เมื่อได้ยินเสียงหัวใจตัวเองบอกว่าจะหยุดไว้ที่ผู้หญิงคนนี้
อี้เฟยหลิงก็เกิดอาการต่อต้านทันที
จะเป็นไปได้อย่างไร
เพียงแค่เจอกันครั้งแรก
จะมีความรู้สึกเช่นนั้น
ทุกคนต่างเห็นท่าทางของอี้เฟยหยางตะลึงความสวยของไป๋หรง
ต่างก็โอดครวญเสียใจ วันนี้ผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นคือ ไป๋หรง แน่นอน
ไม่ผิดจากที่ทุกคนคาดการณ์ ไป๋หรงเมื่อเดินออกมาจากในงาน
ก็เจออี้เฟยหยางยืนรอเด่นพร้อมบอดี้การ์ด 4 หนุ่ม
ประกบซ้ายขวาอย่างละ 2 คน
ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของอี้เฟยหยางอยู่แล้ว
เขาจะปรากฏกายพร้อม บอดี้การ์ด 4 หนุ่มหล่อไปไหนมาไหนตลอด ทำให้เขากลายเป็นจุดเด่นผู้คนให้ความสนใจ
วันนี้เขายังคงใส่สูทดำ เปิดกระดุม 2 เม็ดเช่นเคย ผู้หญิงล้วนอ่อนระทวยเมื่อได้เจอซิกแพคอันขาวๆของเขา
ไป๋หรงเมื่อเจอชายหนุ่มผู้มั่งคั่งอวดรัศมีความร่ำรวยเช่นนี้ เธอเองก็ชะงักตกตะลึง และเริ่มกังวลถึงสติปัญญาของตนเองเหตุใด เมื่อก่อนก็เป็นหนึ่งในหญิงสาวที่เคยฝันคะนึง หลงใหลผู้ชายคนนี้
เพียงเสี้ยวนาทีเธอก็เข้าใจ เพราะในความทรงจำของเธอ ฮองเต้ เธอก็เคยกลืนกินมาแล้ว อี้เฟยหยางจึงกลายเป็นบุคคลธรรมดาสามัญไป
ชายหนุ่มไม่ล่วงรู้ความคิดหญิงสาว เขาเอามือล้วงเข้าไปในกางเกงข้างหนึ่งแล้วเดินหรี่เข้ามาไป๋หรงอย่างมาดเท่ห์ หยุดปลายเท้าอย่างมีชั้นเชิง เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มทรงเสน่ห์
“สวัสดีครับ ผมอี้เฟยหยางยินดีที่ได้รู้จักคุณไป๋หรงครับ”
ได้มายืนอยู่ใกล้ๆ อี้เฟยหยางจึงได้เห็นผิวหน้าใส ที่ไป๋หรงล้างเครื่องสำอางออกจนหมดสิ้น
ผู้หญิงคนนี้ บนเวทีกับตอนนี้ให้ความรู้สึกต่างกันมาผิวเนียนละออให้ความรู้สึกว่าไร้เดียงสาเป็นอย่างมาก
ความรู้สึกอารมณ์ของผู้ล่าก็ปะทุขึ้น
“ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก มีธุระอะไรกับฉันรึเปล่าคะ”
ไป๋หรงไม่มีทางเอาตัวเองไปให้เป็นของเล่นไฮโซเด็ดขาด เธอเอ่ยถามทำให้ชายหนุ่มชะงักไป
“จะรบกวนเวลาไม่นานครับ ไปด้วยกันก่อนได้ไหม เอ่อผมจะสอบถามเรื่องภาพวาด”
เมื่ออี้เฟยหยางเอ่ยธุระออกมา ถึงจะแปลกใจที่มาติดต่อที่นี่ ไป๋หรงก็ไม่ได้ถามให้มากความเธอตอบตกลงทันที
“ได้ค่ะ…พี่เฟยเฟยค่ะ ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะ”
เฟยเฟยพนักหน้ายิ้มแป้นอย่างยินดี เมื่อสักครู่เธอก็ได้ยินบทสนทนาแล้วก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่เธอต้องอยู่ต่อ เธอกล่าวลาไป๋หรงทันที พร้อมเดินออกใบด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข เธอมั่นใจว่าภายในไม่กี่ชั่วโมงต้องมีคนติดต่อเข้ามาเพื่อขอร่วมงานกับไป๋หรงอย่างแน่นอน ใช่ ใช่ เธอต้องรีบตั้งสติ จะรับง่ายมั่วๆ ไม่ได้
อี้เฟยหลางไม่ได้สนใจเฟยเฟย ใบหน้ายังคงยิ้มสุภาพ
เมื่อหญิงสาวตอบตกลง เขาก็ผ่ายมือเชื้อเชิญอย่างสุภาพบุรุษพึงกระทำ ทั้งสองเดินออกจากงานไปด้วยสายตาที่จ้องมองมาอย่างสนใจ บ้างถ่ายคลิป บ้านถ่ายภาพ แล้วนำไปโพสตั้งคำถาม จนเกิดกระแสขึ้นทันที
อี้เฟยหยาง ย่อมเป็นบุคคลที่ไว้ใจได้เขามีชื่อเสียงและในชื่อเสียงนั้นมีแค่เรื่องความเจ้าชู้เท่านั้นที่เป็นข้อเสีย
ไป๋หรงจึงตกลงขึ้นรถไปกับเขา
“ผมขอถามตามตรงนะครับ คุณมีภาพวาดอีกไหม”
อี้เฟยหยางเป็นนักเจรจาขั้นยอดลูกเล่นแพรวพราว ย่อมมองออกแต่แรกว่าจะเข้าหาหญิงสาวอย่างไร เธอคงไม่เต็มใจหากจะนัดทานข้าวกัน ในเมื่อหญิงสาวดูให้ความสำคัญกับภาพวาดเขาก็จะพูดถึงแค่เรื่องภาพวาด
“มีค่ะ เหลืออีก 7 รูป”
เมื่อมีลูกค้ามาติดต่อซื้อถึงที่เธอย่อมยินดี โอกาสข้างหน้าถ้าเป็นเช่นนี้เรื่อยๆ ก็ไม่ต้องออกไปนั่งขายอีก
7 ภาพ ซื้อไว้นำมาสร้างคอนเนคชั่นก็ได้กำไรแล้ว ทว่านะถ้าเป็นภาพคุณภาพเช่นเดิม
“ถ้าผมขอดูทั้ง 7 ภาพ จะได้ไหมครับ”
“ได้ค่ะ งั้นไปที่คอนโดนฉันเลย ไปที่ถนนรอบเมืองวงแหวนที่ 5 เลยค่ะ”
ได้ยินเช่นนั้นอี้เฟยหลิงก็ยิ้มกระหยิ่มในใจ เรื่องใช่จะยากอย่างที่คิด ทว่าสีหน้าชายหนุ่มยังคงสุภาพอ่อนโยน
ไม่นานก็มาถึงคอนโดของหญิงสาว อี้เฟยหลิงเดินตามไป๋หรงอย่างมั่นใจ เสียงฝีเท้าที่ตามข้างหลังมาทำให้ไป๋หรงหยุดชะงักแล้วหันมา
“ฉันต้องรบกวนคุณรอที่ห้องรับรองคอนโดรอสักครู่ค่ะ ฉันจะไปหยิบภาพลงมา”
สีหน้าของอี้เฟยหลิงดูไม่ได้ชั่วขณะ
หนุ่มบอดี้การ์ดทั้ง 4 ต่างก้มหน้าลงทันที
นี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่เจ้านายให้รอใต้คอนโดแทนการขึ้นไปข้างบน
ไม่รู้ว่าเจ้านายจะโมโหหงุดหงิดแค่ไหน
สิ่งที่บอดี้การ์ดคิดกลับไม่ใช่ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เจอ
อี้เฟยหยางกลับยิ้มมุมปากบางสีหน้าบ่งบอกว่าพอใจ ดูท่าทางคล้ายกำลังสนุก
เขากำลังรู้ถึงอารมณ์ที่ต้องจีบ พลังที่ต้องเข้าหา โจมตี มันดีตื่นเต้นดี
ไม่นาน ไป๋หรงก็นำภาพลงมา
ภาพ 7 วัน วางเรียงกัน อี้เฟยหลิงตกตะลึงทั้ง 7 ภาพนี้สวยและมีมิติมากกว่าภาพที่น้องสาวเขาซื้อไปเสียอีก
“เธอขายเท่าไร”
หนุ่มบอดี้การ์ดทั้ง 4 ต่างเงยหน้าทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยคำถาม เหตุใด BOSS ถามเช่นนี้
ไป๋หรงสะดุ้งตกใจกับคำถามเล็กน้อย แต่ไม่แสดงอาการ พอนึกขึ้นได้ว่าอี้เฟยหยางเอ่ยถามถึงภาพวาด กำลังจะเอ่ยบอก ชายหนุ่มก็เสนอราคามาก่อน
“ผมขอซื้อทั้ง 7 ภาพ 70 ล้านหยวน ตกลงราคานี้ไหมครับ”
อี้เฟยหยางหลบสายตาไป๋หรงเล็กน้อย ทันทีที่เขาเห็นหน้าตาเหล่าบอดี้การ์ดก็ทำให้เขารู้สึกร้อนรน
คราวนี้ไป๋หรงตกใจมากกว่าเดิม แววตากระพรืมไหวเล็กๆ ส่วนอี้เฟยหยางกลับคิดว่าหญิงสาวจะไม่ตกลง
“100 ล้านผมให้คุณไป๋หรงมากสุดได้เท่านี้”
“ตกลงค่ะ” ไป๋หรงตกลงอย่างงงงวย ตั้งคำถาม
แล้วที่เธอขายไป 3000 หยวนคืออะไร
"ผมขอเลขบัญชี จะดำเนินการโอนให้ตอนนี้เลย"
เสียงพูดของอี้เฟยหยางดึงสติไป๋หรงให้กลับคืนมา
“ได้ค่ะ”
ติ้ง ติ้ง ยอดเงินแจ้งเข้าบัญชี 100 ล้านหยวน
การซื้อขายเรียบร้อย
ไป๋หรงส่งมอบภาพให้ทันทีอี้เฟยหยาง หันไปรอบ ๆ บริเวณ ที่นี้เป็นห้องรับรองของคอนโด ชายหนุ่มยิ้มอย่างขำ เขาเจรจาซื้อของมูลค่าในสถานที่เช่นนี้ เขาส่ายๆ หน้าเบา ๆ รับภาพวาดจากหญิงสาวส่ง ให้คนนำไปเก็บจากนั้นก็หันหน้ามาคุยกับไป๋หรง
“คุณไป๋หรง ตอนนี้เราก็เป็นคู่ค้าทำธุรกิจร่วมกันกันแล้ว ไปทานข้าวด้วยกันหน่อยดีไหมครับ”
เจรจาพูดคุย เป็นเรื่องปกติในการทานข้าวกันในวงการธุรกิจ หากมองอย่างเป็นกลาง อี้เฟยหยางก็ไม่ได้ทำอะไรที่ดูเสียหาย ถ้าปฏิเสธจะเสียมารยาทไป
“ตกลงค่ะ ฉันขอเป็นคนเลี้ยงคุณนะคะ”
มิติใหม่ของอี้เฟยหยาง ให้หญิงสาวเลี้ยง
“ยินดีอย่างยิ่งเลยครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอเลือกร้านเองนะครับ”
“ได้ค่ะ” เมื่อไป๋หรงตอบตกลง อี้เฟยหยางจึงโค้งตัว เชื้อเชิญไป๋หรงขึ้นรถไปกับเขา หญิงสาวก้าวเดินอย่างมั่นคง แววตานิ่ง ทำให้ไม่เห็นความสั่นไหวในใจแต่อย่างไร
บนโต๊ะอาหาร ไร้การพูดคุยทุกอย่างเงียบงัน บรรยากาศคล้ายมีการสอบสวนบางอย่างมากกว่าฉลองการเจรจาทางธุรกิจสำเร็จ
อี้เฟยหยางมองหญิงสาวตรงหน้า ท่านั่งหลังเหยียดตรง เคี้ยวข้าวไม่เปิดปาก เสียงช้อนกระทบจานไม่มีให้ได้ยินสักนิด และยังมีท่าจิบน้ำละเมียดละไมนั้น ถ้าไม่มองเห็นหน้าใสๆ เขายังแอบคิดว่ามาทานข้าวกับผู้แทนราชวงค์หรือเปล่า
“แค่ก แค่ก” พอแอบมองมากเกินไป อี้เฟยหลางจึงสำลักน้ำที่กำลังดื่มอยู่
“เป็นอะไรคะ” ไป๋หรงถามด้วยความห่วงใยน้ำเสียงจริงใจ
“อาจจะเป็นหวัดครับ คัดจมูกนิดหน่อย” ถ้าบอกว่าสำลักก็ขายหน้าเกินไป
“ลองทานน้ำขิงดูไหมคะ น้องคะ พี่ขอน้ำขิงร้อนแก้วหนึ่ง” ยังไม่ได้รับคำตอบหญิงสาวก็สั่งให้ทันที
ไม่นานเกินรอ น้ำขิงร้อนๆ ก็วางอยู่ตรงหน้าอี้เฟยหยาง
“ลองทานดูค่ะ ไป๋มั่นใจว่าอาการดีขึ้นแน่นอน” ไป๋หรงบอกพร้อมสีหน้าแววตาจริงจังแล้วขอตัวไปห้องน้ำ
อี้เฟยหยางจึงค่อยๆ หยิบแก้วขิงขึ้นมาค่อยๆ จิบ เขาเกลียดที่สุดคือน้ำขิง
โบราณมาก โบราณที่สุด นี้มันวิถีคุณย่าชัดๆ
เขาจะต้องจีบผู้หญิงคนนี้ให้ได้ อายุเพียง 18-19 ปี จะพ้นเงื้อมมือเขาไปได้อย่างไร
เมื่อผู้หญิงคนนี้หลงเขา เขาตะโกนบอกเธอ เขาเกลียดน้ำขิง คอยดู
เมื่อน้ำขิงไหลลงคอความรุ่มร้อนยิ่งสุมลงกลางอก
“เป็นอย่างไรบ้างคะ ดีขึ้นไหม” ไหลังเธอเดินกลับมาป๋หรงเอ่ยถามด้วยความแววตาห่วงใย หลังเธอเดินกลับมา
“ดีขึ้นมากแล้วครับ” อี้เฟยหยาง จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ปรับสีหน้าเป็นหนุ่มอ่อนโยนทันที
“เช่นนั้นเรากลับกันเถอะค่ะ ดิฉันชำระเงินเรียบร้อยแล้ว”
คอนโดของไป๋หรง
“ขอบคุณมากนะคะสำหรับวันนี้” ไป๋หรงเอ่ยขอบคุณอย่างจริงใจ 100 ล้านหยวนเธอใส่ความจริงใจไปมากทีเดียว
“ยินดีครับ นี้นามบัตรผมนะครับ ถ้าคุณไป๋หรงมีภาพวาดอีก รบกวนส่งมาให้ดูบ้างนะครับ”
ปกติอี้เฟยหยางไม่ได้ใส่งานศิลปะเท่าไรนัก
แต่งานนี้ต้องลงทุนสักหน่อย อย่างไรเสียภาพวาดก็ขายต่อได้ง่ายอยู่แล้ว
“ขอบคุณมากค่ะ ฉันจะติดต่อคุณเป็นคนแรก เดินทางดีๆ นะคะ สวัสดีค่ะ”
กล่าวเสร็จไป๋หรงก็หันตัวเดินกลับขึ้นไปคอนโดทันที ทิ้งอี้เฟยหยางยืนงงงวย
พอขึ้นรถไปจึงเอ่ยถามเหล่า บอดี้การ์ดทั้ง 4 หนุ่ม
“วันนี้เรามีจังหวะที่ผิดพลาดรึเปล่า”
ไม่มีเสียงตอบกลับ อี้เฟยหยางจึงตกอยู่ในภวังค์ของตัวเอง
ในขณะที่ อี้เฟยหยางหันกายกลับขึ้นรถ ไป๋หรงก็ชำเลืองหันกลับมา
ก็แค่เด็กน้อย ความใสซื่อที่ให้เห็นก็เพียงการแสดงเท่านั้น
ละครบทนี้ไม่รู้ใครคือเหยื่อใครผู้ล่ากันแน่
หญิงสาวยกมุมปากยิ้มบางก่อนเข้าลิฟท์ไป ด้วยท่วงท่าคล้ายจะลอยเข้าไป เงิน 100 หยวน มันหอมจริงๆ