “อืม...ผมเห็นวางอยู่บนโต๊ะแล้วแต่ยังไม่มีเวลาหยิบมาอ่านสักที มัวแต่วุ่นๆ กับงานชิ้นใหญ่ ชิ้นสำคัญ” กรกฏเอ่ยตอบพร้อมกับหยิบแฟ้มเอกสารปึกใหญ่ที่วางอยู่ใกล้ๆ มือยื่นให้ลูกน้องสาว “งานชิ้นใหม่หรือคะท่าน” หญิงสาวรับแฟ้มเอกสารแล้วเปิดดูผ่านๆ ก่อนจะปิดไว้เหมือนเดิม เพราะถ้าจะให้อ่านรายละเอียดเจาะลึกตอนนี้ก็คงจะไม่ได้ คงต้องเอาไปศึกษาหาข้อมูลที่โต๊ะทำงานของเธออีกที “ใช่ เป็นงานชิ้นเอกและสำคัญมากถ้าหากเราทำโฆษณาชิ้นนี้ออกมาดี ผมรับรองว่าสิ้นปีนี้พนักงานทุกคนได้โบนัสก้อนโตแน่” ท่านประธานใหญ่เอ่ยบอกยิ้มๆ            “ขนาดนั้นเลยหรือคะท่าน” ปิณฑิราเลิกคิ้วเอ่ยถามราวกับไม่เชื่อสักเท่าไหร่ เธอหยิบแฟ้มเอกสารมาเปิดดูรายละเอียดงานอีกครั้งก่อนจะเอ่ยถาม “เขาจะให้เราทำโฆษณาอะไรให้คะ” “โฆษณาประเทศ” กรกฎเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความภาคภูมิใจที่บริษัทของตนเองได้รับความไว้วางใจจากท่านชีคประมุขหนุ่มของประเทศอัสดารานส์ ประเทศที่ร่ำรวยด้วยน้ำมันที่มีค่ายิ่งกว่าอัญมณีชิ้นใดในโลก ให้ทำสื่อโฆษณาประเทศให้ คิ้วดำเข้มโก่งงามดุจคันศรขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ใบหน้างามหวานจ้องมองเจ้านายพร้อมกับเอ่ยถามให้หายข้อสงสัย “เขาเพิ่งเปิดประเทศหรือคะถึงได้ให้เราทำโฆษณาให้” “ก็ไม่เชิงเปิดประเทศเสียทีเดียว เพราะประเทศนี้เขาขึ้นชื่อว่ามีเพชรและทับทิมน้ำงามที่สุดในโลก ถ้าหากต้องการเพชรหรือทับทิบเม็ดเป้งๆ สักเม็ดก็ต้องเดินทางไปที่ประเทศนี้เท่านั้น นอกจากนั้นยังมีสายแร่น้ำมันเกือบทั่วบริเวณของประเทศเรียกว่าขุดมาขายทั้งชาตินี้ก็ไม่มีหมด” กรกฏเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความนิยมชมชอบประเทศที่อยู่แถบทะเลทรายก่อนจะเอ่ยบอกข้อมูลต่อ “ท่านชีคริยาชิดห์ ซัลฮาบินด์ อัลวาสต์ ได้สละราชบัลลังก์และสถาปนาให้องค์รัชทายาทขึ้นครองบัลลังก์แทน ท่านชีคริยาชิดห์ต้องการจัดพิธีเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่และต้องการประชาสัมพันธ์ให้ทั่วโลกได้รู้จักกับประเทศอัสดารานส์มากยิ่งขึ้น จึงต้องการให้เราทำโฆษณาให้” ปิณฑิรามัวแต่เปิดเอกสารพลิกไปพลิกมาจึงไม่ได้ฟังชื่อประเทศที่ร่ำรวยด้วยน้ำมันและอัญมณีล้ำค่าที่เจ้านายได้พูดถึง เมื่อเสียงของเจ้านายหยุดไปเธอก็เงยหน้าขึ้นยิ้มบางๆ พร้อมกับเอ่ยถามด้วยความสงสัยอีกเล็กน้อย “เจ้านายรับงานนานแล้วหรือคะ พริ้นซ์ไม่เห็นทราบเลยค่ะ” “ก็ตอนไปเสนองานให้ท่านชีค คุณไปดูงานที่อเมริกาพอดี” กรกฎเอ่ยตอบยิ้มๆ ด้วยน้ำเสียงอบอุ่น จากนั้นก็หยิบแฟ้มเอกสารอีกแฟ้มหนึ่งให้ผู้ช่วยคนเก่งแสนงาม “แฟ้มนี้เป็นสัญญาที่คุณต้องเอาไปให้ท่านชีคเซ็น ถ้าหากทางฝ่ายโน้นเซ็นสัญญาเรียบร้อยเราก็พร้อมที่จะทำงานได้ทันที” “งานนี้เป็นงานช้างของบริษัทเลยใช่มั้ยคะท่าน” หญิงสาวเอ่ยถามยิ้มๆ รับแฟ้มเอกสารมาถือไว้ในอ้อมแขนทั้งสองแฟ้ม กรกฏยิ้มกว้างให้ลูกน้องสาวที่ทำงานได้ดีเยี่ยมไม่เคยมีขาดตกบกพร่องจากนั้นก็เอ่ยตอบกลั้วหัวเราะอย่างคนอารมณ์ดี “ยิ่งกว่างานช้างอีกน่ะพริ้นซ์ ถ้าเราทำสำเร็จบริษัทเราก็จะได้รับความไว้วางใจจากท่านชีคและท่านองค์รัชทายาทจากนั้นเราจะได้งานโฆษณาทุกชิ้นที่จะเกิดขึ้นในประเทศของท่านชีค” “แหม...ท่าทางเจ้านายดีใจมากๆ เลยนะคะ” หญิงสาวเอ่ยแซวยิ้มๆ เพราะทำงานคลุกคลีกับเจ้านายใหญ่ที่ใจดีอย่างกรกฏมานานเกือบเจ็บปีทำให้เธอสนิทสนมกับท่านอยู่มากจนกล้าเอ่ยแซวได้ในบางครั้ง “คุณรู้มั้ยพริ้นซ์ ตอนที่ไปเสนองานมีบริษัทโฆษณานับรวมๆ แล้วเกือบร้อยบริษัทที่ไปเสนอผลงานให้ท่านชีคพิจารณาเลือก แต่ละบริษัทมีเงินทุนค่อนข้างหนา มีชื่อเสียงกว่าบริษัทของเราอยู่มาก บอกตามตรงน่ะพริ้นซ์ตอนแรกผมไม่นึกว่าท่านชีคจะหยิบผลงานของเราไปดูด้วยซ้ำ แต่พอเลขาท่านชีคบอกว่าท่านเลือกบริษัทเรา ผมแทบช็อกคาห้องประชุมที่ไปเสนอผลงาน” กรกฏเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นขณะที่นึกถึงตอนที่ไปเสนองานให้ท่านชีคฟาซิซต์ ซัลฮาบินด์ อัลวาสต์ ที่โรงแรมหรูหราใจกลางเมืองกรุงเมื่อช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเดินทางไปที่โรงแรมเขานึกวาดภาพของท่านชีคฟาซิซต์ ซัลฮาบินด์ อัลวาสต์ ไว้ว่าต้องเป็นชีคแก่วัยห้าสิปปีขึ้นไป หนวดเคราเขียวครึ้มขึ้นเต็มใบหน้าและสันคาง สวมชุดประจำชาติ แต่สิ่งที่เขาวาดภาพไว้กลับผิดเพี้ยนไปหมด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม