ตลอดทางที่จินหลันออกมาหาซื้ออาหารเธอไม่ได้เงยหน้ามองผู้คนเหมือนที่ทำมาตลอด จึงไม่เห็นท่าทางที่แปลกประหลาดของคนอื่นๆ เพราะวันนี้ดูเหมือนการปรากฏตัวของเธอจะทำให้เกิดความตกตะลึงกับผู้คนมากขึ้นกว่าเดิม
จนเมื่อเถ้าแก่เนี้ยคนงามเดินจากไปแล้ว เสียงพูดคุยที่ตอนแรกเป็นเพียงการพูดคุยกระซิบกระซาบกันเบาๆ ก็เริ่มกลายเป็นการพูดคุยด้วยเสียงอันดังอย่างคนที่เพิ่งหลุดออกจากความตื่นตะลึง ส่วนเรื่องที่พูดคุยก็คือวันนี้เถ้าแก่เนี้ยเจ้าของร้านแปลกๆ ที่ตั้งอยู่ท้ายตลาดฝั่งประตูเมืองทิศใต้ดูเหมือนจะงดงามมากขึ้นกว่าเดิม แต่ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกสนใจมากยิ่งขึ้นก็คือวันนี้เถ้าแก่เนี้ยคนงามมีพลังปราณแล้ว
บนแผ่นดินแห่งนี้คนที่มีพลังปราณและไม่มีพลังปราณสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างปกติ แต่ความเหลื่อมล้ำของคนทั้งสองแบบก็ยังคงมีอยู่ บ้านไหนมีเด็กที่เกิดมาแล้วมีพลังปราณก็สามารถเชิดหน้าชูตาขึ้นได้ ส่วนคนที่ไม่มีพลังปราณถึงแม้จะไม่ถึงกับถูกตราหน้าว่าเป็นคนไร้ค่า แต่โอกาสเจริญก้าวหน้าในชีวิตก็มีน้อยกว่าคนที่มีพลังปราณ นอกจากได้เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะถึงจะพอมีหน้ามีตาอยู่บ้าง
ตอนแรกที่จินหลันปรากฏตัวที่ตลาดท้ายเมืองแห่งนี้นอกจากความงดงามแล้ว ผู้คนก็ไม่ได้สนใจอะไรในตัวของเธออีก แต่ในวันนี้กลับต่างออกไปเพราะเรื่องที่เหล่าผู้มีพลังปราณยืนยันว่าตอนนี้เถ้าแก่เนี้ยคนงามถึงกับเป็นผู้มีพลังปราณแล้ว
เรื่องการเปิดจุดลมปราณต้องใช้วิธีกินยาชำระไขกระดูกพร้อมกับยาเปิดจุดลมปราณอย่างที่จินหลันทำคนอื่นๆ บนแผ่นดินนี้ก็รู้เช่นกัน เพียงแต่ยาทั้งสองต้องเป็นยาระดับสูงเท่านั้นผู้ใช้ถึงจะสามารถเปิดจุดลมปราณได้สำเร็จ ถ้าเป็นยาระดับต่ำกว่านั้นไม่แน่ว่าจะทำสำเร็จ และบางคนก็อาจไม่สามารถทนต่อความทรมานจากการชำระไขกระดูกจนทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ แต่ประเด็นสำคัญก็คือยาระดับสูงทั้งสองอย่างหายากและมีราคาสูงมาก
เพราะฉะนั้นการที่เถ้าแก่เนี้ยคนงามสามารถเปิดจุดลมปราณได้แสดงว่าอีกฝ่ายต้องใช้ยาในระดับสูง เริ่มตั้งแต่ที่หญิงสาวย้ายมาอยู่ที่นี่ ซื้อร้านค้าและทำการปรับปรุงจนดูงดงามแปลกตาภายในระยะเวลาไม่นาน ทุกคนต่างก็คิดไว้อยู่แล้วว่าตัวตนของหญิงสาวคงไม่ธรรมดาแน่นอน แล้วยิ่งมาวันนี้เรื่องที่อีกฝ่ายเปิดจุดลมปราณได้ก็ยิ่งเป็นการยืนยันว่าสิ่งที่พวกเขาคิดเรื่องฐานะและเบื้องหลังของอีกฝ่ายไม่น่าจะธรรมดาก็น่าจะเป็นเรื่องจริง
ส่วนเถ้าแก่เนี้ยคนงามที่ตอนนี้ไม่ได้รับรู้ว่าคนอื่นๆ กำลังมีความคิดเห็นเช่นไรเกี่ยวกับตนเอง เพราะถ้ารู้เธอคงได้แต่หัวเราะกลับไปพร้อมกับยอมรับว่าเบื้องหลังของเธอไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะนั่นก็คือระบบไร้เทียมทานที่ปากคอร้ายกาจเป็นที่สุดนี่เอง
จินหลันนั่งกินอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย พอถึงเวลาก็เดินไปพลิกป้ายเปิดร้าน แล้วกลับมานั่งทบทวนเรื่องเกี่ยวกับพลังปราณของโลกใบนี้ ตอนนี้เธอมีพลังปราณอยู่ในขั้น 3 เริ่มต้น ซึ่งพลังปราณของโลกใบนี้แบ่งออกเป็น 12 ขั้นได้แก่
ขั้นที่ 1 ก่อกำเนิด พลังปราณสีเหลือง
ขั้นที่ 2 หลอมรวม พลังปราณสีส้ม
ขั้นที่ 3 พื้นฐาน พลังปราณสีชมพู
ขั้นที่ 4 ทหาร พลังปราณสีแดง
ขั้นที่ 5 แม่ทัพ พลังปราณสีเขียว
ขั้นที่ 6 จอมยุทธ์ พลังปราณสีฟ้า
ขั้นที่ 7 ปรมาจารย์ พลังปราณสีน้ำเงิน
ขั้นที่ 8 ราชา พลังปราณสีม่วง
ขั้นที่ 9 จักรพรรดิ พลังปราณสีเทา
ขั้นที่ 10 เทพเซียน พลังปราณสีเงิน
ขั้นที่ 11 อมตะ พลังปราณสีทอง
ขั้นที่ 12 นิรันดร์ พลังปราณสีดำ
ซึ่งในแต่ละขั้นของพลังปราณยังแบ่งออกเป็นระดับ ต่ำ กลาง สูง ซึ่งจะสังเกตได้จากความเข้มข้นของสีพลังปราณที่แผ่ออกมานั่นเอง แต่ถึงแม้พลังปราณจะมีถึง 12 ขั้น แต่บนแผ่นดินนี้ผู้ที่มีพลังปราณสูงสุดกลับมีถึงแค่ระดับ 8 ราชาเท่านั้น และจินหลันรู้มาว่าในแคว้นแห่งนี้ก็มีอยู่ 2 คนด้วยกัน คนหนึ่งคือองค์ฮ่องเต้กับอีกคนเป็นอาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาหลวงชิงหลง
ตามที่เธออ่านมาจากหนังสือตลอดเวลาหนึ่งหมื่นปีที่ผ่านมานี้ ความหนาแน่นของพลังปราณในอากาศค่อยๆ ลดน้อยลง ทำให้เด็กที่เกิดมาส่วนใหญ่ไม่มีพลังปราณและคนที่ไม่สามารถฝึกฝนพลังปราณได้ยิ่งมีจำนวนที่มากขึ้น และเมื่อความหนาแน่นของพลังปราณในอากาศมีน้อยลง สมุนไพรที่จำเป็นต้องได้รับพลังปราณคอยหล่อเลี้ยงก็ไม่สามารถเติบโตขึ้นมาได้ ยาที่ใช้สำหรับการฝึกฝนพลังปราณกลายเป็นของหายากและมีราคาสูง จึงไม่แปลกที่ชาวบ้านจะตื่นตกใจที่เธอสามารถเปิดจุดลมปราณและยังฝึกฝนจนถึงระดับ 3 ได้ภายในคืนเดียว แต่เรื่องนี้จินหลันไม่ได้รับรู้ไปกับพวกเขาด้วย
เพราะตอนนี้เธอกำลังตกตะลึงกับสินค้าชิ้นใหม่ที่เพิ่งจับขึ้นมาได้อยู่ภายในห้องเก็บของของร้าน เมื่อวานเธอมัวแต่ตื่นเต้นกับการที่จะได้ฝึกฝนลมปราณจึงลืมมากดสุ่มสินค้า และเมื่อนึกขึ้นได้เธอก็เลยเข้ามาทำการสุ่มสินค้าชิ้นใหม่ และนี่ก็เป็นที่มาของความตกตะลึงที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้
[สินค้า : อุปกรณ์ระดับทั่วไป
ชื่ออุปกรณ์ : แหวนจัดเก็บ (แหวนมิติ)
ประเภท : ระดับทั่วไป
วัสดุ : แร่เงินบริสุทธิ์
คุณสมบัติ : ขนาดพื้นที่ 5×5 ตารางเมตร
คงสภาพสิ่งของ
จดจำผู้ใช้
ราคาขาย : 100 เหรียญหยก
อายุการใช้งาน : 1 ปี (สามารถต่ออายุการใช้งานได้ปีละ 100 เหรียญหยกสูงสุด 10 ปี)
จำนวนสินค้า : ครั้งละ 1 วง เติมสินค้าทุก 10 วัน]
จินหลันอ่านรายละเอียดของสินค้าอยู่นานถึงได้สติ เพราะสินค้าชิ้นนี้ทำให้เธอประหลาดใจจริงๆ ถึงแม้โลกใบนี้จะแฟนตาซี มีพลังปราณ และอะไรหลายๆ อย่างที่แตกต่างไปจากโลกเดิม เธอก็สามารถเข้าใจและยอมรับมันได้จากการที่ได้อ่านหนังสือบนชั้นเหล่านั้น แต่เรื่องสิ่งของที่เป็นมิตินับได้ว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เธอตกใจปนดีใจไม่ได้ เพราะมันเป็นสิ่งของที่หายากนั่นเอง
สิ่งของจำพวกมิติเก็บของทั้งหลายบนโลกใบนี้ก็พอมีอยู่ แต่การที่จะสร้างมันขึ้นมาไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากจะต้องมีพลังปราณที่สูงมากแล้ว ยังมีในเรื่องของการเขียนอักขระเพื่อกำกับลงไปบนสิ่งของมิติเหล่านั้น ยิ่งให้มีความสามารถมากก็ยิ่งซับซ้อนมาก แต่นี่ร้านค้าเล็กๆ ของเธอถึงกับมีแหวนมิติที่มีคุณสมบัติถึง 3 อย่างจะไม่ให้เธอตกใจได้อย่างไร
"ระบบถ้าฉันวางขายแหวนจัดเก็บนี่ในร้าน ฉันจะยังปลอดภัยอยู่ใช่ไหม" จินหลันเอ่ยถามระบบเสียงเบาเหมือนคนกำลังเพ้ออยู่มากกว่ามีสติครบถ้วนดี
'เตือนความทรงจำของโฮสต์ ระบบรักษาความปลอดภัยของร้านค้าไร้เทียมทานเทียบเท่ากับคนที่มีพลังปราณระดับ 10 เป็นอย่างต่ำ เพราะฉะนั้นต่อให้คนที่มีพลังปราณระดับ 8 ที่เป็นระดับสูงสุดของแผ่นดินนี้ยกกันมาเป็นสิบเป็นร้อยคนก็ยังไม่สามารถทำให้ร้านเกิดความเสียหายหรือแม้แต่สร้างรอยขีดข่วนได้ ขอโฮสต์โปรดวางใจ'
เมื่อได้ฟังสิ่งที่ระบบบอกจินหลันก็เหมือนจะสบายใจขึ้น บอกตามตรงเธอเชื่อมั่นตามคำบอกของระบบอย่างไม่มีข้อสงสัย
จินหลันเดินออกมาจากห้องเก็บของก็มองเห็นตู้กระจกใบเล็กวางอยู่บนเคาน์เตอร์คิดเงิน ในนั้นมีแหวนเงินหนึ่งวงที่สวมอยู่บนแท่งแก้วสำหรับโชว์สินค้า ด้านข้างมีป้ายเขียนบอกรายละเอียดของสินค้าเอาไว้
"ระบบคุณบอกว่าฉันสามารถนำสินค้าในร้านไปใช้ได้โดยไม่เสียเงิน ถ้าอย่างนั้นแหวนวงนี้ฉันก็เอามาใช้งานเองได้ใช่ไหม" จินหลันที่นั่งมองแหวนในตู้โชว์อยู่ๆ ก็มีความคิดนี้ขึ้นมา ถ้าเธอจะเอาแหวนวงนี้ไปใช้ก่อนก็คงไม่เป็นไร เพราะอีก 10 วันก็มีวงใหม่มาเธออยากสัมผัสความแฟนตาซีของแหวนมิติเหมือนนางเอกนิยายคนอื่นบ้าง
'ด้วยฐานะของเถ้าแก่เนี้ยแห่งร้านค้าไร้เทียมทานจะน้อยหน้ากว่าผู้อื่นได้อย่างไร ระบบขอมอบอุปกรณ์ระดับสูงให้แก่โฮสต์ เป็นแหวนจัดเก็บมีพื้นที่ขนาด 10×10 ตารางเมตร ตัวแหวนทำจากหยกจักรพรรดิเนื้อดีสีเขียวเข้ม สามารถใช้เก็บสิ่งของต่างๆ พร้อมคงสภาพเดิมยกเว้นสิ่งมีชีวิต พร้อมกับระบบจดจำเจ้าของ ป้องกันการหลุดหาย และผู้อื่นไม่สามารถแย่งชิงไปได้ ที่สำคัญอายุการใช้งานได้ตลอดชีพของโฮสต์'
"ระบบทำไมคุณถึงใจดีมอบของรางวัลชิ้นนี้ให้แก่ฉันโดยที่ไม่ต้องทำภารกิจ เพราะมันมีเงื่อนไขอะไรบางอย่างใช่ไหม?" จินหลันตอนแรกก็ดีใจที่ได้ของฟรีมาใช้ แต่พอได้ฟังคุณสมบัติของรางวัลที่ได้ก็รู้สึกแปลกๆ นอกจากวัสดุจะเป็นหยกที่มีราคาแพงแล้ว คุณสมบัติที่ติดมาก็เรียกได้ว่าดีมาก ยิ่งอายุการใช้งานยาวนานตลอดชีวิตของเธอ ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกไม่ไว้วางใจกับของรางวัลชิ้นนี้ เธอไม่เชื่อว่าระบบจะมอบมันให้เธอโดยไม่มีภารกิจหรืออะไรเป็นการตอบแทน
'...' ระบบไม่ได้ตอบอะไรเธอกลับมาแต่ขึ้นหน้าจอระบบมาให้เธออ่านแทน
[ภารกิจลับ : อยู่ใกล้ภูเขาที่ยิ่งใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของแผ่นดิน เถ้าแก่เนี้ยผู้เก่งกาจจะไม่ออกไปเที่ยวชมได้อย่างไร
เงื่อนไข : ขึ้นไปที่หมายซานเข้าสู่ป่าชั้นกลาง แล้วนำหลันฮวาสีเลือดกลับมา
ของรางวัล : แหวนจัดเก็บระดับสูง
ระยะเวลา : 3 เดือน
บทลงโทษ : แหวนจัดเก็บที่ได้รับจะถูกยึดคืน
ข้อควรระวัง : ควรมีระดับพลังปราณขั้น 5 เป็นอย่างต่ำ และอาจมีสัตว์อสูรคอยเฝ้าอยู่]
พอจินหลันได้อ่านภารกิจที่ระบบมอบให้ก็ได้แต่กลอกตาขึ้นฟ้า เธอคิดเอาไว้แล้วว่าระบบเขี้ยวลากดินขนาดนี้อยู่ๆ จะมามอบของรางวัลระดับสูงแบบนี้ให้เธอโดยไม่ต้องทำอะไรได้อย่างไร แต่จากภารกิจที่ระบบมอบให้เธอก็รับรู้ได้ว่ามันต้องอันตรายมากแน่ๆ ยังไม่ต้องพูดถึงการเข้าไปในป่าชั้นกลางและอาจมีสัตว์อสูรที่คอยเฝ้าอยู่ แค่เธอต้องมีพลังปราณถึงขั้น 5 เป็นอย่างต่ำก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว
ในระหว่างที่เธอกำลังขบคิดว่าควรจะรับทำภารกิจนี้ดีไหม บนเคาน์เตอร์คิดเงินก็ปรากฏถาดเงินใบเล็กที่ปูด้วยผ้ากำมะหยี่สีแดง บนผ้ามีแหวนหยกสีเขียวเข้มมีริ้วสีทองแทรกอยู่ในเนื้อหยกทำให้แหวนดูแล้วสวยงามและลึกลับ สะกดจิตใจของเธอให้รู้สึกหลงใหลจนเผลอตัวหยิบแหวนวงนั้นขึ้นมาดูใกล้ๆ และยังไม่ทันที่เธอจะได้ตั้งสติคิดอะไร ก็สวมแหวนวงนั้นลงบนนิ้วชี้ข้างซ้ายของตนเองไปแล้ว
'เมื่อโฮสต์ทำการสวมแหวนแล้วถือว่าเป็นการยืนยันตกลงรับทำภารกิจลับ ระบบจดจำเจ้าของแหวนเปิดใช้งานแล้ว'
หลังจากสิ้นเสียงของระบบดวงตาที่ดูเคลิบเคลิ้มของจินหลันก็กลับมาเป็นปกติ และพอทบทวนสิ่งที่ระบบเอ่ยบอกใบหน้าของเธอก็เริ่มซีดลง และรู้ตัวแล้วว่าเธอได้ถูกระบบล่อลวงให้รับภารกิจอันตรายไปเสียแล้ว ไม่น่ามัวแต่ชื่นชมหลงใหลแหวนอยู่เลย
ในเมื่อเธอเผลอรับภารกิจมาแล้ว แถมแหวนจัดเก็บก็ถูกใจเธอเป็นอย่างมาก ก็คงได้แต่ก้มหน้ารีบฝึกฝนพลังปราณให้เร็วที่สุด ช่วงนี้คงต้องบอกลาเตียงนอนไปก่อนอย่างน้อยๆ สองเดือนเพื่อเข้ามิติฝึกฝน เธอต้องให้พลังปราณถึงขั้น 6 ให้ได้ ถึงจะยอมเข้าป่าไปตามหาหลันฮวาสีเลือดกลับมาให้ระบบ เพราะระยะการปกป้องของร้านค้าอย่างไรก็ไม่มีทางเข้าไปถึงป่าชั้นกลางได้ เพราะแค่ป่ารอบนอกก็มีระยะทางหลายกิโลเมตรแล้ว
ไหนจะเรื่องที่อาจจะต้องต่อสู้กับสัตว์อสูรที่เฝ้าดอกไม้นี่อยู่อีก แล้วจินหลันก็คิดถึงอีกเรื่องขึ้นมาได้ ตัวเธอมีแต่พลังปราณแต่ไม่มีวิชาการต่อสู้เลยสักอย่างแล้วจะทำอย่างไรดี
'โฮสต์สามารถเปิดใช้งานโหมดฝึกฝนการต่อสู้ภายในมิติฝึกฝนได้..โปรดตรวจสอบ'
เสียงของระบบดังขึ้นเรียกสติของเธอให้กลับคืนมา จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปในมิติฝึกฝนเพื่อตรวจสอบแล้วเรียกโหมดฝึกฝนการต่อสู้ขึ้นมา ซึ่งก็เป็นไปตามที่ระบบบอก เธอสามารถเลือกฝึกฝนการต่อสู้ภายในมิตินี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้อาวุธหรือการใช้พลังปราณ จึงค่อยวางใจให้สงบลงได้อีกครั้ง