กรี๊ง กริ๊ง เสียงโทรศัพท์ดังอยู่นานสองนานไป๋หรงก็ยังไม่มีท่าทีจะรับ
หญิงสาวใช้มือควานหาโทรศัพท์มือถือที่วางบนโต๊ะข้างเคียง
ชั่วขณะหลังจากหยิบมือถือขึ้นมาดู
หญิงสาวกะพริบตาปรือ ๆ พยายามมองให้เห็นผู้ใดกันที่โทรหาเช้ายิ่งนัก
“แม่”
แม่โทรมาเช่นนี้คงไม่พ้นเรื่องเงิน ไป๋หรงหลับตาเตรียมใจตั้งสติ ก่อนที่กดรับสาย
“แม่..ว่าไง” แม้ไป๋หรงจะเปลี่ยนไปทว่าเธอยังใช้น้ำเสียงเช่นเดิมปกติที่คุยกับแม่
“แหม๋…กว่าจะรับนะแก ฉันดูทีวีเห็นตอนนี้แกควงไฮโซนิ ชีวิตคงสุขสบายแล้วสินะ”
ไม่ผิดจากที่คาดการณ์ แม่ยังคงใช้น้ำเสียงกระแหนะกระแหนของแม่ฉินฟางยังคงเช่นเดิม
และนี่ก็คือฉินฟางแม่แท้ๆ ของไป๋หรง
“แม่จะเอาเท่าไร” เมื่อได้ไตร่ตรองที่ผ่านาแม่ล้วนลำบากจริงถึงได้โทรมากวน ก่อนหน้าเป็นยังเด็กมองอะไรแคบและเธอก็ใจแคบจึงไม่ได้มองเห็นความหวังดีของแม่
“น้องแกจะเปิดเทอม พอดีที่ช่วงนี้… //ฉันจะโอนให้แม่ 10,000 หยวน"
ไป๋หรงไม่อยากฟังคำอธิบายจากแม่เท่าไร ยิ่งฟังยิ่งรับรู้ถึงความลำบากและเธอก็เข้าใจว่าคงไม่มีใครใคร่อยากจะบรรยายเหตุผลเหล่านี้เท่าไรนัก
“แหม๋แกรวยแล้วสินะ 5,000 หยวนก็พอ ฉันก็มีมือมีตีน ไม่ได้หวังจะขอแกอย่างเดียว”
เพราะวาจาแม่เป็นแบบนี้ พูดแบบนี้ จึงทำให้ไป๋หรงคนเก่าเข้าใจผิดแม่มาตลอด
“แค่ก แค่ก แค่ก” เสียงไอแห้งๆ ของฉินฟางดังผ่านโทรศัพท์มา
“แม่ป่วยอีกแล้วใช่ไหม แล้วนี้เหมยกับหยางอยู่ไหม” ไป๋หรงของคุยกับน้องต่อทันทีเพราะเธอรู้ถามไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร
“อยู่” ฉินฟางตอบทันที โดยไม่คิดอะไร
“ฉันขอคุยด้วยหน่อย” แม้ฉินฟางจะงงที่ไป๋หรงขอคุยกับน้องแต่ก็ยังส่งโทรศัพท์ไปให้เหมย
“มีอะไร ฉันเล่นเกมอยู่ไม่ว่างคุยนาน” ฉินเหมยบ่นหงุดหงิด
“ฉันจะโอนเงินให้แก 3,000 หยวน ให้แกพาแม่ไปหมอ ใบแจ้งค่ารักษาเท่าไรให้ส่งบิลมา ถ้ารับงานนี้ไหม”
เหมยเบิกตากว้างโต ช่วงนี้พี่สาวเธอกำลังโด่งดัง น่าจะมีเงินไม่น้อย แต่ว่าเห็นเงินก่อนเป็นดี เธอไม่อยากให้เรื่องนี้แม่กับฉินหยางรับรู้เลยทำเป็นเดินไปคุยด้านนอก
“เรื่องทำงานแลกเงิน พี่ไว้ใจฉันได้ แต่ฉันไม่มีเงินสำรองให้พี่ก่อนนะ”
ไป๋หรงส่ายหัวเบา ๆ สักพักเสียงข้อความมือถือของฉินเหมยดังขึ้น ฉินเหมยสดชื่อมีพลังขึ้นมาทันที เปลี่ยนน้ำเสียงพูดคุยกับพี่สาวฉอเลาะไม่น้อย
“พี่ไป๋หรง ทำไมโอนมาให้ฉันตั้ง 50,000 หยวนล่ะ พี่ให้ฉัน 3,000 หยวนเองไม่ใช่หรอ”
“ที่เหลือคือค่าหมอ ถ้าไม่พอก็ส่งข้อความมาแต่ถ้าเหลือก็เอาไปซื้อของกินดี ๆ เข้าบ้าน”
“ขอบคุณค่ะพีี่สาวสุดสวย น้องจะรีบพาแม่ไปหาหมอเดี๋ยวนี้เลยนะคะ”
“ฮืม”
“สวัสดีนะคะพี่สาว”
ฉินเหมยกดวางมือด้วยความรู้สึกตื่นเต้น เธอจะมีเงินแล้ว ขณะกำลังจะไปหาแม่ก็เห็นข้อความมือถือแม่ดังขึ้น เมื่อกดดูก็เห็นข้อความแจ้งยอด
“10,000 หยวน” ฉินเหมยมองพร้อมยิ้มตาลอยๆ ก่อนจะส่ายหัว ร้องเรียกแม่
“แม่เร็วแต่งตัว แม่ไม่สบายใช่ไหม มา มา ฉันจะพาแม่ไปหาหมอ”
พอวางโทรศัพท์ลงไป๋หรงก็ถอนหายใจอย่างแรง
แม่เป็นแม่หม้ายมีเธอเป็นลูกติด แต่งงานกับพ่อเลี้ยงซึ่งฝั่งนั้นก็มีลูกติด ชื่อฉินหลงผู้ชายอายุมากกว่าเธออยู่ 2-3 ปีได้ เธอน้อยใจแม่ตั้งหลายปี ที่แม่พยายามไล่เธอออกจากบ้านเพราะรู้ว่าเธออาจไม่ปลอดภัยถ้ายังอยู่ที่นั้น
ก่อนหน้าก็ไม่มีปัญหาอะไร พ่อเลี้ยงมีบ้านมีงาน พอแม่ท้องน้องแฝดเหมยกับหยาง พอคนมากแต่รายได้เท่าเดิมย่อมมีปัญหา บ้านก็เอาเข้าธนาคาร
เงินไม่พอใช้แม่ต้องออกมาทำงานด้วยและยังต้องดูแลบ้านอีกพอเข้าตาจนจริงๆ ถึงได้โทรมารบกวนเธอ
ตอนนี้คงต้องวางแผนว่าจะเอาเงินให้แม่ยังไง จะให้ช่วยเหลือพ่อเลี้ยงด้วย เธอไม่ใช่คนมีเมตตาขนาดนั้น ไม่รู้แม่ไปถูกชะตาผู้ชายคนนี้ยังไง
ตกบ่าย ฉินเหมยก็ส่งใบแจ้งยอดค่ารักษาพยาบาลมา 45,000 หยวน
เรื่องใช้เงินน้องเธอยังเก่งเหมือนเดิมและยังมั่นใจด้วยว่าพี่สาวจะมีให้ แต่ว่าทุกอย่างย่อมมีข้อดี แสดงว่าแม่น่าจะตรวจสุขภาพครบทุกอย่างแล้ว คราวนี้ก็สบายใจได้ว่าแม่ยังแข็งแรงดี เพราะหลายปีมานี้สุขภาพแม่ดูจะแย่ลงทุกวัน
เธอรู้สึกพอใจมากจึงโอนเงินให้น้องไป 3,000 หยวน ต่อไปจะได้ใช้งานง่ายขึ้นหน่อย
ติ้ง! “ขอบคุณมากค่ะพี่สาว ถ้ามีอะไรให้เหมยรับใช้เรียกได้เลยนะคะ น้องเป็นคนว่านอนสอนง่ายค่ะ”
ไป๋หรงส่ายหน้าเบาๆ ไม่ผิดจากที่คิดสักนิดเธอยังมีอาการตาปรือ เหงานอนเพราะอารมณ์พาไปเมื่อคืนเธอจึงวาดภาพจนดึก
เธอมองไปรอบๆ ห้อง ห้องเธอคับแคบไม่น้อย อยากไปวาดภาพข้างนอกจัง
ทว่าวันนี้ ไปจัดการเรื่องคอนโดให้เรียบร้อยก่อน ไป๋หรงคิดถึงเรื่องเมื่อคืนก็ทำให้เกิดความรู้สึกยากที่จะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เมื่อหลายวันก่อนเธอยังวางแผนการใช้เงินอย่างระมัดระวัง ทว่าวันนี้เธอกลับมีเงินถึง 100 ล้านหยวน ไม่เชื่อว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปรวดเร็วขนาดนี้