บนหน้าผาสูงชันแห่งหนึ่งกำลังปกคลุมไปด้วยบรรยากาศอึมครึมที่สุดแสนจะวังเวงและโศกศัลย์
บุรุษหนุ่มผู้หนึ่งกำลังนั่งคุกเข่าก้มหน้าคล้ายกับจะร่ำไห้อยู่ตลอดเวลา แต่ทว่า เพราะเป็นบุรุษไม่อาจเสียน้ำตาจึงทำได้แค่เพียงเก็บข่มมันเอาไว้ด้วยจิตใจที่แสนจะอัดอั้นทนทุกข์ทรมาน
เบื้องหน้าของบุรุษผู้นี้มีหลุมศพพร้อมป้ายสลักชื่อของสตรีอันเป็นที่รักหนึ่งเดียวของเขา โม่เหลียน
นางได้อำลาจากเขาไปยังดินแดนอันไกลแสนไกล แม้ว่าเขาจะร่ำร้องเรียกหานางปานใด คร่ำครวญแค่ไหน ปวดร้าวใจเพียงใด แต่นางก็ไม่มีวันหวนกลับมา
นางไม่อาจกลับมาหาเขาได้อีกเลยตลอดกาล...
เขาทั้งรักและทะนุถนอมนางปานนี้ แต่นางก็ยังทำกับเขาอย่างนี้ กล้าทิ้งเขาไปได้อย่างไร
ทั้งๆ ที่นางสัญญากับเขาแล้วว่า จะไม่พรากจากกัน เขาแค่ทำผิดพลาดเรื่องจูซิ่วเท่านั้น เหตุใดให้อภัยไม่ได้ ถึงอย่างไรเขาก็รักเพียงนาง เขารักโม่เหลียนคนเดียวจริงๆ
ทำไมไม่เชื่อใจ? เหตุใดไม่ให้อภัย? นั่นคือคำถามที่ชายหนุ่มเฝ้าแต่ถามตนเองอยู่ภายในใจตลอดมา
ซ่งเสวียนชิงโงนเงนลุกขึ้นแล้วเดินจากไปเงียบงัน แม้อยากรั้งอยู่ที่นี่นานๆ แต่ที่จวนยังมีลูกน้อยกับภรรยาอีกคน
เขายังไม่รู้ คนชั่วร้ายที่สุดคือคนที่ทำผิดอย่างมหันต์ชนิดที่ไม่สมควรได้รับการอภัยกลับไม่เข้าใจว่าตัวเองผิดที่ใด
ค่ำคืนอากาศเย็นเยียบ บุรุษร่างใหญ่นั่งดื่มเหล้าอยู่คนเดียวเงียบๆ แววตาจับจ้องเพียงสิ่งหนึ่งเนิ่นนาน
ภายในห้องหนังสือ มีแสงเทียนนวลลออส่องสะท้อนภาพวาดของสตรีงดงามวางอยู่บนโต๊ะ
ฝ่ามือหยาบกร้านของซ่งเสวียนชิงลูบไล้อย่างคิดถึง หวนคะนึงโหยหามิสร่างซา
“โม่เหลียน ในที่สุดข้าก็ได้บุตรสาวของเรากลับมา ข้าดูแลนางอย่างดี” เขาแค่นยิ้ม “เจ้าอย่าโกรธข้าอีกเลย เลิกโกรธข้าเสียที...ข้ารักเจ้าถึงเพียงนี้...โม่เหลียน...”
เปลือกตาหนักอึ้งของบุรุษค่อยๆ ปิดลงอย่างเชื่องช้า นานครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาใหม่อีกครา จอกเหล้าถูกยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมด เป็นอยู่เช่นนี้หลายครั้งหลายครา
“ท่านพี่...” สุ้มเสียงอ่อนหวานดังขึ้นข้างกาย ซ่งเสวียนชิงจึงปรายตามอง
แต่แล้วเขาพลันชะงักวูบหนึ่ง เท้ามือกับพนักเก้าอี้เพื่อพยุงตัวลุกขึ้น สองตาเหม่อมองเจ้าของเสียงหวานนิ่งงัน
“เหลียนเอ๋อร์”
รอยยิ้มสตรีแข็งค้าง ทว่าชั่วแวบเดียวเท่านั้นกลับปรับให้ริมฝีปากสีแดงเรื่อแย้มยิ้มเฉิดฉันอ่อนโยนดุจเดิม
ส่งผลให้ผู้มองรับรู้ได้ว่ากลีบปากภายใต้รอยยิ้มนี้ นุ่มหวานปานใด “เหลียนเอ๋อร์ เจ้ากลับมาหาข้าแล้ว...”
ซ่งเสวียนชิงตวัดแขนโอบรัดเจ้าของรอยยิ้มเข้าสู่อ้อมกอด จับร่างนุ่มของนางขึ้นอุ้มแล้วเดินไปที่เตียงนอน
ความคิดถึงทำให้การเปลื้องผ้าเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย ฝ่ายชายจับกระชากเสื้อผ้าของฝ่ายหญิงออกอย่างเร่งร้อน ในขณะที่ฝ่ายหญิงเองก็ถอดให้ฝ่ายชายอย่างช่ำชอง
หญิงชายเผยเรือนร่างเปล่าเปลือยภายใต้แสงเทียน
บุรุษทาบทับบนอิสตรี จับกดนางด้วยเนื้อแนบเนื้อ ประกบริมฝีปากอย่างเร่งเร้ารุนแรง เลือดลมสูบฉีดเกินต้าน
“เหลียนเอ๋อร์ เจ้ายังโกรธข้าหรือไม่?” บุรุษพึมพำ ริมฝีปากชิดผิวขาวลออ ดูดเม้มจนเกิดรอยแดงเป็นจ้ำซ้ำๆ พลางเลื่อนฝ่ามือไปตามหน้าท้องเนียนสล้าง หยอกเย้ากลีบบุปผาฉ่ำชื้น แล้วเลื่อนขึ้นมากอบกุมทรวงอกอวบอิ่มเต็มมือ บีบคลึงอย่างถือสิทธิ์ “เหลียนเอ๋อร์ เหลียนเอ๋อร์”
“อา...” เสียงสตรีดังเล็ดลอดอย่างยากจะหักห้าม
พริบตานั้นซ่งเสวียนชิงพลันได้สติกลับคืน
สายตาที่เดิมทีพร่าเลือนจึงกระจ่างชัด แลเห็นแล้วว่าแท้จริงสตรีใต้ร่างเป็นใคร เขาชะงัก “จูซื่อ...”
จูซิ่วขยับริมฝีปากบวมแดงคลี่ยิ้มหวานมากกว่าเดิม
“ท่านพี่ เป็นข้าเองเจ้าค่ะ”
นางตวัดแขนเรียวเสลาขึ้นโอบลำคอแกร่งเพื่อมิให้เขาลุกขึ้นผละจากไป ดวงตาของนางฉายความเว้าวอน แอ่นอกนุ่มชิดอกแกร่งอย่างเย้ายวนชวนหวิวไหวมากขึ้น โน้มใบหน้าชายเหนือร่างลงมาประทับจุมพิตชวนหวาม รำพันยามแนบกลีบปากผสานคลอเคลีย
“แม้ข้ามิใช่พี่โม่เหลียน แต่ข้าไม่เคยโกรธท่าน ไม่เลย ...ข้ารักท่าน ขอแค่ท่านรักข้า รักเพียงข้า...”
ดวงตาคมเข้มทอประกายวูบไหว หัวใจในโพรงอกด้านซ้ายเต้นในจังหวะไม่ช้า ทั้งสั่นไหวอย่างรุนแรง ประหนึ่งหนุ่มน้อยได้เจอปีศาจสาวจอมล่อลวงให้ตกบ่วงห้วงมายาแบบกะทันหัน ทั้งกิริยาหวิวซ่านและคำพร่ำรำพันแว่วหวาน
และยามนี้สองร่างเปล่าเปลือยกำลังกอดเกยอยู่ในท่วงท่าหมิ่นเหม่หวามไหว ไหนเลยยังต้องคิดยั้งใจอันใด
ซ่งเสวียนชิงจึงก้มหน้าพรมจูบจูซิ่วอย่างดุดัน จับอีกฝ่ายแยกขาพร้อมเคลื่อนกายขยับเป็นจังหวะวสันต์ ก่อนจะตอกตรึงลึกซึ้งถึงอารมณ์อันเร่าร้อน
ม่านเตียงพลิ้วไหว เคล้าเสียงกระเส่าครวญคราง เปลวเทียนวูบไว สาดส่องภาพวาดสตรีบนโต๊ะเนิ่นนาน...
ผ่านพ้นไปอีกราตรี หน้าป้ายหลุมศพนี้พลันปรากฎเงาร่างของบุรุษอีกคนหนึ่ง
เยี่ยนเต๋อรู้ข่าวของโม่เหลียนในวันที่สาย
เขาเร่งรุดมาถึงกลับเห็นเพียงป้ายวิญญาณของนาง จึงทำได้เพียงหลั่งน้ำตาเงียบงัน เฝ้าโทษตัวเองที่ตัดสินใจปล่อยมือโม่เหลียนง่ายเกินไป
ทุกอย่างคือความผิดของเขา
เป็นความผิดไม่อาจอภัย...
เยี่ยนเต๋อที่ยามนี้ไร้สตรีข้างกาย ทั้งยังไร้บุตรธิดา จึงเลือกติดตามโม่เหลียนไปเพื่อแก้ไขสิ่งผิด
เขาจะตามปกป้องนางไม่ให้ใครทำร้ายได้อีก
ดาบหนึ่งปลิดชีวิตโดยไม่นึกเสียดาย
อ๋องหนุ่มคิดเพียงให้นางอันเป็นที่รักได้เลือกใหม่ ในภพชาติหน้า...