เดนิคอฟ ก้าวเดินด้วยท่วงท่าสง่างาม มือทั้งสองสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ใบหน้าคมเข้มตั้งตรงเย่อหยิ่งทะนงตนเป็นที่สุด ขณะก้าวขึ้นไปบนอัฒจันทร์ ตรงไปยังที่นั่งชั้นวีไอพีของตนเอง
ระดับอภิมหาเศรษฐี กุมบังเ**ยนบริษัทผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ และอากาศยานรายใหญ่แต่เพียงผู้เดียวในมอสโก จะให้นั่งลุ้นทีมของตัวเองพุ่งทะยานไปคว้าธงลายหมากรุก เหมือนผู้ชมที่ซื้อบัตรไม่กี่พันยูโรก็หาใช่ไม่! ระดับเดนิคอฟแล้วต้องมีแชมเปญรสนุ่มผ่านการหมักมานานนับสิบๆ ปี ซึ่งแน่นอนว่าราคาต่อขวดต้องแพงหูฉี่ มาจิบเคล้าอารมณ์ขณะชมการแข่งขันรถฟอร์มูล่าวันด้วย
ทันทีที่ผู้เป็นเจ้านายทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้หนานุ่ม อีวานก็รีบรินแชมเปญเย็นเจี๊ยบใส่แก้วทรงดอกทิวลิปมาเสิร์ฟให้ในทันที
“แชมเปญ ครับเจ้านาย”
“ขอบใจ”
เดนิคอฟเอ่ยสั้นๆ รับแชมเปญมากระดกเข้าลำคอแบบรวดเดียวหมดแก้ว ก่อนจะยื่นแก้วให้อีวานรินน้ำสีอำพันรสนุ่มคอให้ใหม่ ขณะเดียวกันนั้นก็ไม่ลืมเอ่ยถามถึงเพื่อนรักเพื่อนตายของตนเองด้วย
“อีวาน สองเสือมาถึงสนามแข่งหรือยัง”
“ยังครับเจ้านาย” อีวานปฏิเสธทันควัน เพราะรู้ดีว่าเจ้านายกำลังเอ่ยถามถึงใครอยู่
เดนิคอฟตีสีหน้าหงุดหงิดให้เห็น ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาหลุบสายตาคมกริบจ้องมองเวลาบนนาฬิกาคาร์เทียร์เรือนแพง เมื่อเห็นว่าเหลืออีกห้านาทีก็จะถึงเวลานัดหมาย จึงเอ่ยถามอีวานอีกครั้ง
“นายแน่ใจนะ ว่าได้ส่งบัตรเชิญให้สองเสือแล้ว”
ดวงตาคมดุจ้องมองเขม็งต้องการได้ยินคำตอบว่าอีวานได้ทำตามคำสั่งของเขา ที่ได้สั่งให้อีกฝ่ายส่งบัตรเชิญไปให้เพื่อนรักทั้งสองคน
อีวานพยักหน้ารับคำ พร้อมกับเอ่ยตอบว่า “ผมนำบัตรเชิญไปส่งถึงมือเลยครับ เจ้านาย”
บัตรเชิญที่ส่งถึงสองเสือ ผู้เป็นเพื่อนรัก เพื่อนตายของเดนิคอฟ ซึ่งอยู่คนละทวีป คนละประเทศ ไม่ได้ถูกส่งผ่านระบบสื่อสารอันทันสมัย ไม่ได้ถูกส่งผ่านแบบจดหมายระหว่างประเทศ แต่! อีวานต้องขึ้นเครื่องบินจากมอสโก บินตรงดิ่งไปยังลอนดอน เพื่อส่งบัตรเชิญให้ถึงมือของหนึ่งในสองเสือ จากนั้นก็ขึ้นเครื่องจากลอนดอนต่อไปยังมหานครนิวยอร์ก ส่งบัตรเชิญอีกหนึ่งใบให้กับอีกหนึ่งเพื่อนรักของเดนิคอฟ แค่เพียงบัตรเชิญสองใบ ทำให้เขาต้องบินเกือบครึ่งร้อยชั่วโมง หมดค่าเครื่องบินไปมากโข ทว่าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับมหาเศรษฐีอย่างเดนิคอฟ
คำตอบที่ได้รับจากอีวาน ไม่ได้สร้างความพึงพอใจให้กับเดนิคอฟ เพราะเหลืออีกไม่กี่นาที การแข่งขันก็จะเริ่มแล้ว แต่สองเสือยังไม่โผล่หน้ามาให้เห็นสักที
“เมื่อไรจะมาถึงสักทีวะ”
เดนิคอฟบ่นอุบทั้งโมโห ทั้งผิดหวังในตัวเพื่อนรัก จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทร.หาสองเสือทั้งคู่ เมื่อปลายทางคนแรกกดรับสายแล้ว แต่เดนิคอฟยังไม่กรอกเสียงใดๆ ลงไป เจ้าพ่อหนุ่มกดโทร.ออกอีกหนึ่งหมายเลข พออีกหนึ่งปลายทางกดรับสาย ก็เลือกเมนูบนโทรศัพท์มือถือเป็นการประชุมสามสาย จากนั้นก็เค้นเสียงถามห้วนๆ โดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ทักทายเพื่อนรักให้เสียเวลา
“อีกห้านาที การแข่งก็จะเริ่มแล้ว พวกนายอยู่ไหนวะ”
“อีกตั้งห้านาที รุกกี้ถึงจะเหยียบคันเร่งมิดตีน ‘คุณเดนิคอฟ’ จะรีบร้อนไปไหนครับ” ไบรอัน เคลย์ตันตอบกลับเสียงเรียบๆ อย่างใจเย็น คล้ายกับไม่ใช่เรื่องปัจจุบันทันด่วนอะไรให้ต้องกระวนกระวายใจ
และประโยคดังกล่าวสามารถเรียกเสียงสนับสนุนให้อีกหนึ่งเสือร้ายหัวเราะร่วนได้เป็นอย่างดี
“นั่นน่ะสิครับ เหลือเวลาอีกตั้งห้านาที จะรีบไปไหนท่าน ถ้ารีบขนาดนั้นทำไมไม่นัดพวกกระผมมาตั้งแต่เมื่อวานละครับท่าน”
เจคอบ เนย์สมิธ ยียวนเพื่อนซี้ด้วยสำนวนกวนเข้าไส้ ตามประสาพ่อหนุ่มขี้เล่นอารมณ์ดี
เดนิคอฟกัดฟันดังกรอดๆ อย่างจงใจให้ทั้งสองเสือได้ยินเต็มที่ ก่อนจะคำรามเสียงลอดไรฟันต่อว่าเพื่อนรักด้วยความโมโห
“ตอนนี้เหลือสี่นาทีแล้วโว้ย! ถ้าพวกนายไม่โผล่หน้ามาให้เห็นในอีกสี่นาทีข้างนี้ ฉันจะ...”
“จะทำไมครับท่าน”
พ่อหนุ่มเจ้าอารมณ์เค้นเสียงคาดโทษไม่ทันจบประโยค เจคอบก็ชิงโพล่งขึ้นขัดจังหวะ ก่อนจะหัวเราะร่วนเมื่อได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยประโยคถัดมา
“ถ้าพวกนายไม่มาภายในสี่นาที ฉันจะตามไปเหยียบถึงลอนดอน ตามด้วยนิวยอร์ก เอาให้จมดิน มิดตีนกันไปข้าง”
“กลัวตายล่ะ” เจคอบเบ้ปากใส่โทรศัพท์
“นั่นสิ นึกว่าตัวเองมีมือมีเท้าอยู่คนเดียวหรือไง”
ไบรอันเสริมขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความขี้เล่นที่น้อยคนนักจะเคยได้ยินน้ำเสียงเช่นนี้ นอกจากเพื่อนสนิทอย่างเดนิคอฟและเจคอบเท่านั้น
“สองรุมหนึ่งแล้วจะหนาว” ได้ทีเจคอบก็ขู่กลับบ้าง
“ท้าท้ายแบบนี้ อยากโดนเหยียบจริงๆ หรือไงวะ”
“ฮ่าๆๆๆ”
ทั้งสองเสือร้ายปล่อยเสียงหัวเราะออกมาแทบจะพร้อมๆ กัน มิได้หวาดกลัวกับคำข่มขู่ของเดนิคอฟสักนิด และเสือร้ายแห่งมหานครนิวยอร์กก็เป็นฝ่ายเอ่ยบอกให้ปีศาจแห่งมอสโกอารมณ์เย็นลงบ้าง
“เห็นทีว่าเดนิคอฟจะตามมาเหยียบเพื่อนเลิฟไม่ได้แล้ว หยุดตีหน้ายักษ์ กัดฟันกรอดๆ แล้วแหงนใบหน้าหล่อๆ ระดับเทพบุตร ขึ้นมองบนท้องฟ้าทางเก้านาฬิกาหน่อยสิครับ คุณเดนิคอฟ”
เดนิคอฟทำตามคำพูดของเสือร้ายแห่งมหานครนิวยอร์กในทันที พอเงยใบหน้าขึ้นมองตามตำแหน่งที่เพื่อนรักบอก ก็เห็นไบรอัน เคลย์ตัน ผู้ได้รับฉายาจากสาวๆ ทั่วมหานครนิวยอร์กว่าเป็น ‘ราชันย์ร้อยลีลา’ และที่ขาดไม่ได้ในก๊วนของสามเสือร้ายก็คือ เจคอบ เนย์สมิธ ‘เทพบุตรพร่าสวาท’ บุรุษหนุ่มผู้ทรงอิทธิพลแห่งสหราชอาณาจักร กำลังโบกมือให้เขาอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ที่กำลังบินวนอยู่เหนือศีรษะ ก็ต้องหัวเราะร่วน ก่อนจะเค้นเสียงด่าด้วยความหมั่นไส้จับใจ
“ไอ้พวกบ้า! เว่อร์ซะไม่มี มาสนามโซซิแค่นี้ก็ต้องขับเฮลิคอปเตอร์มาด้วย”
“ไม่ได้สิครับท่าน จะเปิดตัวทั้งทีก็ต้องให้เอิกเกริกกันหน่อย ไม่เช่นนั้นพวกสาวๆ ก็รุมตอมท่านคนเดียวสิครับ”
เจคอบยังคงยั่วอีกฝ่ายไม่เลิก