บทที่ 1 (เธอแสนเก่ง)
บทที่ 1 (เธอแสนเก่ง)
ณ มหาวิทยาลัยนอช
นายพลหนุ่มวัย 28 ปี นามว่า มาคัส ผู้มีอิทธิพลปกครองเมืองสูงสุดแห่งเมือง ลูซาน เมืองทางตอนเหนือของประเทศจีน
“หน้าตาหล่อเหลา..ส่วนสูงประมาณ 185cm..ดวงตาคมดุจเหยี่ยว..จมูกโด่งเป็นสันรับกับปากหยักเข้ารูป(เพอร์เฟคเกินไปแล้ววว)เป็นที่หมายปองของสาวๆทั่วทั้งเมือง..เก่งรอบด้านทั้งบุ๋นและบู๊ ทั้งโหด เหี้ยม อำมหิต นิสัยดิบ เถื่อน"
((จนได้รับฉายาว่า "ซาตานมัจจุราช"))
“เล่าเป็นนิยายเลยนะแกยัยใบบัว..เว่อร์มากแก"
เสียงใสๆของต้นข้าวพูดขึ้น:)
(ต้นข้าวในวัย 19 ปี ดาวคณะนิเทศศาสตร์ หน้าตาสวยใส น่ารัก ตาโต ขนตายาวบ๊องแบ๊วเหมือนตุ๊กตา ส่วนสูง 162 cm. มีลักยิ้ม ยิ้มทีโลกละลาย ดาเมจความน่ารักเกินต้านมาก ทำเอาหนุ่มๆใจละลายทั่วทั้งมหาลัย)
“ป่าวซะหน่อยแก..ที่ฉันพูดมาทั้งหมดคือเรื่องจริง..ฉันค้นหาประวัติเมืองลูซานไว้ให้แกนะต้นข้าวเพราะอีก 2 อาทิตย์แกก็ต้องเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนไปอยู่มหาลัยอันดับ 1 ของเมืองลูซานแล้ว เมืองที่มีนายพลหนุ่มรูปหล่อเป็นผู้ปกครองเมือง"
ใบบัวเพื่อนสาวคนสนิทของต้นข้าวพูดถึงนายพลหนุ่มด้วยน้ำเสียงปลื้มปริ่ม สายตาเป็นประกาย
“เฮ้อ.." เสียงถอนหายใจของต้นข้าวดังขึ้น
พร้อมบ่นงึมงัม
“ฉันไม่อยากเป็นผู้ถูกเลือก..ไม่อยากเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยน ระหว่างประเทศเลยอะแก"
“ก็แกพูดจีนได้คล่องที่สุด..แถมเรียนก็เก่งจนได้รับทุนการศึกษา++ทุนนักเรียนดีเด่น++แกเหมาะสมที่สุดแล้วต้นข้าว ไปแค่ปีเดียวเอง แถมแกพูดได้ตั้ง 3 ภาษา ทั้ง ไทย จีน อังกฤษ" ใบบัวพูดชมต้นข้าวไม่หยุด
“ก็ที่ฉันสามารถพูดจีนได้คล่องก็เพราะอาม่าข้างบ้านนี่แหละ..ฉันโตมาพร้อมกับเพื่อนบ้านที่อพยพย้ายถิ่นฐานจากประเทศจีนมาอยู่ประเทศไทย..ได้พูดคุย ได้ฟังอยู่แทบทุกวัน..จนซึมซับภาษาจีนเข้าเซลสมองไปแล้ว" ต้นข้าวตอบกลับยัยใบบัว
ทั้ง 2 สาวพูดคุยกันหลังเลิกเรียน
จนเวลาปาเข้าไป 6 โมงเย็นแล้ว ก็พากันแยกย้ายกลับบ้าน
“เจอกันคาบแรกพรุ่งนี้ 10 โมงเช้านะต้นข้าว"
"เออ..บายๆ"
ต้นข้าวโบกมือลายัยใบบัว แล้วก้าวขึ้นรถเมล์สาย15 ที่มาจอดอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว
กว่าจะถึงบ้านก็ปาไป 2 ทุ่มแล้ว เพราะรถสุดแสนจะติด 5 แยกลาดมะพร้าว
“ติดได้ติดดี ติดมันทุกวัน"ต้นข้าวบ่นๆด้วยความเหนื่อยล้า เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอก็ตะโกนบอกพ่อกับแม่ของเธอ
“หนูกลับมาแล้วค่ะ"
แล้วเดินจ้ำอ้าวเข้าห้องนอนของตัวเองทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนทันที
..เช้าวันใหม่..
บ้านของต้นข้าว
กริ๊งๆๆๆ
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นในเวลา 8 โมงเช้า
ต้นข้าวลืมตาตื่นในสภาพงัวเงีย-_-
##พร้อมกับหาวฟอดใหญ่## พลางมือก็เอื้อมไปกดปิดเสียงนาฬิกาปลุก แล้วลุกขึ้นบิดขี้เกียจ ซ้ายทีขวาที
##อื้ด อ๊าด อ๊าาา## เธอเดินไปเข้าห้องน้ำ อาบน้ำแล้วแต่งชุดนักศึกษาด้วยความรวดเร็วภายใน เวลา 30 นาที
พลางเดินมาส่องกระจกทำท่าทางแบ๊วๆ:)
แล้วพูดกับตัวเองในกระจก
“เธอเนี่ยน่ารักจริงๆ"
พูดพลางยิ้มให้กับตัวเองในกระจกบิดตัวไปมา
ชมตัวเองแล้วก็เขินเอง -_-
“++บ้าจริง -_-++"
แล้วเธอก็เดินออกจากห้องเพื่อจะไปทานอาหารเช้าที่แม่ของเธอกำลังเตรียมให้เธออยู่ที่ครัวชั้นล่าง
“แม่ค่ะ วันนี้มีอะไรกินบ้างค่ะ" เสียงต้นข้าวถามมานีผู้เป็นแม่
“ข้าวต้มกุ้งจ๊ะลูกมาๆเสร็จแล้ว..กำลังร้อนๆเลยลูก"
ต้นข้าววิ่งเข้าไปนั่งประจำที่..ที่โต๊ะอาหาร
ข้าวต้มกุ้งถูกจัดวางไว้แล้ว พร้อมโชยกลิ่นหอมหวล น่ารับประทานมาก
“ว้าววว...น่าทานมากค่ะแม่..ทานแล้วนะคะ..พ่อไปทำงานแล้วเหรอค่ะแม่"
เสียงต้นข้าวถามมานี พร้อมกับตักข้าวต้มเข้าปากไปด้วย
“วันนี้พ่อมีงานด่วน ออกไปตั้งแต่ 6 โมงเช้าแล้วลูก"
##พลันเสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น##
ติ๊งต่องๆๆๆ
แม่มองหน้าฉันเป็นเชิงถามใครกันมาแต่เช้า!!?
พร้อมกับเดินไปหน้าบ้านเพื่อดูว่าใครมา
แม่หายไปสักพัก ก็เดินกลับเข้ามาพร้อมกับชายชุดดำ 2 คน
##ชายชุดดำคนนึงถือปืนจ่อแม่เข้ามาด้วย##
แม่หน้าตาซีดเผือด ต้นข้าวตกใจมาก!!
((ชายชุดดำที่เอาปืนจ่อแม่อยู่พูดขึ้น))
“ผัวมึงอยู่ไหน!!?"
มันขโมยข้อมูลสำคัญของทางองค์กรซาฮาสไป
ต้นข้าวที่ทั้งตกใจ ทั้งสงสัยพูดโพล่งขึ้นไป
“องค์กรซาฮาสคืออะไร..พ่อฉันทำงานอยู่สำนักงานกฎหมายคุณธรรม..เป็นทนายความมาจะ 30 ปีแล้ว..พวกแกจำคนผิดแล้วแหละ..ปล่อยแม่ฉันเดี๋ยวนี้นะ"
ชายชุดดำอีกคนหัวเราะในลำคอพูดขึ้น
“พวกมึงนี่ไม่รู้เลยจริงๆเหรอ..ว่าผัวมึง พ่อมึงทำงานให้กับองค์กรซาฮาส..หน่วยงานด้านข่าวกรองและปฏิบัติการพิเศษของจีน..แผนกเก็บรวบรวมข้อมูลความลับสูงสุด..มันได้ขโมยข้อมูลสำคัญขององค์กรและหายตัวไป..ตอนนี้กำลังตามหาตัวมันอยู่..ถ้ามันยังไม่ปรากฎตัวออกมา"
(((“พวกมึงสองคนต้องตายทั้งแม่และลูก")))
ฉันที่มองชายชุดดำที่ถือปืนจ่อหัวแม่อยู่ไม่ละสายตา
##ช่วงที่มันกำลังเผลอ..ฉันกระโจนเข้าไปบิดข้อมือ..พร้อมเตะท่าจระเข้ฟาดหางเข้าที่ต้นคอของมัน..และตวัดมืออีกข้าง..ฟาดเข้าที่หลังคอของชายชุดดำอีกคนเช่นกันในเวลาอันรวดเร็ว##
แล้วรีบคว้าปืนมาถือไว้และยิงเข้าไปที่ต้นขาของชายชุดดำคนนึงเพื่อไม่ให้มันตามพวกเรามาทัน
แล้วรีบพาแม่ออกมาข้างนอกอย่างรวดเร็ว..วิ่งจนมาถึงหน้าปากซอยบ้าน แล้วรีบเรียกแท็กซี่ออกไปจากจุดนั้นทันที
ชายชุดดำอีกคนวิ่งไล่ตามมาไม่ทัน สบถอย่างหัวเสีย
“ไม่ได้ตัวแม่ลูก 2 คนนี้กลับไป..ได้โดนนายฆ่าทิ้งแน่ๆ บัดซบเอ้ยย"
บนรถแท็กซี่
~~ต้นข้าวคิดในใจ~~
'ดีนะที่พ่อให้ฉันเรียนวิชาป้องกันตัวตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ++เรียนเทควันโด้++ ได้รับสายดำตั้งแต่อายุ 13 ปี พร้อมทั้งฝึกเรียนยิงปืนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เพราะผู้เป็นพ่อให้ฉันฝึกไว้ป้องกันตัว ฉันเข้าใจเจตนารมณ์ของพ่อแล้วตอนนี้ อยู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด
แม่หันมาปาดน้ำตาให้ฉัน..เรื่องราวต่างๆที่เราสองคนแม่ลูกได้เจอและสัมผัสมันกระทันหันมากเกินไป
##ฉันยังไม่อยากจะเชื่อเลย##
แม่หันมาพูดกับฉันด้วยสายตาที่เอ่อไปด้วยน้ำตา
“ไม่รู้ว่าพ่ออยู่ที่ไหน เป็นยังไงบ้างแล้วตอนนี้..แม่เป็นห่วงพ่อจังเลยลูก" แม่พูดจบก็พรั่งพรูน้ำตาที่พยายามเก็บเอาไว้ไหลออกมาเต็มสูบ และเป็นฉันที่ต้องทำตัวให้เข้มแข็งเข้าไว้..เข้าไปกอดปลอบแม่
“ต้นข้าวจะไม่ยอมให้ใคร..มาทำร้ายพ่อกับแม่เป็นอันขาดค่ะ"
คำพูดของเธอนั้นเด็ดเดี่ยวและหนักแน่นมาก แม้ในใจจะหน่วงๆหวิวๆก็ตามกับเหตุการณ์ที่พึ่งเจอมา มันทั้งน่ากลัวและอันตรายเหลือเกิน เกินกว่าเด็กอายุแค่ 19 ปีอย่างเธอจะรับไหว