“ต้นไผ่ๆ ทางนี้ๆ พวกเราอยู่ทางนี้ ได้ยินไหม!!”
เสียงพวกเพื่อนๆของต้นไผ่พากันตะโกนเรียกหญิงสาวแข่งกับเสียงเพลง ทำเอาต้นไผ่ที่กำลังเดินเข้ามาถึงกับยิ้มกว้าง เมื่อเจอเพื่อนๆที่ไม่ได้เจอหน้ากันเกือบๆสิบปี เธอเดินเข้ามาไล่กอดทุกคนอย่างคิดถึง ก่อนที่ปาร์ตี้ต้อนรับการกลับมาของหญิงสาวจะเริ่มขึ้น เพราะเธอนัดกับพวกเพื่อนๆที่นี่เอาไว้ก่อนที่จะกลับไทยเสียอีก จึงพากันมารวมตัวค่อนข้างครบทุกคน
“มาแล้วเหรอ พ่อนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง นึกว่าวันนี้จะไม่ได้เจอแกซะแล้วนะเนี่ย”
มอส หรือ พายัพ เพื่อนสนิทอีกคนของวินเซนต์เอ่ยทักขึ้น เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้ามา
“อืม ว่าแต่แกเถอะ เมียปล่อยออกมาได้ไงว่ะ ทุกทีเห็นตัวติดกันยังกับปลิง”
วินเซนต์เหน็บกลับ ทำเอาทุกคนอดหัวเราะออกมาไม่ได้ เพราะมันคือความจริงที่พายัพกับแฟนสาวจะตัวติดกันตลอดเวลา
“ไอ้นี่ กูไม่ได้มาคนเดียวโว้ย โน่นเมียกูเต้นสะบัดตูดอยู่ด้านล่างกับเพื่อนๆของเขาโน่น เห็นว่าเพื่อนสนิทกลับมาจากเมืองนอก ไม่เจอกันนานเลยพามาเนี่ยแหละ”
พายัพบอกออกมาพร้อมกับเสไปมองกลุ่มของภรรยาสาว ที่กำลังโยกย้ายส่ายสะโพกกันอย่างเมามันส์อยู่ด้านล่าง จนวินเซนต์อดมองตามไม่ได้
“เฮ้ย!!! พี่ไผ่!!!”
แล้วสายตาคมก็ดันไปเห็นเข้ากับต้นไผ่ ที่กำลังเต้นอยู่กลางวงเพื่อนๆของเธอ ทำเอาวินเซนต์ถึงกับลุกขึ้นเดินออกไปทันที จนมาวิน เอกภพและพายัพรีบลุกเดินตามไป แต่วินเซนต์กลับหยุดอยู่แค่ตรงบันไดก่อนที่จะเดินกลับมานั่งลงที่เดิม จนคนที่เดินตามพากันงงกันเป็นแถว แล้วกลับมานั่งลงที่เดิมกันอย่างแปลกใจ
“เป็นอะไรรึเปล่าครับบอส”
มาวินถามออกมาอย่างเป็นห่วง
“ไม่มีอะไร ดื่มต่อเถอะ”
เขาบอกออกมาพร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม จนเพื่อนๆพากันงงกับพฤติกรรมแปลกๆของเขาแต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้ถามออกไป ส่วนวินเซนต์ก็เอาแต่นั่งมองต้นไผ่ที่เต้นอยู่กับเพื่อนๆอย่างใจเย็น เพราะถ้าเขาคิดจะจับเธอ เขาต้องใจเย็นกว่านี้ ตอนนี้ยังไม่เหมาะเป็นอย่างยิ่งเพราะเพื่อนของเธอเต็มไปหมด
“ฉันกลับก่อนนะ”
พอดื่มกันมาได้พักใหญ่ๆ อยู่ดีๆวินเซนต์ก็ลุกขึ้นขอตัวกลับพร้อมกับเดินออกไปทันที
“อะไรของมันว่ะ มาวิน แกพอจะรู้ไหม”
เอกภพหันมาถามมาวินทันทีที่วินเซนต์เดินออกไป
“อืม ก็ไม่มีอะไรนะครับ ทุกอย่างปกติดี”
มาวินบอกออกมาตามที่ตนเองคิด ก่อนที่จะพากันดื่มต่อโดยไม่ได้สนใจเรื่องของวินเซนต์อีก
ส่วนวินเซนต์ที่เห็นต้นไผ่เก็บกระเป๋าแล้วล่ำลาเพื่อนๆก่อนจะเดินออกมาเขาจึงรีบบอกลาเพื่อนๆแล้วเดินตามออกมาทันที เพราะขั้นตอนแรกเขาต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าเธอพักอยู่ที่ไหน
“อ่าว นี่มัน...หึหึ”
เมื่อขับรถตามมาจนถึงที่พักของต้นไผ่ วินเซนต์ถึงกับยิ้มร้ายออกมาก่อนที่จะจอดรถแล้วเดินตามเธอเข้าไป
“ผมขอกุญแจห้องของแขกคนเมื่อกี้หน่อย”
วินเซนต์เดินมาหน้าเคาท์เตอร์ต้อนรับก่อนจะบอกพนักงานให้เอากุญแจห้องของต้นไผ่มาให้เขา ทำเอาพวกพนักงานถึงกับแปลกใจ เพราะที่จริงมันเป็นกฎว่าห้ามให้เด็ดขาด แต่นี่วินเซนต์เป็นเจ้าของ ไม่ให้ก็คงไม่ได้
“พักกี่คืน”
เขายื่นมือไปรับคีย์การ์ดมาแล้วถามขึ้น
“ไม่มีกำหนดค่ะ”
พนักงานต้อนรับบอกออกมา จากนั้นวินเซนต์ก็เดินยิ้มออกไป เพราะยังไงต้นไผ่ก็คงหนีเขาไม่รอดแน่ มันช่างเป็นเรื่องบังเอิญเสียจริงเธอดันมาพักที่โรงแรมของเขาเสียได้
ส่วนต้นไผ่ พอเข้ามาในห้องได้เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เธอจึงรีบกดรับสาย
“ว่าไงเดียร์...ไผ่กำลังจะอาบน้ำ...อ้อพึ่งกลับมาจากผับพอดีเพื่อนๆนัดกันสังสรรค์นิดหน่อยน่ะ...โอเค เดี๋ยวไผ่อาบน้ำเสร็จแล้วจะโทรหา ค่ะ”
พูดเสร็จต้นไผ่ก็วางสายไป พร้อมกับเดินถอดเสื้อผ้าเข้าไปอาบน้ำ โดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้วินเซนต์ได้เข้ามาในห้องของเธอเรียบร้อยแล้ว
วินเซนต์เดินไปสำรวจกระเป๋าเสื้อผ้าของต้นไผ่ ซึ่งมีทั้งหมดสามใบ โดยมีใบใหญ่ถึงสองใบ นั่นแสดงว่าเธอต้องอยู่ไทยอีกนานแน่นอน เขายืนรอจนกระทั่งได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดออกมา
“ว๊าย!!!!”
ต้นไผ่ร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วเจอกับวินเซนต์ยืนมองเธออยู่
“เซนต์!!!”
ต้นไผ่เรียกชื่อของคนตรงหน้าออกมาอย่างตกใจ ก่อนที่จะหันหลังวิ่งกลับเข้าไปในห้องน้ำ แต่ก็ช้าไปกว่าวินเซนต์ที่ตั้งท่ารออยู่ก่อนแล้ว เขาวิ่งเข้าไปรวบกอดต้นไผ่เอาไว้ก่อนที่เธอจะได้วิ่งเข้าห้องน้ำไป
“อ๊าย!! เซนต์ปล่อยพี่เดี๋ยวนี้นะ อ๊าย! บอกให้ปล่อยไง!! เซนต์!”
ต้นไผ่บอกออกมาเสียงดัง ยิ่งเธอพยายามดิ้น ไอ้ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่พันรอบกายก็ร่นลงมาจนเกือบจะหลุดอยู่แล้ว
“หึหึ ปล่อยให้โง่อะสิ ผมรอพี่มาตั้งนาน สุดท้ายพี่ก็กลับมา พี่ใจร้ายมากเลยนะที่ทิ้งผมไปแบบนั้น”
วินเซนต์บอกออกมาพร้อมกับกอดกระชับร่างบางของต้นไผ่เอาไว้แน่น จนต้นไผ่ถึงกับหยุดดิ้น เมื่อได้ยินในสิ่งที่เขาพูดออกมา
“เซนต์ ปล่อยพี่ก่อน แล้วนี่ เข้ามาได้ยังไง”
ต้นไผ่ที่กำลังสับสนมึนงงกับเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นอดถามออกมาไม่ได้ว่าเขาเข้ามาในห้องของเธอได้ยังไง ในเมื่อมันเป็นระบบล็อกใช้คีย์การ์ดอย่างดี
“หึ ทำไมผมจะเข้ามาไม่ได้ ผมเข้าได้ทุกห้องที่ผมอยากเข้า เพราะนี่มันโรงแรมของผม”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด ต้นไผ่ถึงกับตกใจ นี่เธออุตส่าไม่กลับไปนอนบ้านเพื่อที่ไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอกลับมาทำงานที่ไทย แต่ดันมาพักโรงแรมของเขา จุดไต้ตำตอแท้ๆ แต่ก่อนที่ทั้งสองจะได้คุยอะไรกันต่อ เสียงโทรศัพท์ของต้นไผ่ก็ดังขึ้นซะก่อน
ปิ๊บ ปิ๊บ ปิ๊บ
“เซนต์ พี่ขอรับสายก่อนนะ คือว่าสายสำคัญ...”
ต้นไผ่บอกออกมา แต่วินเซนต์ไม่ยอม
“จะมีใครสำคัญกว่าผมอีกเหรอ หึ ใช่สิ พี่ทิ้งผมไปตั้งหลายปี คงไม่เหมือนเดิมแล้วสินะ”
วินเซนต์บอกออกมาทำเอาต้นไผ่ถึงกับมึนงงกับคำพูดของเขา เธอเนี่ยนะทิ้งเขา บ้าไปแล้ว
“นี่เซนต์ พอสักที เรื่องของเรามันไม่มีอะไรทั้งนั้น มันยังไม่เคยเกิดขึ้นด้วยซ้ำ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วก็ปล่อยพี่ ออกไปจากห้องพี่ด้วย ไม่งั้นพี่ต้องแจ้งความว่ามีคนบุกรุก หรือจะเอาอย่างนั้น ห๊ะ”
เมื่อได้ยินที่ต้นไผ่พูด วินเซนต์ถึงกับเลือดขึ้นหน้า
“ไม่ได้เป็นอะไรกันเหรอ หรือต้องให้ผมย้ำเตือนหลายๆรอบว่าเราเป็นอะไรกัน!”
เมื่อพูดจบ วินเซนต์ก็อุ้มต้นไผ่ขึ้นพร้อมกับเดินตรงมาที่เตียงใหญ่กลางห้องทันที