บทที่ 6 ตอนที่ 4

1727 คำ
       "คุณหมอ...ปล่อยนะ แฟนคุณนั่งอยู่ตรงนี้เอง อื้อ..." อัญญดาที่หันหน้ามาด้านนอกและประตูห้องเก็บของก็อยู่ตรงหัวมุมพอดี เธอจึงมองเห็นผู้หญิงคนนั้นนั่งไขว่ห้างจิ้มมือถืออยู่อย่างชัดเจนจากช่องระบายอากาศ            "อย่าส่งเสียงสิ...เดี๋ยวเขาก็รู้หรอกว่าเราทำอะไรกัน"            "คุณหมอจะทำอะไร อย่า...อย่าเล่นบ้าๆ นะคะนี่ห้องเก็บของ ข้างนอกก็คนเต็มไปหมด" ในตอนแรกก็คิดแค่ว่าเขาหมั่นไส้เธอจึงอยากลงโทษเล็กๆ น้อยๆ ที่ไหนได้เมื่อหันกลับมามองหน้าของอัศม์เดชกลับพบว่าดวงตาของเขาหวานเยิ้มหายใจหอบระริน และเฝ้าแต่เล้าเลียดวงหน้าเธอไม่ยอมผละห่าง            "ทำไมล่ะ...พี่จะทำแบบนี้ต่อหน้าเขาเสียเลย น้ำมนต์จะได้รู้ว่าพี่ไม่ได้สนใจผู้หญิงคนนั้นจริงๆ"            "คุณหมอ...บ้า! อือ..." เสียงเล็กเล็ดลอดออกมาได้เพียงเล็กน้อย ก็ถูกกดประกบทาบสนิทเนื้อเสียอีกครั้ง ร่างใหญ่เบียดชิดกายสาวที่สั่นสะท้าน รอบๆ มืดสลัวมีเพียงแสงไฟจากด้านนอกซึ่งลอดผ่านเข้ามาเล็กน้อยให้พอได้เห็นรำไรเท่านั้น แต่ก็ยังดูออกว่าสถานที่แห่งนี้คือห้องเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด หากแม่บ้านเกิดต้องใช้สอยของในห้องนี้ล่ะ! ความซวยอันน่าอับอายก็คงบังเกิด            "เสียงอะไรเนี่ย ก๊อกๆ แก๊กๆ หนูติดอยู่ในห้องนั่นหรือไง หลอนจริงเลย..." ผึ้งบ่นอุบหงุดหงิดกับเสียงกวนใจเมื่อเธอเปิดคลิปจากมือถือดูไปพลางขณะนั่งพักให้คลายความเมามาย และเพื่อรอดักพบอัศม์เดชที่เธอมั่นใจว่าเขาคงยังอยู่แถวๆ นี้เป็นแน่ เจอก็ถือว่าฟรุ๊ค...จะไม่ยอมปล่อยตัวไปอีกเด็ดขาด แต่หากไม่ได้พบก็ถือว่าเสมอตัว            "คุณ...หมอ..." อัญญดาเริ่มครางเพรียกพร่ำชื่อชายที่กำลังคุกคามเธออย่างเผลอไผล ท่อนขาใหญ่ข้างหนึ่งเบียดแทรกร่องขาให้แยกห่าง กระทุ้งลึกเสียดสีใต้กระโปรงผ่านชั้นในผ้าเนื้อนิ่ม เพียงแรกสัมผัสตรงจุดใจกลาง...ร่างกายมันก็อ่อนระทวยตอบสนองอย่างน่าบัดสี            ความคุ้นเคยกล่อมเกลาให้เธอไวนักเมื่อถูกเขาแตะต้อง และอัศม์เดชเองก็เชี่ยวชาญพอจะประโลมให้เธอเคลิ้มไปกับความเร่าร้อนของเขาชนิดลีลาไม่ซ้ำบท หญิงสาวจึงจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน...ตัวนวลคล้อยตามอย่างว่าง่าย...            "น้ำมนต์จ๋า...ตื่นเต้นเป็นบ้า อืม...ไม่คิดว่าพี่จะโชคดีแบบนี้" บทรักกับสถานที่เพิ่มความเร้าใจในกระแสเลือดหนุ่มได้ท่วมท้น สรรพเสียงภายนอกชวนให้ใจลุ้นระทึกอยู่ตลอดเวลาว่าจะถูกใครมาพบเห็นเข้าในยามนี้เหรอเปล่า            "อา...คุณหมอคะ..." จากเสียงร้องห้ามกลายมาเป็นเสียงเรียกสั่นพร่าครางหวิว เมื่อมือใหญ่คลำเลื้อยไปบนเนินเนื้อปทุมถันอวบอัด หัวแม่มือร้ายนะกิดกดตรงยอดถันอย่างรู้งาน ร่างเล็กแอ่นหยัดลืมตัว ปลาบเสียวกระสันจนเกือบลืมหายใจ            เอนหลังพิงผนังเฉกเช่นคนไม่หลงเหลือเรี่ยวแรง กระโปรงสั้นเหนือเข่าปล่อยชายระบายพริ้มถูกถลกถกขึ้นมาถึงสะเอวคอด เผยเนินสวาทที่มีอาภรณ์ตัวน้อยโอบอุ้มเอาไว้ อัศฒ์เดชดันเข่าเข้าหาแล้วถูกเสียดสีจนเธอครางเสียงสั่น กระนั้นก็ยังต้องสะกดกลั้นไว้สุดใจ            "เราต้องรีบ..." เขากล่าว ลมหายใจอุ่นร้อนพอๆ กับความเร่าระอุในตัว ริมฝีปากหยักหนาบดจูบดูดดื่มนัวเนีย แย้มลิ้นร้ายแทรกซ้อนสู่โพรงปากหอมหวน ตวัดกวาดควานแลกความชื้นกันอย่างถึงพริกถึงขิง อัญญดาเองก็เรียนรู้บทสวาทมาจากเขาไม่น้อย เธอคล้อยเคลิ้มตามแรงนำพาของเขาอย่างหลงลืมทุกอย่างหมดสิ้น            อกอวบคัดตึงตอบสนองสัมผัสเร้า ยอดถันเครียดเกร็งสู้มือที่ขยำเคล้นย่ามใจ ดวงตาฉ่ำปรือกะพริบเรียกร้องโหยหาโดยที่เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจ            เสน่หาทั้งในอารมณ์และความรู้สึก เร่าร้อนรุนแรงไม่อาจมีอำนาจใดมาเสมอเหมือน ทะลายสิ้นทุกกฎเกณฑ์ บดบังทุกความดีงามให้สาบสูญไปจากจิตสำนึกจนถึงแก่น หัวใจร่ำร้องแต่จะไขว่คว้าให้สมในปรารถนา ต่อให้ผิดอย่างไร...ก็ไม่อาจหักห้ามหัวใจได้เลย...            "อื้อ..."            "อา...เด็กดีของพี่ ไม่ต้องตกใจเราแค่ต้องทำเวลาหน่อยเท่านั้น เสร็จจากนี่...พี่จะพากลับไปต่อให้หนำใจเลยคอยดู อืม" เขากล่าวพลางสูดปากกระหึ่มราวกำลังกัดกินความเผ็ดร้อนเข้าสู่กระแสโลหิต ผละจากการจูบจุมพิตอันดูดดื่มจนยากถอนใจ ก็เลียไล้เรื่อยมาตามร่องคอระเหิดระหง ลากลิ้นชื้นมาถึงทรวงเต้าอวบอิ่มที่คลายไม้ดอกกำลังผลิบานรอสัมผัสจากหมู่ภมรอยู่แล้ว เขาไม่รอช้าที่จะปลดกระดุมชุดเดรสสีหวานสองสามเม็ดและร่นบราขึ้นไปเหนือทรวงอวบ            ยอดถันสีสดเต่งตึงเย้ายวน ถูกรวบตวัดเข้าปากแล้วดูดกลืนอย่างตะกละตะกลาม ร่างเล็กสะดุ้งสั่นเทิ้ม แอ่นหยัดบางครั้งและถอยประชิดผนังในบางคราว มือเล็กกอดรัดจิกข่วนเขาตามอารมณ์ที่ถูกกล่อมเกลาให้เตลิดฟุ้งซ่านด้วยความกระสัน            ร่างใหญ่ผละถอยออกมากะทันหันเวลาเพียงเสี้ยววินาที ปลดเข็มขัดและตะขอกางเกงพร้อมรูดซิปหมดตลอดแนว เผยตัวตนภายใต้ชั้นในที่ดุนดันเจ็บปวดทรมานรอการปลดปล่อย            อัญญดากะพริบตามองการกระทำนั้นด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำ ได้สติอีกทีก็พบว่าสองเท้าถูกยกขึ้นเหนือพื้นและเขาก็ดันตัวเข้ามาประชิดระหว่างกลางอีกครั้ง เธอพิงผนังเต็มหลังแยะยกมือโอบคอเขาไว้โดยอัตโนมัติเพื่อพยุงตัว มือข้างหนึ่งของเขาจับประคองเธอเอาไว้ในขณะที่อีกข้าง...กำลังแหวกชั้นในเพื่อจะเบียดแทรกตัวตนเข้าหา            "อื้อ!!!" ใบหน้าหวานแหงนสะดุ้งบิดเบี้ยวเหยเกเพียงสัมผัสแรกที่ได้สัมผัส อัศม์เดชบังคับลำเนื้อแข็งดุจเหล็กหลอมถูไปตามร่องชื้นแม้จะรีบร้อนแต่เขาก็ยังอาทรต่อความพร้อมให้กับเธอ            ส่วนบนสองเต้ายังเปิดอ้าเด้งกระเพิ่มตามแรงหายใจ ส่วนล่างเปิดเผยเพียงเสี้ยวที่โผล่พ้นครึ่งหนึ่งของขอบชั้นใน ลำสวาทเสียดสีให้คุ้นชินชั่วครู่กำดันลึกสอดสู่โพรงอุ่นร้อน ให้เธอโอบอุ้มครอบครองเขาอย่างแนบแน่น            "น้ำมนต์ อืม...รัดตอดดีเหลือเกิน ตัวนิดเดียว...แต่ร้ายนัก อืม..." เขาเสียบสอดลึกสุดในคราเดียว โพรงสวาทบีบอัดกระตุกเต้นรับการกระแทกสุดหรรษา ธารอุ่นร้อนกลั่นกรองรองรับความสัมพันธ์ทางธรรมชาติของมนุษย์หลั่งรินไม่ได้ขาด ช่วยบรรเทาความคับแน่นแต่หากไม่ได้ลดราวาศอกเรื่องความเสียวซ่าน            "น้ำมนต์..." เมื่อสอดประสานสุดล้ำลึกแล้วในที่สุด ชายหนุ่มก็ปล่อยมือไปประคองดวงหน้าหวานที่กำลังเคลิ้มคล้อยไปกับแรงสวาทจนเหมือนจะคุมสำนึกดีไม่อยู่เสียแล้ว เธอปรือตามองเขา หายใจหอบกระเส่าเหมือนจะรับรู้...            "พี่ขอโทษนะ..."            "อื้อ!!!!" กลีบปากเจ่อสีช้ำถูกประกบจูบกั้นเสียงที่กำลังจะเปล่งออกมาอย่างลืมตัวเมื่อเขาจู่โจมหนักหน่วงรุนแรง กระแทกสะโพกสอบเข้าหาร่างเล็กจนเธอสั่นคลอนไปทั้งร่าง ดวงตาเบิกโพลงเจ็บจุกแต่ซ่านหฤหรรษ์ พึงสำเหนียกรู้ถึงคำกล่าวขอโทษ ว่ามีจุดประสงค์จะล่วงล้ำเธอให้แหลกลาญตามอารมณ์ของเขานั่นเอง            ริมฝีปากยังไม่ถอดถอนรอยจูบ ในขณะที่ร่างใหญ่โยกขยับเข้าหาไฟสวาทถี่ยิบ เพื่อจบเกมสวาทนี้ให้เร็วที่สุด แรงรุกล้ำเร็วระรัวและหนักหน่วงรุนแรงขึ้นทุกขณะ จนแผ่นหลังกระแทกกับพื้นผนังตามจังหวะการโยกโยนของเขา เสียงเนื้อกระทบเนื้อเร้าเลือดในกายให้ฉีดพล่านไปทั้งร่าง เหลือกาฬไหลซิกชื้นไปด้วยกัน            "เสียวไหมน้ำมนต์ อืม...อา..." เสียงครางเบาๆ เมื่อผละริมฝีปากออกจากหญิงสาว ในความเร้าใจบางครั้งมันก็ทนทรมานเพราะต้องอดกลั้นอารมณ์ไม่ให้เปิดเผยมากนัก ไม่เช่นนั้นแล้วเขาและเธออาจกลายเป็นคู่พระนางเล่นหนังสดให้ใครๆ ที่เดินไปมาจับสังเกตได้            ลำสวาทถูไถเสียดสีอยู่ในโพรงสาวอุ่นระอุ...บดเบียดดึงดันเข้าออกอยู่อย่างนั้นสุดกำลังชาย ร่างเล็กหอบโยนไม่เหลือจังหวะให้เธอได้หายใจ มันทรมานและวาบหวิวเหมือนกำลังดำดิ่งสู้ห้วงมหาสมุทร หลงระเริงเวียนว่ายอยู่ในห้วงกามจวนจินจะสิ้นใจ น้ำตาปริ่มเปร่อหลั่งรินด้วยอยากกอบโกยเส้นแสงสีขาวที่มุ่งมาดปรารถนา และเมื่อเขาส่งมอบตัวตนหนักหน่วงเน้นสะกดล้ำลึกเพียงไม่กี่ครั้ง...            เธอก็หวีดร้องด้วยเสียงอันแหบพร่า...ของเหลวอุ่นร้อนจากคนตัวใหญ่ก็พวยพุ่งสู่ร่างเธอในขณะเดียวกันนั้น เขาครางในลำคอ...และซบลงบนไหล่เล็กแคบ แน่นิ่งแช่ความเป็นชายที่ยังผงาดชูชันฝากฝังไว้กับเธอ ชั่วครู่ก็ถอดถอนดึงออก ประคองร่างเล็กที่อ่อนระทวยเอาไว้ด้วยสองมือ            ไม่เช่นนั้นแล้วหญิงสาวคงทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นห้องเป็นแน่แท้...            "ไหวไหม..." เขาถามในขณะที่ยังหอบระทวย แต่ด้วยกำลังที่เหนือกว่าย่อมมีแรงควบคุมตัวเองได้มากกว่า อัญญดาไม่ตอบกลับ เหมือนปิดสัมผัสการรับรู้ทุกๆ อย่างไปแล้ว ชายหนุ่มจึงจับเธอพิงผนังอีกครั้งเพื่อจัดการกับเสื้อผ้าตนเองให้เรียบร้อยที่สุด            จากนั้นก็รวบร่างเล็กอุ้มไว้แนบอก...ใช้เท้าเตะถีบประตูให้เปิดออกและก้าวออกมาไม่นึกหวั่นเกรงต่อสายตาผู้ใด หากแต่เป็นจังหวะดีที่นักเที่ยวไม่ใคร่ป้วนเปี้ยนผ่านมากนัก            แต่....            "คุณหมอ!!!!" ผึ้งลุกพรวดจากที่นั่งจนกระเป๋าและโทรศัพท์ที่วางบนตักหล่นเกลื่อนพื้น เธออ้าปากค้าง ตาเบิกโพลงด้วยความ ตกใจ...อึ้ง สับสน            และนึกเดาได้แล้วว่าเสียงที่ได้ยินเป็นระยะๆ นั้นเกิดจากอะไร...            "..." หญิงสาวยังอ้าปากค้างในขณะที่อัศม์เดชแสยะยิ้มมุมปากเล็กน้อยอุ้มร่างอ่อนระทวยในอ้อมแขนเดินผ่านหน้าเธอซึ่งยังยืนมองแข็งทื่ออยู่อย่างนั้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม