วันนี้ทั้งหมอและผู้ช่วย รวมถึงพยาบาลผู้ช่วยต่างก็ต้องทำงานหนักกว่าปกติ อันเนื่องมาจากคลินิกเปิดทำการเต็มวันอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว หลังจากอัญญดาเรียนจบ และได้เข้ามาทำงานอย่างเต็มตัวด้วย
ก่อนหน้าเพราะคุณหมอหนุ่มต้องเทียวรับเทียวส่งเธอทำให้หน้าที่การงานของเขาไม่เต็มที่นัก หญิงสาวยังรู้สึกอึดอัดไม่น้อย แต่มันก็ทำให้มุมมองระหว่างเธอกับเขาเป็นไปในทางที่ดีขึ้น
ดี...จนเริ่มเปลี่ยนแปลงเอนเอียงอย่างน่าบัดสี
"แพรวเป็นยังไงบ้าง..." อัศม์เดชเอ่ยถามขณะตรวจคนไข้คนสุดท้ายของช่วงเช้าเสร็จและกำลังจะเตรียมตัวไปพักรับประทานอาหารกลางวัน
"ก็เหมือนเดิมค่ะ ช่วงนี้ออกต่างจังหวัดบ่อยเพราะเรียนจบแล้ว ระหว่างรอรับปริญญาปีหน้า เขาคงเก็บเงินได้ก้อนใหญ่เลยทีเดียว น้ำมนต์ก็ทำงานไม่ค่อยได้คุยกันหรอก มีอะไรหรือเปล่าคะ" อัญญดาสอดแฟ้มเอกสารประวัติคนไข้และหันมาตอบคำถามคุณหมอหนุ่มซึ่งยืนพิงประตูมองเอามือกอดอกมองมายังเธอ
"เปล่า เคนมันถามน่ะพี่ก็ไม่รู้เลยถามน้ำมนต์อีกทอดนี่แหละ"
"สองคนนี้เขาแปลกๆ ไม่รู้มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่านะคะ" หญิงสาวตั้งข้อสงสัย แกะหน้ากากอนามัยออกและเดินไปกดน้ำยาทำความสะอาดมาถูไปตามเรียวมือ
"พี่ถามเจ้าเคนมันก็ไม่ยอมปริปากอะไรสักอย่าง แต่สองคนนั้นเจอกันแค่ครั้งสองครั้งพี่ก็ยังไม่อยากสรุปอะไรง่ายๆ อาจจะเพราะเคนชอบๆ แพรวอยู่ก็ได้เลยพยายามตามจีบ" คุณหมอหนุ่มลดมือลงหันเดินตามร่างบางในชุดขาวของผู้ช่วยคนใหม่ซึ่งเดินผ่านหน้าไป
"หนูไม่อยากไปคาดคั้นแพรวมันมากค่ะ เขามีปัญหาเยอะพออยู่แล้ว นี่ก็คงอยากเก็บเงินไว้เผื่อแม่จะอาการดีขึ้นแล้วได้กลับมาอยู่ด้วยกัน"
"อืม...งั้นเลิกพูดเรื่องคนอื่นเถอะ มาคุยเรื่องของเรากันดีกว่า"
"อุ๊ย! คุณหมอ..." คนตัวเล็กสะดุ้งเมื่อลำแขนล่ำสันที่พับแขนเสื้อสีครามไว้ถึงข้อศอกรวบกอดโดยไม่ทันตั้งตัว ใบหน้าคมกร้านซุกโน้มเข้าหาแก้มขาวเพื่อตักตวงความหอมทันทีในขณะที่สาวเจ้าก็ตั้งท่าหลบ ผลักตัวเขาให้ออกห่าง แต่อ้อมกอดแข็งแรงก็กันเอาไว้ไม่ยินยอม พร้อมเสียงกลั้วหัวเราะคลุมเครือ
"ปล่อยนะคะนี่ที่ทำงานยังจะหาเศษหาเลยอีก..."
"ไม่ได้ไปหากับใครที่ไหนนี่ หากับเมียตัวเอง"
"...." สรรพนามที่เขาเรียกขานหยุดการเคลื่อนไหวทั้งมวลของร่างเล็ก...เธอกลืนน้ำลายลงคอรับรู้ได้ถึงความเจ็บฝืดนิดๆ และจุกแน่น เขากล้าพูด...แต่เธอไม่กล้ารับ...
อัศม์เดชเองก็รับรู้ถึงกิริยาชะงักงันนั้น และหญิงสาวก็ฉวยจังหวะผลักมือเขาออกจนได้ ก่อนจะหมุนตัวให้ห่างจากกัน
"หนูไปทำงานก่อนนะคะ" ร่างเล็กเดินหายลับไปพร้อมๆ ประตูที่ปิดลง อัศม์เดชขมวดคิ้วฉงน ไม่ค่อยเข้าใจนักในท่าทีแปลกๆ ที่อัญญดามักแสดงออก ผู้หญิง...เอาใจยากจริงๆ เขาถึงไม่อยากผูกมัดตัวเองไว้กับใคร แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้คงต้องยกเว้นเอาไว้ในฐานที่เข้าใจ แม้จะไม่ค่อยเข้าใจเธอเท่าไหร่นักก็ตาม...
ชายหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือมาดู ยิ้มเหยียดเต็มริมฝีปากความคิดบางอย่างไหลผ่านเข้ามาเนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์และคลินิกของเขาหยุดทำการ อัศม์เดชจึงเดินกลับไปยังห้องตรวจคนไข้ทำหน้าที่ของตัวเองบ้าง เหลือผู้ป่วยเพียงไม่กี่คนแล้ว
อัญญดาทำหน้าที่คอยจัดบิลจ่ายยา และคอยหาตัวยามาให้ชายหนุ่มแนะนำคนไข้หากต้องรักษาด้วยตัวยาพิเศษ รวมถึงจัดการจัดตัวยาจำพวกเซรุ่ม เซรั่ม วิตามินต่างๆ ที่จำเป็นต้องฉีดให้คนไข้ด้วย
ซึ่งทั้งหมดจะถูกจัดเรียงหมวดหมู่เอาไว้อย่างชัดเจนและถูกต้องที่สุดอยู่แล้ว และเป็นหน้าที่ซึ่งเธอเรียนรู้มาหลายปีตั้งแต่สมัยเรียน
แต่กระนั้นคุณหมอหนุ่มก็ยังไม่ไว้ในให้เธอทำงานหลักๆ เกี่ยวกับตัวยา เนื่องจากอัญญดาไม่ได้จบมาโดยตรง หากผิดพลาดขึ้นมามันจะส่งผลเสียและอันตรายเป็นอย่างมาก
"น้ำมนต์รับบิลไปที่ช่องจ่ายยานะ แล้วก็ขอยาฉีดตามออเดอร์ด้วยนะ" อัศม์เดชยื่นใบสั่งยาให้กับผู้ช่วยสาว เธอรับมาอ่านคร่าวๆ แล้วก็เดินไปทำหน้าที่ของตัวเอง โดยการส่งเอกสารนั้นให้กับพยาบาลผู้มีหน้าที่จ่ายยา ก่อนจะเดินกลับไปหยิบยาฉีดซึ่งถูกเก็บไว้ในคลังของห้องยาอีกห้องหนึ่ง
หญิงสาวจัดการหยิบตัวยาที่ต้องใช้ในช่องซึ่งมีชื่อระบุไว้แล้ว นำหลอดฉีดมาใส่เข็มและเจาะดึงเอาตัวยาเข้ามาในหลอดดูปริมาณตามที่คุณหมอกำหนดมา และวางไว้บนผ้าสะอาดปลอดเชื้อซึ่งวางอยู่บนถาดสเตนเลสสำหรับทำแผลอีกทีพร้อมกับกล่องสำลีซึ่งชุบแอลกอฮอลล์ไว้แล้ว จากนั้นก็นำเอาไปให้คุณหมอ
"ฉีดยาสักเข็มนะครับ จะช่วยลดอาการปวดหลังของคุณลุงได้เยอะทีเดียว แต่ระหว่างนี้อย่าลืมที่ผมสั่งว่าห้ามยกของหนัก ห้ามก้มเงยบ่อยๆ ที่สำคัญอย่านั่งนานครับ" อัศม์เดชพูดพลางสวมถุงมือและหยิบเข็มฉีดมาตรวจสอบสภาพ
ในขณะที่อัญญดากำลังช่วยพยุงคุณลุงผู้ป่วยให้ขึ้นไปนอนคว่ำหน้าบนเตียง และนำถาดอุปกรณ์ไปวางไว้ใกล้ๆ เพื่ออำนวยความสะดวก
หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของคุณหมอในการทำการรักษา แล้วทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อยในเวลาต่อมา
"เดี๋ยวคุณหมอตามผู้ช่วยผมออกไปรับยาได้เลยครับ พักผ่อนเยอะๆ พรุ่งนี้อาการจะดีขึ้นตามลำดับนะครับ" คุณหมอกล่าวขณะถอดถุงมือออกและให้อัญญดาพยุงร่างอิดโรยของผู้ป่วยลงจากเตียง จากนั้นก็เรียกให้ญาติเข้ามาช่วยประคองออกไปด้านนอก
นาฬิกาบอกเวลาที่ล่วงเลยของวันไม่เคยหยุดหย่อน แม้คลินิกจะปิดแล้วแต่ยังมีผู้ป่วยตกค้างอีกสองคน เมื่อตรวจเสร็จเรียบร้อยหลังจากนี้...ก็จะเป็นเวลาของเขาบ้าง