ตอนที่ 4 เกินใจจะทน

2058 คำ
หลังจากวันนั้นเพียงสองวัน ลมหนาวก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่คอนโดของรังสิมันต์ตามที่เธอบอก หญิงสาวทำการตกแต่งห้องพักแขกของเขาเอาไว้เพื่อหลับนอน ก่อนจะเริ่มคิดงาน มันดีตรงที่ได้มาอยู่เห็นหน้างานแบบนี้ด้วย และโอวี่ก็ส่งข้อมูลอ**บางส่วนมาให้เธอแล้วพร้อมทั้งเบอร์โทรและอีเมลของรังสิมันต์ “แล้วมันใช้ยังไงเนี่ย ไม่เห็นมีอะไรส่งมาเลย หรือว่ามันเสีย” “โอ๊ย มันไม่ได้เสียค่ะ มันแค่ไม่มีใครโทรเข้าหรือส่งอะไรมาทั้งนั้น แล้วนี่ทั้งวันน้องซันจะเอาแต่นั่งจ้องโทรศัพท์แบบนี้ไม่ได้นะคะ ทำงานค่ะทำงาน” เสียงโอวี่ดังขึ้นอย่างหมดความอดทน เมื่อวันนี้ทั้งวันรังสิมันต์แทบไม่เป็นอันทำอะไร เอาแต่เดินมาคอยดูที่หน้าจอโทรศัพท์เหมือนรอคอย และมีอีกอย่างที่เธอแปลกใจก็คือ ตั้งแต่เริ่มเข้าวงการรังสิมันต์ก็บอกเธอว่าเขาจะไม่ใช้โทรศัพท์เด็ดขาดแต่พอเมื่อวันก่อนกลับบังคับให้พาออกไปซื้อ เอารุ่นใหม่ล่าสุดเสียด้วย พอถามเหตุผลเขาก็ไม่ยอมตอบ “นี่พี่แน่ใจนะว่าให้เบอร์กับอีเมลของผมกับยัยมัณฑนากรนั่นไปแล้ว ป่านนี้ทำไมยังไม่เห็นส่งงานมาให้ผมดูเลยล่ะ” “หืม เธอพึ่งย้ายเข้าไปอยู่วันนี้ คงยุ่ง ให้เวลาเธออีกสักนิดเถอะ พี่รับรองน้องซันไม่ผิดหวังแน่นอน เธอเป็นมัณฑนากรระดับโลกเลยนะคะ” รังสิมันต์หันไปมองโอวี่ทันทีที่บอกว่าลมหนาวนั้นเป็นถึงมัณฑนากรระดับโลก ก่อนจะมองจ้องหน้าผู้จัดการส่วนตัวอย่างขอข้อมูลเพิ่ม “พี่โอวี่ก็รู้มาแค่คร่าวๆน่ะค่ะ ว่าลมหนาวเนี่ยมีชื่อเสียงระดับโลกเรื่องการออกแบบ เธอออกแบบได้ทุกอย่างไม่ใช่แค่ภายในนะคะ เห็นว่าใครก็อยากได้ตัวไปร่วมงานด้วย แต่เธอขอรับงานเป็นครั้งๆแบบนี้เอา นี่ถือว่าน้องซันโชคดีนะคะที่เธอต้องมาทำธุระที่ไทยเลยยอมตกลงที่จะทำงานให้เรา เพราะเพื่อนของพี่โอวี่ขอร้องเอาไว้” รังสิมันพยักหน้ารับรู้ แต่ก็ยังไม่อยากเชื่อเพราะยังไม่เคยเห็นฝีมือของเธอ ขนาดคนก่อนหน้านี้โอวี่ยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าเก่งที่สุดในประเทศ เขายังไล่ออกทันทีที่เห็นผลงานที่ส่งมาเลย “ขอให้ทำได้อย่างที่พูดแล้วกัน ถ้าไม่อย่างนั้น ผมจะ...” “จะอะไรคะ!! ไม่ได้นะคะน้องซัน! ไม่ได้อย่างเด็ดขาด!” โอวี่รีบบอกขึ้น กลัวว่ารังสิมันต์จะทำกับลมหนาวเหมือนกับทุกคนที่ผ่านมา ซึ่งทำเอาเธอแทบไม่กล้ามองหน้าพวกนั้นเลยด้วยซ้ำ รังสิมันต์ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาลุกเดินออกไปเพื่อจะเข้าฉาก เมื่ออีกไม่นานละครที่เล่นจะออนแอร์ทางหน้าจอทีวีแล้ว ส่วนทางด้านลมหนาว เธอกำลังเคร่งเครียดกับการออกแบบห้องอันใหญ่โตเทียบเท่ากับบ้านทั้งหลังเลยก็ว่าได้ของรังสิมันต์ หญิงสาวเดินออกไปสำรวจรอบๆดูอีกที ก่อนจะกลับมานั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง เมื่องานครั้งนี้ถูกเร่งรัดด้วยเวลาและอะไรหลายๆอย่างที่เธอต้องทำให้เสร็จก่อนครบกำหนดกลับ มันทำให้จากครั้งแรกที่คิดว่าง่ายกลับเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นเพียงสองวัน เธอก็เริ่มส่งงานไปให้รังสิมันต์ตามที่เขาแจ้งมาหลังจากปล่อยให้ชายหนุ่มแทบลงแดงตายจากการหายเงียบไปของเธอ ติ๊ง!! ขณะที่รังสิมันต์กำลังนั่งพักหลังจากถ่ายงานเสร็จ เสียงโทรศัพท์ที่เขาไม่เคยได้ยินเสียงมันก็ดังขึ้น ทำเอาชายหนุ่มถึงกับตกใจสะดุ้งก่อนจะนึกได้ว่าน่าจะเป็นของเขา เพราะมีเพียงเขาที่นั่งอยู่ในห้องนี้ ชายหนุ่มรีบหยิบมันออกมาดูทันที ก่อนจะเป็นสิ่งที่เขารอคอยนั่นก็คือข้อความจากลมหนาว “อ่าว รหัสเหรอ? แล้วนี่มันรหัสอะไรวะเนี่ย!!!!” พอจะเปิดเข้าไปดู หน้าจอกลับโชว์รหัสให้เขาใส่ ทำเอารังสิมันต์ถึงกับหัวเสียขึ้นมาทันที เมื่อเขาลืมรหัสที่โอวี่บอกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากไม่เคยได้ใช้งานเลยสักครั้ง ชายหนุ่มพยายามกดลองแล้วลองอีกจนตอนนี้ไม่สามารถกดได้อีกเนื่องจากเครื่องถูกล็อกเอาไว้ชั่วคราว ผลั๊ก!!!! “โธ่เอ้ย!!! ไร้ค่าสิ้นดี!” โทรศัพท์เครื่องบางลอยเคว้งก่อนจะร่วงหล่นลงพื้นตามแรงโยนของเจ้าของ เมื่อตอนนี้ความโกรธกำลังเข้าครอบงำ ทำเอาโอวี่ที่อยู่ด้านนอกรีบวิ่งเข้ามาดูเมื่อได้ยินเสียงดังมาจากในห้องพักของรังสิมันต์ “อ๊าย!! นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะน้องซัน ทำไมโทรศัพท์ถึงมากองอยู่ตรงนี้คะเนี่ย!” โอวี่พูดขึ้นอย่างตกใจที่เดินเข้าไปแล้วเหยียบเอาโทรศัพท์เครื่องบางแสนแพงที่พึ่งซื้อให้กับรังสิมันต์ ก่อนจะรีบก้มหยิบมันขึ้นมาเมื่อพบว่ามันไม่ได้เป็นอะไร “จะใส่รหัสบ้าบอนั่นทำไมกัน!!!” โอวี่ถึงกับอ้าปากร้องอ๋อขึ้นมาทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น ก่อนจะเดินเข้ามาแล้ววางมันลงข้างกายชายหนุ่ม “รหัสแค่หกตัวค่ะ วันและปีเกิดของน้องซันไงคะ แค่นี้ก็จำไม่ได้” “เปลี่ยนๆๆๆ เอาหนึ่งถึงหก เปลี่ยนเดี๋ยวนี้เลย” โอวี่หยิบมันขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับเปลี่ยนรหัสให้กับรังสิมันต์ใหม่ “มันมีแบบสแกนลายนิ้วมือกับสแกนหน้า แค่จับมันด้วยมือข้างที่สแกนก็เข้าได้แล้วไม่ต้องใช้รหัส น้องซันจะเอาไหม พี่จะทำให้” “อ่าว? แล้วทำไมไม่ทำตั้งแต่ทีแรก จะให้มาจำวุ่นวายทำไม เดี๋ยวผมก็ไล่ออกให้ไปอยู่กับพ่อซะหรอก!” รังสิมันต์พูดออกมาอย่างไม่รู้สึกว่าตัวเขาเองผิด เมื่อโอวี่ไม่ได้บอกนั่นแสดงว่าเขาไม่ผิดที่จำรหัสไม่ได้ เอาโอวี่ถึงกับถอนหายใจกับประโยคหลังที่บอกว่าจะไล่เธอออก จากนั้นเธอเลยตั้งสารพัดค่าการใช้งานให้กับรังสิมันต์ ก่อนจะสอนเล่นอยู่พักใหญ่ๆชายหนุ่มก็บอกเข้าใจ กว่าจะเข้าใจก็ทำเอาโอวี่เหนื่อยหอบเลยทีเดียว “หืม?” พอเปิดเข้าไปดูอีเมลและข้อความที่ลมหนาวส่งมารังสิมันต์ถึงกับรู้สึกสนใจในทันที เพราะมันเป็นแบบสเก็ตการออกแบบห้องคร่าวๆแต่กลับทำให้เขาจิตใจสั่นไหวได้อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะมันแทบจะเหมือนที่เขาวาดฝันเอาไว้ไม่มีผิดเพี้ยนถึงภาพมันจะยังไม่สมบูรณ์ก็ตามที เขารีบกลับไปที่หน้าข้อความ ก่อนจะพยายามพิมพ์เพื่อส่งข้อความไปหาลมหนาว ‘เดี๋ยวเย็นนี้ผมจะเข้าไป’ เพียงแค่นั้นก่อนพวกทีมงานจะเข้ามาเรียกให้เขาออกไปด้านนอกเมื่อถึงเวลาทำงานอีกครั้งแล้ว แต่ตอนนี้จิตใจเขากลับลิงโลดไปอยู่ที่คอนโดเรียบร้อยแล้ว “หืม? จะเข้ามางั้นเหรอ” พอได้รับข้อความของรังสิมันต์ ทำเอาหัวใจดวงน้อยๆที่อุตส่าสงบมาได้สองสามวันถึงกับเต้นรัวเร็วอีกรอบ เมื่อเหตุการณ์วันนั้นดันผุดขึ้นมาในหัวของเธออย่างห้ามไม่ได้นี่ถ้าเธอไม่ขัดขืนป่านนี้เธอกับเขาคงถึงไหนต่อไหนกันไปเรียบร้อยแล้ว พอคิดมาถึงตรงนี้ลมหนาวก็รู้สึกเสียดาย เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นทุกอาจจะง่ายขึ้นก็ได้ ก่อนจะกลับเข้ามาโฟกัสงานตรงหน้าอีกรอบ เมื่อเวลาของเธอที่นี่นั้นเหลือไม่มากแล้ว หลังจากนั้น พอเลิกงานรังสิมันต์ก็ขับรถตรงมาที่คอนโดทันทีโดยบอกให้โอวี่อยู่คุยงานกับผู้กำกับละครไปคนเดียว ทำเอาโอวี่ต้องเอ่ยขอโทษขอโพยกันยกใหญ่เพราะพระเอกของเรื่องดันหนีกลับก่อน และพอมาถึงรังสิมันต์ก็ไม่ได้รีรอหรือแจ้งลมหนาวเขาเดินขึ้นลิฟต์ไปยังห้องทันที ก่อนจะเปิดเข้ามาอย่างไม่ต้องเสียเวลาเคาะเพราะเขามีรหัสของมันอยู่แล้ว ชายหนุ่มเดินมองไปรอบห้อง ที่ตอนนี้ดูสะอาดกว่าแต่ก่อนเพราะมีคนมาอาศัยอยู่ “คุณ...อยู่รึเปล่า” เขาเอ่ยเรียกเมื่อมันดูเงียบงันผิดปกติก่อนจะเร่งก้าวเดินเข้าไปยังห้องที่เธอขออาศัย รังสิมันต์ขมวดคิ้วอย่างสงสัยเมื่อห้องไม่ได้ปิดและคอมพิวเตอร์ก็ยังเปิดเอาไว้แต่เจ้าตัวดันหายไป เขาจ้องมองภาพบนหน้าจอคอมพิวเตอร์นิ่งด้วยหัวใจที่เต้นระรัวเร็ว ก่อนจะเผลอเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วจับเมาส์เลื่อนดูให้ละเอียด และยิ่งได้เห็นเขายิ่งไม่อยากเชื่อ เมื่อภาพที่เธอออกแบบมานั้นช่างเหมือนกับที่เขาจินตนาการเอาไว้ไม่มีผิด ห้องพักที่ดูเรียบหรูแต่เต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึก ที่เขาพยายามให้นักออกแบบหลายต่อหลายคนร่างมันออกมาให้เขาแต่ก็ไม่มีใครเคยทำได้เลยสักคน แต่ลมหนาวกลับทำมันได้อย่างเหลือเชื่อ และดีมากจนเขาแทบไม่อยากเปลี่ยนแปลงตรงไหน เขาอยากให้ห้องของเขาออกมาเหมือนภาพที่เธอออกแบบเอาไว้ทุกอย่างแม้กระทั่งระเบียงเธอยังออกแบบมันออกมาได้อย่างลงตัว “ว๊าย!!! คุณ!!!” เสียงลมหนาวร้องดังขึ้นเมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วเจอเข้ากับร่างสูงใหญ่ของรังสิมันต์ ชายหนุ่มตกใจเสียงร้องรีบหันไปมอง ก่อนจะตกตะลึงเมื่อตอนนี้ร่างสาวไร้ซึ่งการปกปิด ร่างขาวเปลือยเปล่ามีหยดน้ำเกาะไปทั่วอย่างเซ็กซี่ระคนเรียกร้องให้เข้าหา ลมหนาวที่ทำอะไรไม่ถูกจะวิ่งกลับเข้าไปก็กลัวเขาเห็นบั้นท้ายพลันสายตามองไปเห็นผ้าเช็ดตัวที่เธอลืมเอาไว้บนเตียง หญิงสาวเลยตัดสินใจวิ่งตรงเข้าไปเพื่อที่จะหยิบมันโดยที่ไม่รู้เลยว่าทุกสัดส่วนกำลังเด้งไปมาอวดความเต่งตึงและเชิญชวนให้เชยชิม แต่ช้าไปกว่ารังสิมันต์ที่นั่งอยู่ไม่ไกลกระโจนเข้าไปหยิบมาก่อน ลมหนาวถึงกับนิ่งตาค้างไม่นึกว่าเขาจะทำอย่างนั้น ก่อนจะรีบเอามือเล็กขึ้นมาปกปิดร่างเล็กแทน แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเมื่อทุกอย่างมันใหญ่ล้นออกมาจนปิดไม่มิด “เอามานะ! นี่คุณจะบ้ารึไง เอาคืนมานะ” “ทำไมผมต้องคืน...” เสียงที่บ่งบอกว่ากำลังผิดปกติของรังสิมันต์บอกขึ้น พร้อมกับเอาผ้าเช็ดตัวไปไว้ด้านหลังของเขา ลมหนาวที่ไม่ทันคิดพยายามเข้ามาเพื่อจะแย่งคืนจนร่างเปลือยแนบชิดถูไถกับร่างใหญ่ที่แข็งขึงตั้งแต่ได้เห็นร่างเปลือยของเธอแล้ว สุดท้ายความอดทนทั้งหมดที่มีมาก็พังทลายลง รังสิมันต์เอื้อมมือลงไปกอดเอวเล็กแน่นก่อนจะกดจูบลงไปบนปากเล็กที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวของหญิงสาวทันที ส่วนทางด้านลมหนาว ที่ตกตะลึงกับความเผอเรอของตัวเองจนพลาดท่าให้กับเขาอีกครั้งจนได้นั้น พยายามดันร่างใหญ่ให้ออกห่างทั้งๆที่ไร้การตอบสนอง เมื่อตอนนี้ความหอมหวานที่เคยได้เชยชิมกำลังทำให้เขาคลั่งอีกครั้ง เรียวลิ้นร้อนของรังสิมันต์เฝ้าตักตวงอย่างไม่คิดหยุดถึงแม้ว่าหญิงสาวจะไม่ตอบสนองเพราะมัวแต่ผลักไสเขา แต่คราวนี้เขาจะไม่ยอมหันหลังหนีอีกแล้วเมื่อครั้งก่อนทำเอาเขาแทบลงแดงตาย กว่าจะสงบสติอารมณ์ให้กลับมาปกติได้ก็ใช้เวลาถึงสามวันเต็มๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม