อบอุ่นหรือร้อนแรง

846 คำ
ส่วนด้านล่างสุดที่วางบนพื้นกล่องเป็นเสื้อกาวน์สีขาวสะอาดตาที่เขาคลุมมันมาบนตัวเธอในวันนั้น เธอบรรจงพับเอาไว้แถมยังใส่ถุงอีกหนึ่งชั้นเพราะกลัวทำมันเปื้อน มือเรียวไล้ไปบนลายปักเป็นชื่อเจ้าของเสื้ออย่างแผ่วเบาทะนุถนอม นพ.ดุจตะวัน ภควัตโชติกุล ด้านบนของจดหมายเหล่านั้น เป็นภาพวาดด้วยดินสอบนกระดาษร้อยปอนด์ขนาดเอสี่ที่เธอเป็นคนวาดมันเอง มันคือภาพชายคนหนึ่งในชุดกาวน์ ใบหน้าของเขามีแมสก์ปกปิด มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่โผล่พ้น ดวงตาที่ฉายแววอบอุ่นอ่อนโยนดังชื่อผู้เป็นเจ้าของ ดุจตะวัน... แต่เด็กสาวคงจะลืมที่เล่าเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ไปเสียสนิทว่า ดวงตะวันนั้นไม่ใช่แค่ให้ความอบอุ่น แต่มันร้อนแรงถึงขั้นแผดเผาทำลายสิ่งต่าง ๆ ที่เข้าไปใกล้ให้เป็นจุณได้ในพริบตา แล้วคุณหมอดุจตะวันของเธอเล่า จะเป็นอย่างแรกหรืออย่างหลัง... *** รุ่งเช้าหลังมื้ออาหาร เด็กสาวเดินเล่นไปรอบ ๆ บริเวณบ้านก่อนจะพบคุณแม่บ้านเข้าที่มุมหนึ่งของสวน “ อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณแก้วกานดา ” “ อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณแม่บ้าน ” “ เมื่อคืนหลับสบายดีไหมคะ ” เด็กสาวชะงักนิดหน่อยเมื่อถูกถามด้วยคำถามนี้ สายตาเจ้าระเบียบที่จ้องมองมานั้นทำให้เธอรู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ ราวกับคุณแม่บ้านกำลังถามว่า เมื่อคืนคุณได้ลุกจากเตียงเพ่นพ่านไปทั่วหรือเปล่า แต่สุดท้ายก็พยายามฉีกยิ้มแล้วตอบกลับไป “ สบายมากเลยค่ะ ” “ ถ้าเช่นนั้นก็เดินเล่นตามสบายนะคะ ฉันขอตัวก่อน ” “ เอ่อ เดี๋ยวค่ะ หนูขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ ” “ เชิญค่ะ ” “ บ้านหลังใหญ่ อยู่กันกี่คนเหรอคะ ” คุณแม่บ้านนิ่งไปชั่วขณะก่อนย้อนถาม “ ทำไมเหรอคะ ” “ คือ... หนูก็แค่อยากรู้น่ะค่ะ ไหน ๆ ก็ต้องเข้ามาอาศัยบารมีของท่านแล้ว จะได้ทราบว่าใครเป็นใคร ” “ บ้านหลังนี้เป็นของคุณหมอซันคนเดียว ” “ คุณหมอซัน ? หมายถึงคุณหมอดุจตะวันใช่ไหมคะ ” “ ค่ะ แต่ชื่อนั้นสำหรับคนสนิทเท่านั้น ” เป็นนัยบอกว่า คนนอกอย่างเธอก็คงไม่ควรใช้สรรพนามนั้นเรียก “ คุณหมอท่าน เอ่อ ไม่มีพี่น้องหรือครอบครัวเลยเหรอคะ ” อาจจะดูเป็นคำถามละลาบละล้วงไปสักนิด แต่แก้วกานดาก็คิดว่ามันเป็นสิ่งที่เธอควรจะรู้เบื้องต้น เพราะเธอมาอาศัยเขาอยู่ ใช้เงินของเขาเรียน กินอาหารของเขา นอนบนที่นอนบ้านเขา คุณแม่บ้านเงียบ นั่นทำให้เด็กสาวรู้แล้วว่าคงเป็นสิ่งที่ไม่ควรถาม “ หนูขอโทษค่ะที่ละลาบละล้วง ” “ คุณพ่อคุณแม่ของคุณซันเสียไปหมดแล้ว ท่านมีน้องชายต่างพ่ออีกคนชื่อคุณหมอธารเมฆา เป็นทันตแพทย์ แต่ท่านไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้หรอกค่ะ แต่ก็แวะเวียนมาบ่อย ๆ ” นั่นอย่างไรเล่า ! เธอคิดไว้แล้วว่าคุณหมอดุจตะวันไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นได้หรอก ประกอบกิจกรรมเรื่องเพศโจ่งแจ้งเย้ยฟ้าท้าดาว แต่ว่าจะเป็นน้องชายของคุณหมองั้นเหรอ เห็นว่าก็เป็นหมอเหมือนกันนี่นา จะทำแบบนั้นหรือ เด็กสาวยังคงสงสัยอยู่เช่นนั้น คำจำกัดความของคำว่า หมอ ของเธอนั้นหมายความถึงผู้ฉลาดล้ำ ต้องมีภาพลักษณ์น่านับถือกว่าบุคคลอื่น ๆ ไม่มีทางจะทำอะไรนอกลู่นอกทางได้แน่นอน เด็กน้อยเอ๋ย ลืมไปแล้วหรือว่าคุณหมอก็คือมนุษย์ปุถุชนทั่วไป มีเลือดเนื้อ มีความรู้สึก มีหัวใจ ใช่ว่าถูกคนจะถอดออกมาจากพิมพ์เดียวกันเสียเมื่อไหร่ ขณะกำลังเดินเล่นพลางครุ่นคิดไปด้วยอยู่นั้น พลันครูรุ่งรัตน์ก็วิ่งกระหืดกระหอบมาหา เมื่อเห็นครูหน้าตาตื่นแก้วกานดาก็เอ่ยถามอย่างห่วงใย “ ครูคะ มีอะไรหรือเปล่า ” “ น้องเรนน่ะสิ ตกบันไดหัวแตก นี่ครูวินัยโทรมาบอก กำลังพาไปโรงพยาบาล ” ครูรุ่งรัตน์หมายถึงลูกชายวัยกำลังซนสามขวบและครูวินัยนั่นก็คือสามีที่สอนอยู่โรงเรียนเดียวกัน “ ร้องไห้จนหน้าเขียวไปหมด แล้วน้องก็เป็นโรคเกร็ดเลือดแข็งตัวช้าด้วย ครูกังวลจังเลยแก้ว ” ครูสาวบอกด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ ถ้างั้นครูกลับไปก่อนก็ได้ค่ะ ไม่ต้องห่วงหนู หนูอยู่ที่นี่ได้ ” เด็กสาวตัดสินใจเด็ดเดี่ยวแม้จะกลัวอยู่บ้างก็ตามที “ จะดีเหรอแก้ว แก้วยิ่งไม่เคยไปไหนมาไหน มาอยู่แปลกที่ครูเองก็เป็นห่วง ไหนจะยายอีก ” “ ไม่เป็นไรหรอกค่ะครู หนูโตแล้วนะคะ กับแค่การย้ายที่อยู่แค่นี้ไม่เป็นไรเสียหน่อย ครูกลับไปดูน้องเรนเถอะค่ะ ป่านนี้คงร้องหาแม่แย่แล้ว ” “ งั้นครูคงขับรถกลับเลยนะแก้ว ใจคอครูไม่ดีเลย ” ครูสาวพูดพลางน้ำตาคลอเบ้า “ ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวหนูช่วยเก็บของ ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม