“ไปกันเลยค่ะพี่พรีม น้องมุกกับคุณแม่จะไปส่งพี่เมฆด้วยค่ะ”
ว่าแล้วมุกรินก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็กของพี่สาว แล้วฉุดให้อีกฝ่ายเดินออกจากบริเวณหน้าห้องนอน
อชิรญากระชากมือออกจากมือเล็กของน้องสาวเต็มแรง และก็ต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บแปลบ เพราะจังหวะที่เธอกระชากมือออก มุกรินก็แกล้งจิกเล็บแหลมคมบนข้อมือของเธอ พอกระชากแขนออกเต็มแรง ก็ถูกเล็บแหลมๆ ครูดลงมาตามข้อมือเกิดรอยแดงช้ำเลือดในทันที
“น้องมุก! จงใจแกล้งพี่หรือคะ” อชิรญาถามเสียงห้วนจัด ขึงดวงตาจ้องมองคนตรงหน้าเขม็ง
มุกรินแสร้งสีหน้าตายไม่รู้เรื่อง ก่อนจะเอ่ยตอบ “แกล้งอะไรกันคะพี่พรีม น้องมุกแค่จับมือพี่พรีมให้เดินลงไปข้างล่างด้วยกันเท่านั้นเอง พี่พรีมรังเกียจน้องมุกมากเลยหรือคะ แค่จับมือเพียงแค่นี้ พี่พรีมก็ไม่ให้น้องมุกจับมือ น้องมุกเสียใจนะคะ ที่พี่พรีมรังเกียจน้องสาวคนนี้”
“ใครรังเกียจใครหรือน้องมุก พ่อได้ยินแว่วๆ ไม่ค่อยถนัดสักเท่าไร”
คุณมรุเดชเพิ่งเดินออกมาจากห้องนอน และได้ยินเสียงของลูกสาวคนเล็กรำพันยืดยาว จึงเอ่ยถามออกมา พร้อมกับเดินเข้าไปสวมกอดลูกสาวคนเล็กไว้ด้วย
พอเห็นบิดาเดินตรงมาหาตนเอง มุกรินก็แสร้งบีบน้ำตา ตีหน้าหมองเศร้าใส่ไคล้พี่สาว และหาความดีเข้าตัวในทันที
“ไม่มีอะไรหรอกคะคุณพ่อ น้องมุกแค่เสียใจนิดหน่อย ที่พี่พรีมคิดว่าน้องมุกไม่รักพี่พรีม คุณพ่อคะ น้องมุกมีพี่สาวแค่เพียงคนเดียว ถ้าไม่ให้รักพี่พรีมแล้วจะให้น้องมุกไปรักใครคะ”
พอได้ยินลูกรักพูดเช่นนั้น คุณมรุเดชก็หันไปถลึงตาใส่ลูกสาวคนโตด้วยความไม่พอใจ พร้อมกับตำหนิอชิรญาเสียงดุ
“ทำไมถึงพูดกับน้องแบบนั้นละน้องพรีม เรามีกันแค่สองคนพี่น้องเท่านั้น อีกอย่างน้องมุกมีสุขภาพไม่ค่อยดีด้วยน้องพรีมต้องรักน้องให้มากๆ รู้ไหมลูก ถ้าเกิดพ่อตายไปพ่อจะได้นอนตายตาหลับ เมื่อรู้ว่าน้องพรีมสามารถดูแลน้องมุกแทนพ่อ แทนน้าดาได้”
“น้องพรีม...”
อชิรญาไม่มีโอกาสแก้ตัว ไม่มีโอกาสโต้แย้งบิดา เพราะแค่เพียงเธอเผลอปากกำลังจะพูดออกมา ก็ถูกบิดาเอ่ยตอกย้ำอีกครั้ง
“น้องพรีมต้องรักน้องและสัญญากับพ่อว่าจะดูแลน้องมุกให้ดีที่สุด น้องพรีมต้องเสียสละทุกอย่างเพื่อน้องมุกได้ เข้าใจไหมลูก”
“คุณพ่อคะ อย่าไปบังคับพี่พรีมเลยค่ะ ถ้าพี่พรีมไม่รักน้องมุกก็ไม่เป็นไร ให้น้องมุกรักพี่สาวคนนี้แค่ฝ่ายเดียวก็พอแล้วค่ะ”
คราวนี้มุกรินบีบน้ำตาให้หยดแหมะลงมาบนพวงแก้ม พร้อมกับหอบหายใจรัวเร็วยกมือจับหน้าอกตัวเองราวกับกับแน่นหน้าอกเหลือประดา จนคนเป็นพ่อต้องรีบเข้ามาประคองลูกสาวไว้ด้วยความเป็นห่วง
“น้องมุก อาการกำเริบอีกแล้วหรือลูก”
“น้องมุก...ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะคุณพ่อ...น้องมุกเจ็บหน้าอกนิดหน่อยเท่านั้นเองค่ะ”
“เห็นไหมน้องพรีม เพราะน้องพรีมพูดกระทบกระเทือนจิตใจของน้องมุก จึงทำให้อาการโรคหัวใจของน้องมุกกำเริบอีกแล้ว”
คุณมรุเดชหันมาตำหนิลูกสาวคนโตอีกครั้ง และคราวนี้คนที่นิ่งเงียบมานาน อีกทั้งรู้ความจริงเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยของมุกริน ก็หลุดถ้อยคำเอ่ยเป็นนัยๆ ให้สองแม่ลูกต้องสะดุ้งโหยง
“แน่ใจหรือคะว่าน้องมุกเป็นโรคหัวใจ แล้วยาแก้อักเสบ แก้ติดเชื้อภายในที่คุณหมอจ่ายให้ น้องมุกเอามาให้ใครกินคะ”
‘อีพรีม สู่รู้เรื่องของกูดีนัก ระวังเถอะมึง ระวังจะไม่ได้ตายดี’
มุกรินกัดฟันกรอดเค้นเสียงตะโกนด่าตามไล่หลังอชิรญา ที่เดินหนีลงไปจากบนบ้านแล้ว เมื่อพี่สาวต่างมารดาที่เธอเกลียดนักเกลียดหนาไม่อยู่ ณ ที่นี้แล้ว มุกรินก็เริ่มใส่ไฟ ป้ายความผิดให้พี่สาวอีกชุดใหญ่ จนผู้เป็นบิดานึกโกรธลูกสาวคนโตเพิ่มกว่าเดิมอีกหลายเท่า
สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ...
อชิรญาน้ำตาริน ขณะล่ำลาคนรักที่กำลังจะขึ้นเครื่องบินในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า หญิงสาวไม่เคยแสดงความรักกับผู้กองนภพีท์อย่างประเจิดประเจ้อ
ทว่าในวันนี้หญิงสาวไม่อาจหักห้ามความเสียใจไว้ได้ เมื่อผู้กองนภพีท์บอกว่าต้องไปขึ้นเครื่องบินแล้ว หญิงสาวก็โผเข้าไปสวมกอดคนรักไว้แนบแน่น และผู้กองนภพีท์ก็มอบจุมพิตหวานฉ่ำให้กับหญิงสาวที่รัก สร้างความอิจฉาริษยาให้ก่อเกิดอยู่ในใจของมุกริน จนร่ำๆ อยากเข้าไปจับทั้งสองคนแยกออกจากกัน
“น้องพรีม พี่เมฆต้องไปขึ้นเครื่องแล้วนะครับ”
ผู้กองนภพีท์บอกคนรักหลังจากผละริมฝีปากออกแล้ว ขณะเดียวกันก็เช็ดน้ำตาที่เอ่อคลอเบ้าดวงตาคู่สวยให้ด้วยกริยาอ่อนโยน
“ไม่ต้องร้องนะครับคนดี อีกไม่กี่เดือนพี่เมฆก็จะกลับบ้านแล้ว”
“ค่ะพี่เมฆ น้องพรีมจะรอพี่เมฆกลับบ้านค่ะ”
อชิรญาสูดสะอื้น พยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้หลั่งรินออกมาให้ผู้กองนภพีท์เห็น ก่อให้เกิดความกังวลในตัวเธอก่อนเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่
ผู้กองนภพีท์คลี่ยิ้มออกมาได้ เมื่อยอดดวงใจหยุดร้องไห้ได้แล้ว หลังจากนั้นก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบกล่องกำมะหยี่ออกมาให้อชิรญาเห็น ก่อนจะหยิบแหวนเพชรวงงามออกจากกล่องกำมะหยี่ แล้วสวมเข้าไปบนนิ้วนางข้างซ้ายของยอดดวงใจ
“พี่เมฆขอหมั้นน้องพรีมไว้ด้วยแหวนวงนี้ก่อนนะครับ กลับมาถึงเมืองไทยเมื่อไร พี่เมฆจะไปสู่ขอน้องพรีมตามที่พี่เมฆสัญญาไว้นะครับ”
“ค่ะพี่เมฆ น้องพรีมจะรอพี่เมฆค่ะ รอเวลาที่จะได้เป็นภรรยาของพี่เมฆ รอเวลาที่เราจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้งและตลอดไป”
อชิรญาไม่ได้สนใจมองแหวนเพชรบนนิ้วนางของเธอ ในยามนี้หัวใจดวงน้อยปักหลักอยู่กับคนรักที่กำลังจะจากกันไกล
แต่ในขณะอชิรญาไม่ได้สนใจมอง ไม่ได้สนใจราคาค่างวดของแหวนเพชรวงงาม สองแม่ลูกกลับตาโต แอบสะกิดกันด้วยความอิจฉาริษยา
โดยเฉพาะมุกรินที่กำมือแน่น กัดฟันดังกรอดๆ ดวงตาลุกเป็นไฟทั้งอิจฉา ทั้งโกรธจัดที่อชิรญาได้รับแหวนเพชรราคาแพงจากผู้กองนภพีท์ ระดับอภิมหาเศรษฐีอย่างผู้กองนภพีท์แล้วคงไม่ซื้อแหวนเพชรราคาสี่-ห้าแสนให้คนรัก หากให้เดา เธอคิดว่าแหวนเพชรวงนี้คงมีราคาไม่ต่ำกว่าสองล้าน
‘โชคดีจริงๆ นะนังพรีม อีกไม่นานก็จะได้ครอบครองทั้งตัวผู้กองนภพีท์ ได้ทั้งสมบัตินับร้อยล้านของผู้กองไปนอนกกสบายเป็นสิบๆ ชาติ แต่มึงอย่าหวังว่าจะได้เป็นซินเดอเรลล่า กู! มุกริน! จะเป็นคนทำลายความสุขของมึงเอง’
ไม่ใช่แค่เพียงเค้นเสียงจ้องจะทำลายความสุขของอชิรญาเพียงเท่านั้น ทว่ามุกรินขบแค้นแผนการทำลายความสุขของอชิรญาไว้เรียบร้อยแล้ว