บทที่ 4 ตอนที่ 6

1278 คำ
อัญญดาต้องหลับตาปี๋ เมื่อมองเห็นความเป็นชายที่ผงาดชูชันเต็มที่ เธอกลืนน้ำลายลงคอเฮือกนึกย้อนไปถึงความทรงจำครั้งแรกของการเสพสม เขาทำให้เธอเจ็บและเข็ดขยาดไม่น้อย แต่ในขณะเดียวกันรสชาติซาบซ่านรัญจวนก็เชื้อเชิญให้ใคร่รู้อยากลิ้มลองซ้ำอีกหน            ร่างใหญ่ของอัศม์เดชทับนัวเนียแทบเล้าโลมไปทุกสัดส่วน ริมฝีปากอุ่นประกบจูบดูดดึงซ้ำ ก่อนจะถอดถอนโดยเร็ว จูบกัดตรงปลายคางมนจนอีกฝ่ายครางสะท้าน ลากลิ้นปาดเลียใต้คางนั้นตลอดจนซอกคอขาวระหง ขบกัดดูดเม้มจนเกิดเสียงเสียดสีและรอยแดงจากแรงเสน่หา มือหนึ่งกอบกำเคล้นคลึงเต้างามกระตุ้นสันดานดิบในตัวเธอ หัวแม่มือสะกิดกดยอดถันเน้นวนเบาๆ จนรับรู้ได้ถึงความเกร็งเครียดที่ตอบสนอง            อุ้งปากอุ่นร้อนไม่รอช้าหลังจากสำรวจผิวเนื้อมาเรื่อยๆ เขาอมกลืนทรวงอกอีกข้างประหนึ่งยาจกผู้หิวโหย ทั้งดูดทั้งดึงดื่มกินสุดซ่านกระสัน... มือเล็กจิกกำผ้าปูที่นอนประหนึ่งไร้ที่ระบายความกระสันซ่านที่สูบฉีดแผ่ไปทุกอณูเนื้อ แตกต่างจากครั้งแรกที่ทั้งฉาบฉวยและรุนแรงอย่างสิ้นเชิง            ในขณะเดียวทุกสิ่งที่เธอกำลังได้สัมผัส ณ ตอนนี้ เหมือนอัศม์เดชจงใจฝากทุกรอยรักให้จดจำฝังลึกกับทุกๆ สัมผัสวาบหวาม ขับกล่อมให้ร่างกายของหญิงสาวอ่อนหลอมเหมือนเทียนถูกลนด้วยไฟร้อนฉ่า เหงื่อกาฬผุดพรายพรมร่างแบบบางให้ชื้นอุ่นระอุ เธอเผลอครางกระเส่าดั่งกำลังทรมานเหมือนใจจะขาด            ลิ้นร้ายตวัดรัดเลียยอดถันที่สุดซึ่งบัดนี้ชูชันแข็งเป็นไต แสดงถึงการตอบสนองของร่างเล็กที่เขากำลังนัวเนียแนบเนื้อด้วยความลุ่มหลง ยอดอกหอมหวานปานขนมรสเลิศล้ำ อกอวบนุ่มหยุ่นเต้นระริกรับสัมผัสของปากและลิ้น ครั้งแล้วครั้งเล่า ส่วนลางลำตัวกดเบียดเสียดสีกับร่างเล็กระหง ทาบวัดขนาดแล้วช่างต่างกันมากมายนัก            ผมดกดำยาวสลวยพลิ้วขยับไปตามจังหวะการเคลื่อนไหวของร่างกาย คนตัวใหญ่ครางฮือไปกับการได้ดื่มด่ำปทุมคู่งามของวัยแรกสาว มือขวาละจากเต้าอวบเคลื่อนคล้อยลงมาสอดใต้ข้อพับ ยกรั้งออกห่างก่อนจะแทรกตัวเข้าระหว่างกลางใจสาว            "อื้อ!" ความเจ็บจากการถูกบดเข้าระหว่างขาทำให้สติน้อยนิดแตกตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ร่างเล็กสั่นผวาเมื่อรับรู้ว่ากำลังจะถูกล่วงล้ำเกินเลย อัศม์เดชชะงัก...ย้อนคืบขึ้นไปประกบจูบริมฝีปากสีระเรื่อ            "ไม่ต้องกลัวคนดี...พี่สัญญาว่าจะไม่ทำให้น้ำมนต์เจ็บปวดเหมือนครั้งที่แล้ว" เสียงทุ้มนุ่มปลุกปลอบอย่างอ่อนโยน จูบซับพวงแก้มเจือสีชาติ อัญญดาผ่อนลมหายใจเป็นปกติ แต่มือเล็กกำจิกผ้าปูที่นอนแน่น เหมือนจะหาที่พึ่งพิงยามใจกำลังหวั่นระแวง            ริมฝีปากอุ่นหนาเพิ่มสำรวจสรีระงามระหงอีกครั้ง ไล้เลียโอ้โลมทุกตารางผิวเนื้อนุ่มละเอียดลออ สัดส่วนอวบอัดเต็มวัยแห่งอิสตรีเพศ ลิ้นร้ายลากผ่านทรวงอกสองข้าง ไม่ลืมจะฉกชิมเอาเปรียบจนสาแก่ใจก่อนจะพรมจูบทิ้งความเปียกชื้นมาจนถึงสะดือบุ๋ม เด็กสาวหดเกร็งหน้าท้องด้วยความเสียวซ่าน มือสองข้างเริ่มผลักไสใบหน้าคมกร้านด้วยความรู้สึกกึ่งกลัวกึ่งใคร่รู้...            อัศม์เดชแหงนมองใบหน้าสะลึมสะลือด้วยฤทธิ์เสน่หา แวบหนึ่งก่อนกดริมฝีปากจูบตรงเนินอวบอูมของอิสตรีเพศ            "คุณ....หมอ!"            "อืม...น้ำมนต์จ๋า"  มือเล็กผลักไสใบหน้าคมสันให้ห่างหน้าขาตัวเองอัตโนมัติ แต่มีหรือคนตัวใหญ่จะยอมง่ายๆ เขาใช้มือข้างหนึ่งรวบข้อมือเล็กเข้าไว้ด้วยกันแล้วพลิกกดทับไว้ที่สะเอวของเธอไม่ให้ดีดดิ้นได้อีก ส่วนลำตัวแทรกเข้าระหว่างกลางสองขา หมดหนทางที่หญิงสาวจะขัดขืนต่อต้านได้อีก            เรียวลิ้นร้ายสอดตวัดล้วงเข้าสู่ร่องเนื้อปริแยก แย้มความสาวแล้วฉกชิมไม่รีรอ...            สะโพกผายอวบอัดสั่นส่ายไม่อยู่นิ่งแม้จะขยับได้เพียงน้อยนิดก็ตาม ความเสียวซ่านถาโถมรุนแรงเกินกว่าที่เธอจะทำความเข้าใจได้ง่ายๆ สะเอวคอดยังขยับวนส่ายหน่ายหนี แม้ในที่สุดแล้วก็ไม่อาจรอดพ้นจากรอยชิวหาชื้นระอุของเขา สันดานดิบของมนุษยชาติก่อตัวดึงเอาความชั่วช้าที่จมดิ่งหลับใหลคืนชีพ...            มือเล็กอดทนจนไม่ไหวเคลื่อนคล้อยมากุมจับปอยผมยาวสลวยที่ขยับศีรษะอยู่ตรงใจกลางความสาว เธอเรียนรู้ที่จะแอ่นรับสัมผัส จับกดเขาสมสู่อย่างเร่าร้อน เสียงเล็กครางแผ่วไม่ขาดระยะ ลำคอแห้งผากราวต้องข้ามสายน้ำไหลผ่านมาเนิ่นนาน อัศม์เดชล่วงรู้ด้วยดุลพินิจ เร่งสอดลึกเรียวลิ้นตามแต่ใจปรารถนา            อัญญดาเด้งตัวอย่างคนหลงลืมสิ้นสติสมประดี ห้วงจิตโหยหาบางอย่างที่ไม่อาจเอ่ยปากขอ ได้แต่ครางประท้วงและตอบสนองตามธรรมชาติของเพศรส ลิ้นร้ายละเลงรัวในขณะที่ริมฝีปากหนาดูดดึงสองกลีบสีกุหลาบหนักหน่วงไปด้วย จมูกโด่งคมสันกดเน้นตรงปุ่มเนื้อซึ่งจงใจให้อยู่ในตำแหน่งพอดิบพอดี ร่างเล็กถูกจู่โจมจนหายใจติดขัด คลื่นร้อนฉ่าบิดเกลียวเต้นเร่าอยู่ในร่างเสมือนกำลังหาทางออกอย่างบ้าคลั่ง            "อื้อ!!..."            "อืม" เส้นชีพจรที่เต้นรัดอุ้งลิ้นเป็นจังหวะส่งสัญญาณความสุขสู่ผู้รุกราน เขาจับโคนขาสองข้างถ่างยกเชิด รุกเล้าเลียหนักหน่วงนัวเนีย ไม่ถึงเสี้ยวใจร่างเล็กก็เกร็งเครียดแอ่นหยัดให้เขาเชยชิมหยาดทิพย์ที่หลั่งชโลมอย่างอิ่มเอม            "มันดีใช่ไหมน้ำมนต์ อืม...เห็นไหมว่าไม่เจ็บเลยสักนิด มีแต่ความสุขเท่านั้น..." คนตัวใหญ่ผงกศีรษะผละห่าง แลบลิ้นเลียริมฝีปากอวดสายตาฉ่ำปรือเลื่อนลอย ลมหายใจรวยระริน            ผมดกดำยาวเคลียไหล่ของเขาพลิ้วไปตามแรงขยับรุกคืบ...ขึ้นมาคร่อมร่างระหงที่อ่อนระทวยดั่งขี้ผึ้งลนเปลวไฟ ก้มประกบจูบดูดริฝีปากบวมเผยอแย้ม รุกลิ้นเข้าหาส่งมอบรสชาติและกลิ่นหอมหวานของเธอ เผื่อแผ่ให้ได้รับรู้และคุ้นชิน ก่อนจะเบียดลำรักแข็งขึงแทรกสู่ระหว่างขาทั้งสองข้าง            ร่างเล็กยังมัวเหม่อจับต้นชนปลายไม่ถูก เกลียวสวาทในตัวสงบนิ่งแต่หัวใจยังเต้นสั้นเป็นระวิง สติบางส่วนยังรับรู้ว่ามือใหญ่กำลังจับสองขาแยกออกห่างเพื่อให้เขาเบียดเข้าหาได้ถนัดถนี่ยิ่งขึ้น            "อื้อ!!"            "จุ๊ๆ...ไม่เป็นไรพี่สัญญา" เสียงทุ้มอ่อนโยนปลอบขวัญ จูบไล่ลิ้นหนักลากเลื่อนจากกลีบปากสีหวานลงมาถึงทรวงอก ตวัดสอดลิ้นรัดยอดถันปลุกอารมณ์สาวให้แตกซ่านอีกครั้ง ดึงความสนใจในขณะที่ความเป็นชายแข็งผงาดกำลังจดจ่อถูไถอยู่กับกลีบเนื้อบอบบาง            ความชื้นอุ่นร้อนกระตุ้นกำหนัดหนุ่มให้เดือดพล่าน แทบอยากจะกดให้เธอจมคาเตียงแล้วกระหน่ำโถมเข้าหาตามแรงอารมณ์ที่เต้นเร่าอยู่ทุกอณูเนื้อ            ร่างเล็กแอ่นรับสัมผัสจากเรียวลิ้นและริมฝีปากที่ฉกชิมปทุมถันของเธอ ใจหวิวรอคอยการถูกเติมเต็มด้วยความวาบหวาม บางอย่างค่อยๆ แทรกแย้มร่องหลืบฉ่ำ พร้อมถูไถสัมผัสแนบชิด อัศม์เดชครางกระหึ่มเพียงได้แตะต้องเนื้อแท้กันและกัน 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม