การซื้อบ้านไป๋หรงไม่ได้คิดไว้ในแผนมันไม่ใช่ว่าเกินฝัน ทว่ามันมาเร็วมากจนเกินไป บางจังหวะเวลาก็ค่อนข้างยากที่จะเชื่อ หญิงสาวหยิบมือถือขึ้นมาเช็คยอดเงินในบัญชีใหม่อีกครั้ง เมื่อเห็นว่ายอด 100 ล้านหยวนมีเข้ามาในบัญชีจริง เธอก็ลอบถอนหายใจยาว ยาว
วนกลับมาคิดเรื่องบ้านต่อ เธอไม่มีความรู้ในเรื่องการซื้อบ้านเลย เธอลองค้นใน google สำหรับบ้านจัดสรรใหม่หลังเล็ก ๆ เริ่มต้นที่ 4-5 ล้านหยวนก็พอมีบ้าน แต่บรรยากาศยังไม่ทำให้พอใจเท่าไร อย่างไรก็ต้องไตร่ตรองให้ดี
พรุ่งนี้หลังจากพิธีบวงสรวงละครเรื่อง “จอมนางแห่งวังหลวง”
เธอจะลองเสี่ยงโชคขับรถตะเวนลองดูก่อน เห็นภาพไม่สู้ไปชมบรรยากาศจริง ๆ
หลังจากที่เริ่มโด่งดัง ไป๋หรงก็เริ่มเลือกบทที่จะแสดงมากขึ้น ในเรื่องนี้เธอรับบทเป็นฮองเฮานางร้ายที่มีอำนาจล้นวังหลัง ด้วยภูมิหลังของตระกูลกองทัพ แม้กระทั่งฮองเต้ยังต้องยั้งวาจาเวลาพูดคุย เป็นบทที่ถูกจริตไป๋หรงเป็นอย่างมาก ไม่มีอะไรจะโชคดีขนาดนี้อีกแล้ว
หลังจากพักผ่อนได้สักหน่อย ไป๋หรงก็หยิบชุดเดรสแดงลายพื้นธรรมดาออกมาจากตู้ เมื่อชาติที่แล้วนอกจากฝีมือการวาดภาพฝีมือปักเธอก็ถือว่าเป็นอันดับหนึ่งของเมืองหลวง ความละเอียดและความสามารถในการออกแบบทำให้อาภรณ์ต่างๆ ของเธอเมื่อชาติที่แล้วไม่เป็นสองรองใครและยากจะมีผู้ใดลอกเลียนได้ง่ายและชาตินี้ก็เช่นเดียวกัน
ไป๋หรงวางชุดและอุปกรณ์ลงบนที่นอน นอกจากจะปักเสริมชุดให้ดูแพงขึ้น ส่วนต้องตัดก็ตัดออก จุดไหนต้องโชว์ จุดไหนต้องปิด และปักลวดลายลงไปเพิ่มความน่าค้นหา ชุดผ้าพื้นธรรมดากลายเป็นชุดฟินาเล่ที่แปลกตา หญิงสาวยิ้มอย่างภูมิใจไม่น้อย
คงต้องทำเช่นนี้ไปก่อน แม้จะเสียเวลาไปมากก็คุ้มค่าเพราะความเด่นสง่าย่อมเป็นจุดขายที่สำคัญไม่ด้วยไปกว่าฝีมือการ ไม่ใช่เพราะหน้าตาดีหรืออย่างไรเธอถึงได้หลอกล่ออี้เฟยหยางได้
กำลังจะเข้านอนก็ได้รับข้อความ
ติ้ง!!
“พี่สาวขา พรุ่งนี้มีแม่มีนัดฟังผลตรวจที่โรงพยาบาล แม่ไม่ยอมไปค่ะ"
หลังจากอ่านข้อความเสร็จเธอกดโทรกลับทันที ก่อนที่ปลายทางจะรับสร้างหญิงสาวก็ตั้งสติปรับอารมณ์ให้คล้ายตัวเองเมื่อก่อน เมื่อมีคนรับสายเธอจึงเอ่ยเสียงหงุดหงิดทันที
“แม่ ทำไมไม่ยอมไปหาหมอ ฉันกำลังจะดังถ้ามีคนสืบว่าฉันไม่ได้ดูแลแม่ ฉันจะเสียหายและอีกอย่างตอนนี้แฟนฉันเขาคงจะรับไม่ได้ถ้าฉันทอดทิ้งครอบครัว”
ฉินฟางไม่คิดถึงว่าการไม่ไปหาหมอจะทำให้ลูกเดือนร้อน อย่างไรก็รักลูกเธอ เมื่อคิดได้ว่าจะทำให้ลูกเสียชื่อเสียงจึงเอ่ยปากขึ้น
“ก็ได้ๆๆ พรุ่งนี้ฉันจะไป แล้วแกก็ไม่ต้องโอนเงินอะไรมาอีก เพราะแค่ไปฟังผล ฉันไม่ต้องการให้แกมาอวดร่ำอวดรวยไม่ได้จนตรอกขนาดนั้น เก็บเงินแกไว้ใช้ตอนแฟนแกทิ้งเถอะ”
ด้วยฐานะครอบครัวแบบนี้ ฉินฟางไม่เชื่อว่าทางครอบครัวของ ไฮโซคนนั้นจะรับไป๋หรงได้ กลัวแต่ลูกจะเป็นเพียงของเล่นของเขาชั่วคราว เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะไปห้ามปรามคงไม่ได้แต่เพียงแต่เตือนแบบนี้
พูดจบแม่ก็วางสายไป ไป๋หรงก็ได้แต่นั่งกลุ้มใจ ไม่รู้เมื่อไรจะได้พูดคุยกันดี ๆ เมื่อนึกถึงอดีตก็ได้แต่บอกตัวเองว่าอดทนอีกหน่อยตอนนี้ก็ดีขึ้นเยอะแล้ว ไม่ด่ากระแทกคำกันค่ำต่อคำ ก็ดีแล้ว
ไป๋หรงทิ้งคำพูดของแม่ ไม่สนใจคำเตือน ก่อนนอนก็โอนเงิน
หลังโอนเงินฉินเหมย 10,000 หยวน เธอก็รู้สึกสบายใจทันที
พิธีบวงสรวงกองถ่ายละคร “จอมนางแห่งวังหลวง"
ละครเรื่องนี้เป็นการลงทุนที่มากกว่า 300 ล้านหยวน เพราะได้ผู้กำกับโจวผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้กำกับมือทองไม่ว่าจะกำกับเรื่องไหน เรื่องนั้นต้องดังกระแสแรง บรรยากาศการบวงสรวงจึงเต็มไปด้วยทั้งดารานักแสดงและนักข่าวหลากหลายช่องจากสื่อหลายแหล่งเพราะนอกจากมาทำข่าวของละครยังมีเตรียมข่าวและสัมภาษณ์นักแสดงที่กำลังเป็นกระแส เช่น ไป๋หรง เป็นต้น
ก่อนถึงเวลาพิธี 10 นาทีไป๋หรงก็ขับรถเข้ามาในบริเวณงาน
“ไป๋หรงมาแล้ว” นักข่าวต่างก็วิ่งกรูเข้าไปยังรถของเธอ สร้างความไม่พอใจให้ดาราหลายคน การแย่งซีนหรือการแย่งความสนใจกันไม่ใช่เรื่องใหม่ ดารามากฝีมือก็ยิ้มแย้มสีหน้าสดใส ดาราใหม่เก็บอาการไม่อยู่ก็เผยขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนที่จะปรับสีหน้าให้ยิ้มแย้มเช่นเดิม
เฟย เฟย รีบถือร่มคันใหญ่ออกไป เธอไปยืนกางร่มรอกับไป๋หรงอยู่ตรงประตู
เมื่อประตูรถเปิดออกก็เห็นขาขาวเรียวเล็กพร้อมรองเท้าส้นสูงแดง
ไป๋หรงปรากฏกายด้วยเดรสแดงมีการประดับผ้าด้วยการปัก ลวดลายคล้ายหงส์กำลังสบัดปีก ช่วงเอวเผยผิวขาวผุดผ่องเสริมความยั่วยวนด้วยการปักลายหงส์ลงไป ช่างภาพต่างกดชัตเตอร์รัว นั่งข่าวก็ยิ่งคำถามทันที
“คุณไป๋หรง ไม่ทราบว่าไปเที่ยวทะเลครั้งนี้ถือว่าเป็นเดตแรกกับคุณอี้เฟยหยางรึเปล่าคะ”
พอยืนได้มั่นคง ไป๋หรงคำนับนักข่าวทุกคนก่อน
“สวัสดีพี่ๆ นักข่าวทุกคนค่ะ ฉันขอตอบคำถามส่วนตัวหลังพิธีบ่วงสรวงนะคะ ตอนนี้น่าจะถึงเวลาแล้วขออนุญาตเข้าร่วมพิธีก่อนขอบคุณพี่ๆมากค่ะ”
กล่าวเสร็จไป๋หรงก็เดินเข้าพิธีทันที หยางอวิ้นผู้จัดละครยิ้มพอใจกับภาพที่เห็นเขาคิดไม่ผิดจริงๆ ที่ดึงไป๋หรงมารับบทในละครเรื่องนี้ทั้งบุคลิกและกระแสส่วนตัว ล้วนเป็นผลดีกับเขา
เมื่อพิธีใกล้เริ่ม ผู้จัดจึงดึงไป๋หรงได้ยืนประกบข้างพระเอกอย่าง หลี่จวินและอีกข้างเป็นนางเอกแนวหน้าหวงซิ่งอิ่งและยังเป็นแฟนเก่าของอี้เฟยหยางอีกด้วย ทุกคนยิ้มทักทายกันอย่างยิ้มแย้ม และคนที่ยิ้มละมุนสุดหัวใจย่อมเป็นไป๋หรง
ไม่นานภาพพิธีบวงสรวงก็ขึ้นในฟีดทันที
“พิธีบวงสรวงละครเรื่องจอมนางแห่งวังหลวง จากภาพเราก็รู้แล้วใช่ไหมคะว่าใครรับบทฮองเฮา”
ทั้งเก่าและใหม่ฉากตบละครเรื่องนี้ต้องสมจริงแน่นอน //หมูน้อยเอาแต่กิน
ฉันว่างานนี้นางร้ายเกิด //จันทร์แรม
ไป๋หรงสวยมากผ่องมากขาวมาก //นิทานก่อนนอน
ไม่แปลกใจเลยที่อี้เฟยหยางจีบอีกคนแทน //เจี่ยวเจียว
ฉันรอดูฉากตบเท่านั้น //ขนมชั้น
ฮองเฮาชนะเลิศ //ของหวาน
ฯลฯ
กระแสของละครโด่งดังตั้งแต่ยังไม่เปิดกอง งานนี้ผู้พึงพอใจที่สุดย่อมเป็นผู้จัดการละครอย่างหยางอวิ้นเขาย่อมต้องการกำไรจากการลงทุน แต่สำหรับผู้กำกับโจวกลับรู้สึกไม่พอใจ เขาอยากให้คนดูที่ผลงานและเขาเองก็ไม่เห็นด้วยในการขายงานด้วยกระแสของนักแสดง สีหน้าเลยขรึมลง
“อย่าคิดมากไป รอดูการแสดงของนักแสดงเสียก่อน” ผู้จัดหยางอวิ้นเอ่ยปลอบเพื่อนที่อยู่ในฐานะผู้กำกับ
“ฉันเคยกำกับละครที่มีไป๋หรงเป็นตัวประกอบ นอกจากความสวยที่เสริมให้ละครเด่น การแสดงก็ไม่ค่อยจะได้เรื่อง จำบทไม่ได้และยังไม่มีวินัย”
ผู้กำกับโจวไม่ได้เป็นผู้กำหนดตัวนักแสดงเอง เขามั่นใจว่าถ้ามีการแคสติ้งไป๋หรงจะไม่ได้แสดงละครที่เขากำกับ
“ก็ไม่แน่ ช่วงหลังเธอเปลี่ยนไปเยอะ เอางี้ถ้าไม่ได้ดั่งใจแก ข้าอนุญาตให้เปลี่ยนตัวนักแสดงได้เลย”
สำหรับหยางอวิ้นกระแสของละครก็มาแล้ว จากนี้ก็ต้องขายงานเช่นนั้นก็ตัดไป๋หรงได้เช่นกัน
“งั้นตกลงตามนี้” สีหน้าผู้กำกับโจวจึงมีสีหน้าดีขึ้นมา
หลังพิธีบวงสรวงนักข่าวยังรอสัมภาษณ์นักแสดงในละครก่อน
ปกติไป๋หรงไม่เคยมีโอกาสได้ให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้ผู้จัดได้เตรียมให้นักข่าวสัมภาษณ์ทั้งสามคนคือ
ไป๋หรง หลี่จวินและหวงซิ่งอิ่ง พร้อมกัน
“คุณไป๋หรงรู้สึกอย่างไรบ้างคะ ที่ได้มาแสดงละครร่วมกับคุณหวงซิ่งอิ่ง” //นักข่าวช่อง1ยิงคำถามทันที
“ตอนแรกที่ได้รับการติดต่อไป ตื่นเต้นมากค่ะทั้งจะได้ร่วมงานกับทีมงานและนักแสดงทุกท่าน ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้รับโอกาสนี้ ”
ไป๋หรงตอบอย่างยิ้มแย้มแจ่มใสมีมิตรไมตรีไม่มีใครจับผิดอะไรได้ ไมค์หมุนไปจ่อที่หวงซิ่งอิ่งทันที
“แล้วคุณหวงซิ่งอิ่งละคะ” //นักข่าวช่อง2
“เช่นกันค่ะ อย่างน้องไป๋หรงฉันก็ได้ยินข่าวมานานวันนี้ได้เจอตัวจริง น้องเขาสวยสมคำเล่าลือฉันเห็นคราวแรกก็ตกตะลึงเลยค่ะ”
คำพูดของหวงซิ่งอิ่งค่อนข้างกระแหนะกระแหน ไป๋หรงก็แค่หน้าตาดี นักข่าวก็รอสีหน้าที่ปรับเปลี่ยนของไป๋หรง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจึงหันไปสัมภาษณ์หลี่จวินแทน อย่างไรก็ยังมีนักข่าวที่ทางกองถ่ายเตรียมไว้เพื่อให้การสัมภาษณ์ไม่ออกนอกเรื่องจนเกินไป
“คุณหลี่จวินรู้สึกหนักใจไหมคะ ที่ต้องรับบทประกบคู่สาวสวยทั้งสองคน” //นักข่าวช่อง1
“ผมรู้สึกกดดันเล็กน้อยครับ เพราะละครเรื่องนี้ผู้กำกับโจวค่อนข้างซีเรียสกลัวทำออกมาไม่ดี”
หลี่จวินพยายามดึงบทสนทนากลับเข้ามาในเรื่องของละคร
นักข่าวจึงมีคำถามตามสิ่งที่ควรถามไป 4-5 ประโยค เมื่อคำถามเกี่ยวกับบทจบไป ก็ถึงช่วงคำถามส่วนตัว
“คุณไป๋หรงค่ะ พวกพี่ขอคนละคำถามสองคำถามค่ะ” นักข่าวเดินตามไป๋หรง
“ได้ค่ะ ยินดีค่ะ”
เมื่อถูกล้อมไปด้วยนักข่าวไป๋หรงก็เริ่มมีอาการร้อน เฟยเฟยก็คอยพัดคอยวีและเสิร์ฟน้ำอยู่ข้าง ๆ อย่างเอาใจ
“สักครู่นะคะ สักครู่ขอน้องไป๋หรงดื่มน้ำสักครู่นะคะ” เธอตะโกนขอร้องนักข่าว
ไม่รอให้ไป๋หรงพร้อม นักข่าวก็ยิงคำถามทันที
“คุณไป๋หรงตอนนี้ได้คบกับคุณอี้เฟยหยางรึเปล่าคะ” //นักข่าวช่อง1
“ไม่ค่ะ เราเพิ่งจะรู้จักกันถือว่าเป็นเพื่อนกันค่ะ” ไป๋หรงตอบชัดถ้อยชัดคำไม่ได้มีท่าทางเอียงอาย
“แล้วที่มีภาพว่าพวกคุณทั้งคู่ริมชายหาด คุณไป๋หรงพอจะอธิบายเพิ่มได้ไหมคะ” //นักข่าวจี้ต่อ
“เป็นเรื่องบังเอิญค่ะ เราบังเอิญเจอกัน ฉันไปพักผ่อนส่วนคุณอี้เฟยหยางไปทำธุระ”
คำตอบนี้แทบไม่มีใครเชื่อสักคน หลายคนที่กำลังฟังไลน์สดต่างก็เบ้ปากพร้อมกัน
“คาดว่าหลายคนอาจจะไม่เชื่อคำตอบ คุณไป๋หรงมีอะไรจะเสริมไหมคะ” //นักข่าวช่อง11
แม้คำถามและน้ำเสียงจะไม่เป็นมิตร ทว่าไป๋หรงกลับหัวเราะพร้อมยิ้มเจิดจ้าไม่มีสีหน้าไม่พอใจ
“ฉันเข้าใจค่ะ มันก็ยากที่จะเชื่อจริง ๆ ค่ะ ทว่าฉันไปพักผ่อนจริง ๆ เรื่องนี้กล้ายืนยัน ส่วนคุณอี้เฟยหยางต้องให้เจ้าตัวเป็นคนยืนยันเองแล้วล่ะค่ะว่าไปทำธุระจริง ๆ รึเปล่า” คำตอบปลายเปิดเช่นนี้
ทุกคนก็เริ่มคาดเดาคำตอบ หากอี้เฟยหยางยืนยันว่าไปธุระจริง ไป๋หรงก็ย่อมไม่เสียหายอะไร
แต่หากว่าฝ่ายชายยืนยันไปไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เขาตั้งใจตามฝ่ายหญิงไป ก็ยิ่งสร้างคุณค่าให้ไป๋หรง
หลายคนก็เริ่มลุ้นอยากรู้ว่าอี้เฟยหยางจะตอบยังงัย
ในขณะนั้นอี้เฟยหลิงที่กำลังดูไลน์สดอยู่ก็ยิ้มที่มุมปากเบา ๆ ภายในใจก็รู้สึกผิดหวังกับพี่สาวคนสวยเล็กน้อย
เปิดช่องให้พี่ชายขนาดนี้ สุดท้ายก็แค่หน้าตาดี