ตึก MRT
ภายในห้องทำงาน
ก๊อก!ก๊อก!ก๊อก! เสียงเคาะประตูจากภายนอกเป็นสัญญาณขออนุญาต
“เข้ามา!”ทันทีที่เสียงจากภายในดังขึ้น
ประตูถูกเปิดออกพร้อมร่างสูงจากบอดี้การ์ดซึ่งทำหน้าที่ดูแลปรางค์ลดาก้าวเข้ามาภายในห้องพร้อมยื่นเอกสารที่อยู่ในมือให้กับประธานหนุ่มหล่อ
“เอกสารจากมหาวิทยาลัยของคุณปรางค์ลดาครับ”
สิ้นเสียงรายงาน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความแปลกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“เอกสารของปรางค์ลดา ทำไมถึงส่งมาที่พักของฉัน”คอนเนอร์เอ่ยถามด้วยความแปลกใจ
“เพื่อนของคนปรางค์ลดา มาที่เพ้นท์เฮ้าส์เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา เธอบอกว่าเอาเอกสารของมหาวิทยาลัยมาให้ เป็นเอกสารสำคัญมากเพราะถ้าไม่มีเอกสารฉบับนี้คุณปรางค์ลดาก็จะไม่สามารถจบการศึกษาได้ตามกำหนด
“อย่างนั้นเหรอ”ชายหนุ่มพึมพำพร้อมยื่นมือหนารับซองเอกสารจากบอดี้การ์ด ก่อนจะแกะเอกสารภายในเพื่ออ่านข้อความที่อยู่ในนั้นทั้งหมด ครั้นได้อ่านข้อความทั้งหมดที่อยู่ในนั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เอกสารส่งตัวปรางค์ลดาให้ไปฝึกงานภาคฤดูร้อน”ชายหนุ่มกล่าวออกมาเบาๆ มือหนายังคงถือเอกสารจากมหาวิทยาลัยชื่อดังอยู่เช่นนั้น ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือกดหมายเลขปลายทางทันที
ครั้นเมื่อปลายสายรับ
“เพื่อนของปรางค์ลดาเป็นคนเอาเอกสารฉบับนี้มาให้ใช่ไหม”คอนเนอร์ยิงคำถามแรกทันที
“ใช่แล้วครับท่าน”ปลายสายตอบกลับมา
“เพื่อนที่มาผู้หญิงหรือผู้ชาย แล้วรู้ที่อยู่เพ้นท์เฮ้าส์ได้อย่างไง”ชายหนุ่มซักไซ้ต่อไปอีก
“คนที่มาจะเป็นผู้หญิงก็ไม่ใช่ผู้ชายก็ไม่เชิงครับเจ้านาย เธอเป็นเพศที่สามคือกะเทย..แต่สวยมาก แล้วที่มาเพ้นท์เฮ้าส์ได้ก็เพราะคุณปรางค์ลดาบอกที่อยู่ให้เพื่อนของเธอนำเอกสารมาให้ครับ”ปลายสายเล่าเหตุการณ์อย่างละเอียด
มือหนากดตัดสายโทรศัพท์โดยพลันเมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตร ไร้รอยยิ้มแย้มเยือนแลดูช่างเย็นชาเสียนี่กระไร ทว่าเพียงครู่ใบหน้าหล่อเหลากลับค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาหากแต่เป็นรอยยิ้มที่แฝงเร้นความเจ้าเล่ห์อย่างล้นเหลือ จอมบงการเริ่มวางแผนอีกแล้ว
“มาไม้นี้ใช่ไหมปรางค์ลดา...คิดรึว่าคนอย่างฉันจะรู้ไม่ทันเธอแม่สาวน้อย”คอนเนอร์แสยะยิ้มด้วยรู้เท่าทันแผนการของเด็กสาวที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่กับเขาเป็นเวลาถึงหนึ่งปีเต็มเลยทีเดียว
ภายในห้องกิจกรรมนักศึกษา
“ห๊ะ! ไปฝึกงานที่เชียงราย!”น้ำเสียงบ่งบอกถึงความงุนงงระคนสงสัยอย่างสุดขีด สาวน้อยหน้าสวยหันกลับไปมองใบหน้าหวานของเพื่อนรักคล้ายขอคำตอบ
“มีอะไรอย่างนั้นรึปรางค์ลดา!”อาจารย์ที่ปรึกษาของเธอมองหน้าเด็กสาวสวยตรงหน้านางก่อนจะหันไปมองคนยืนข้างๆ ที่กำลังยืนงงไม่แพ้กัน
“ว่าอย่างไงสุระศักดิ์ พากันยืนงงอะไรกัน”
ครั้นคนถูกถามเริ่มรู้สึกตัวจึงรีบตอบกลับไปทันที
“แหม...อาจารย์คะ...หนูชื่อน้ำผึ้ง กำลังจะเปลี่ยนชื่อเป็นณัฐริกา ลืมชื่อหนูอีกแล้ว”เจ้าหล่อนจีบปากจีบคอบอกคนเป็นอาจารย์พลางทำท่ากระเง้ากระงอดเมื่อถูกเรียกชื่อบุรุษเพศออกมาเช่นนั้น
“ฉันไม่ได้ลืมชื่อของเธอเลยยะสุระศักดิ์ ก็ตอนนี้เอกสารทางงานทะเบียนและเอกสารเกี่ยวกับทางราชการ ตลอดจนบัตรประชาชนของเธอมันเปลี่ยนมาเป็น นางสาวณัฐริกาหรือยัง ถ้ายังไม่เปลี่ยนอาจารย์ก็ยังเรียกเธอถูกเสมอ เอ้า! เธอทั้งสองคนเซ็นรับเอกสารหนังสือส่งตัวกันได้แล้ว”อาจารย์วัยกลางคนกล่าวตัดบท พร้อมยื่นซองเอกสารให้กับลูกศิษย์ของหล่อน
สองเพื่อนซี้ก้มหน้าก้มตาเซ็นรับเอกสาร ก่อนจะยกมือไหว้อาจารย์ที่ปรึกษาของเธอ เอกสารตรงหน้าถูกดึงออกมาจากซองโดยพลัน
“เฮ้ย! น้ำผึ้งทำไมฉันถูกส่งตัวไปฝึกงานที่โรงแรมราชาวดี ที่เชียงรายวะ ทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้ หนังสือส่งตัวของฉันจะต้องไปฝึกงานที่เกาะช้างไม่ใช่เหรอ ก็ไหนบอกว่าคุณอาของแกตอบตกลงและมีหนังสือส่งมาให้แล้วอย่างไงล่ะ”หญิงสาวพูดพร้อมใช้นิ้วจิ้มเอาจิ้มเอาไปที่ข้อความซึ่งระบุไว้อย่างชัดเจน
“โอ้ย! อย่าเพิ่งถามตอนนี้ได้ไหมวะปรางค์ อย่าว่าแต่แกเลย ฉันเองก็ยังงงไม่หาย ทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้มันเกิดอะไรขึ้น...โคตรงงเลย”แม่น้ำผึ้งพูดพร้อมยกมือเกาศีรษะตัวเอง
“แล้วหนังสือส่งตัวของแกให้ไปฝึกงานที่ไหนเหรอ”หญิงสาวเอ่ยถามกลับไป
“เกาะช้าง...โรงแรมที่อาฉันเป็นผู้จัดการอยู่ที่นั่น”
“อ้าว! นี่ฉันกับแกฝึกงานกันคนละที่หรือนี่...อย่าบอกนะว่าจะต้องไปฝึกงานคนเดียว”ปรางค์ลดาเริ่มสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูก
ทันใดนั้น
“นางสาวปรางค์ลดา พาณิชย์เจริญกุล ผู้ปกครองมารอพบค่ะ”เสียงประกาศเรียกชื่อส่งเสียงตามสายดังกึกก้องจนได้ยินไปทั่ว
“ใครวะปรางค์มารอพบแก หรือว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ของแกมารอพบ”
ทันทีที่เพื่อนรักบอกเช่นนั้น ใบหน้าสวยฉีกยิ้มด้วยความดีใจอย่างเห็นได้ชัด
“ไปเร็วไอ้ผึ้ง! ไปหาคุณพ่อคุณแม่ของฉันกันเถอะ”
บริเวณตึกด้านหน้าของมหาวิทยาลัย
ร่างสูงใหญ่ของคอนเนอร์ กำลังเดินฝ่ากลุ่มเด็กสาวซึ่งเป็นนักศึกษาต่างพากันยกโทรศัพท์มือถือของตนเองเพื่อถ่ายรูปชายหนุ่มเก็บไว้
ใบหน้าหล่อเหลาสวมแว่นกันแดดสีดำสนิท เต็มไปด้วยความเคร่งขรึมและประทานโทษ พ่อเจ้าประคุณ โคตรหล่อวัวตายควายล้มเป็นยิ่งนัก ไม่ว่าจะเดินผ่านไปทิศทางใดทำให้บรรดาสาวน้อย สาวใหญ่ สาวทุกรุ่นส่งเสียงกรี๊ดจนมหาวิทยาลัยแทบแตก
แต่ละนางชม้อยชม้ายชายตา ทิ้งสายตาเป็นการเชิญชวนอย่างเห็นได้ชัด ชายหนุ่มเดินมาตามทางเดินเพื่อรออยู่หน้าตัวตึกแต่เพียงลำพัง โดยไม่มีบอดี้การ์ดติดตามแม้แต่คนเดียว ทั้งนี้เพื่อมิให้แลดูเอิกเกริก ก่อนจะหยุดเดินทันทีเมื่อสายตาเห็นจุดหมายของเขาแล้ว
ชายหนุ่มยกมือขึ้นกอดอกมองร่างระหงตรงหน้าที่กำลังเดินมาพร้อมกับเพื่อนสนิทซึ่งเป็นกะเทยยังไม่ได้แปลงเพศและนั้นทำให้ใบหน้าหล่อถมึงทึงขึ้นมาทันทีเพราะเห็นปรางค์ลดาจับมือมากับเพื่อนของเธอไม่ยอมปล่อย
“จับมือไม่ยอมปล่อยแบบนั้นกลัวจะหายตามตัวไม่เจอหรืออย่างไง”ชายหนุ่มพึมพำ
ข้างฝ่ายแม่สาวน้อยหลังจากวิ่งหน้าตั้งทันทีที่ได้ยินประกาศขานชื่อของเธอ เมื่อเห็นร่างสูงตรงหน้าซึ่งกำลังยืนมองเขม็งตรงมาที่เธออยู่ในขณะนี้
“บ้าเอ้ย! ทำไมกลายเป็นอีตาผู้ชายลามกนี้ไปได้”หญิงสาวกล่าวอย่างหัวเสีย ความดีใจมลายหายไปโดยพลัน
หากแต่คนข้างๆ เธอสิกลับมีอาการตรงกันข้าม
“โอ้ยตาย! กูตาย! กูอยากตายวันละหนึ่งพันรอบ ผู้ชายอะไร้หล่อโคตรๆ แมนโคตรๆ เซ็กซี่โคตรๆ ฉันละอิจฉาแกเป็นบ้าเลยไอ้ปรางค์ ถ้าเป็นนางน้ำผึ้งละก็แม่จะนอนถวายตัว เฝ้าปรนนิบัติรับใช้ นัวเนียไม่ยอมห่างทั้งวันทั้งคืนเลยเชียวละ”
คำกล่าวของเพื่อนรักทำให้ปรางค์ลดาหมั้นไส้เพื่อนตัวเองอย่างยิ่งยวด จนอยากจะถีบส่งให้มันรู้แล้วรู้รอดไปซะเลยทีเดียว
“ไอ้ผึ้ง! น้อยๆ หน่อยวะแก บ้าผู้ชายแบบนี้เข้าไปได้อย่างไง ทั้งเถื่อน กักขฬะ หยาบคาย ไม่มีอะไรดีเลยในตัวผู้ชายคนนี้ฉันจะบอกให้แกรู้”หญิงสาวบอกเพื่อนรัก
ทว่าเพื่อนของเธอกลับสวนกลับมาอย่างทันควัน
“แบบนี้สิดี! ถึงจะเรียกว่าผู้ชายโคตรแมน ให้ตายเถอะดูแปบเดียวรู้เลยว่า คุณคอนเนอร์ของแกไฟฟ้าแรงสูงระดับอภิมหาโรงงานเลยนะเว้ย!!!”แม่เพื่อนรักพูดพร้อมหัวเราะคิกคักเป็นการใหญ่
“ไฟฟ้าระดับโรงงานอะไรวะผึ้ง พูดอะไรออกมาไม่เห็นเข้าใจเลย”หญิงสาวถามเพื่อนรักด้วยความสงสัย หากแต่อีกฝ่ายยังไม่ทันเอื้อนเอ่ยเสียงของคนที่กำลังถูกกล่าวถึงก็แทรกดังขึ้นมาโดยพลัน
“มัวยืนทำอะไรปรางค์ลดา กลับบ้านกันได้แล้วฉันอุตสาห์มารับ”คอนเนอร์พูดพร้อมก้าวเดินจนมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเด็กสาวพร้อมก้มลงมองใบหน้าสวยของสาวเจ้าก่อนจะหันกลับไปมองแม่น้ำผึ้งหนุ่มที่กำลังยืนระทดระทวยยามได้เห็นเขาในระยะใกล้ชิด
“โอ้ย! ยิ่งเห็นใจยิ่งละลาย ไอ้ผึ้งจะทนไม่ไหวแล้ว”ชายหนุ่มรำพึงอยู่ภายในใจก่อนจะได้ยินเสียงแม่เพื่อนรักของเค้าดังแทรกขึ้น
“ใครใช้ให้คุณมารับ... หมดวิชาเรียนเดี๋ยวฉันก็กลับไปเองนั้นแหละ”หญิงสาวสะบัดเสียงใส่ด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะต้องตกใจเมื่อมือหนาของคนตัวโตกระชากมือเรียวของสาวเจ้าออกจากมือของเพื่อนรักที่เธอกำลังจับมืออยู่ในขณะนี้
“ประทานโทษนะคุณ! นี่มือของเมียผม...ผู้ชายคนอื่นห้ามแตะนอกจากผัวคนเดียว”ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังกับเพื่อนสนิทของหญิงสาว
“ว้ายยตายแล้ว! ผัวของไอ้ปรางค์ประกาศตัว”น้ำผึ้งส่งเสียงออกมาทันที
“ไอ้ผึ้ง! แกพูดอะไรออกมารู้ไหม!”หญิงสาวปรามเพื่อนรักพร้อมหันกลับไปต่อว่าคนตัวโตกว่าทันที
“นี่คุณพูดอะไรบ้าๆ ออกมา...ใครเป็นเมียของคุณ”หญิงสาวเอ็ดเสียงเขียวขึ้นมาทันที
“ปรางค์ลดา! พูดให้ดีๆ ว่าผู้ชายตรงหน้าของเธอในขณะนี้ควรจะเรียกว่าอะไร คนที่เป็นผัวจะพูดอย่างไงก็ได้ ส่วนเพื่อนของเธอผู้ชายก็ไม่ใช่ผู้หญิงก็ไม่เชิง ผ่าแค่บนแต่ยังไม่ผ่าล่างตัดออกไป อย่าได้ริอ่านมาจับมือถือแขนเมียคนอื่นแบบนี้!”คอนเนอร์พูดเร็วเป็นปืนกลจนฟังแทบไม่ทัน
ชายหนุ่มไม่พูดพล่ามทำเพลง จับข้อมือเรียวพร้อมดึงไปตามแรงของเค้าเพื่อพากลับที่พักไปพร้อมๆ กัน ท่ามกลางเสียงร้องโวยวายของสาวเจ้า
“เดี๋ยว! เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อน! ฉันยังไม่หมดวิชาเรียนเลยนะคุณ ยังเหลืออีกตั้งสองวิชา”
“ไม่ต้องรงต้องเรียนมันแล้ว! กลับไปพร้อมกันเดี๋ยวนี้!”ชายหนุ่มตอบกลับไปโดยไม่หันมามอง จนอีกฝ่ายต้องหันไปขอความช่วยเหลือเพื่อนรัก
“ไอ้ผึ้ง!ช่วยฉันด้วย”หญิงสาวพูดพร้อมใช้มืออีกข้างกวักเรียกเพื่อนรัก
ข้างฝ่ายแม่น้ำผึ้งหนุ่มได้แต่ส่ายหน้าไปมาด้วยความกลัวเกรงหนุ่มหล่อแต่โคตรโหด
“ตัวใครตัวมันวะไอ้ปรางค์ ฉันช่วยอะไรแกไม่ได้หรอก คุณคอนเนอร์ตัวเค้าโตกว่าเพื่อนของแกคนนี้ร้อยเท่าเลย แถมโคตรโหด ดุฉิบหาย หึงน่ากลัววะขนาดฉันเป็นกะเทยยังโดนแรงขนาดนี้เลย ถ้าผู้ชายเต็มตัวจะโดนขนาดไหนวะเรา”น้ำผึ้งบ่นรำพึงรำพัน ก่อนจะยกมือโบกไปมา
“บาย บาย โชคดีวะไอ้ปรางค์ หวังว่าคืนนี้แกจะอยู่รอดปลอดภัยนะ แต่ท่าทางดูแววแล้วเห็นทีจะรอดยาก”
ร่างระหงถูกคนตัวโตกึ่งเดินกึ่งลากไปตลอดทางเดินภายในมหาวิทยาลัย ผ่านสายตาของผู้คนมากมายจนต่างต้องหยุดยืนมองและทำท่าจะทักทายเพราะรู้จักปรางค์ลดาเป็นอย่างดี
“ปรางค์! เป็นอะไรหรือเปล่า แล้วนั่นเธอจะไปไหนกับใครอย่างนั้นเหรอ”เพื่อนต่างคณะผู้หวังดีเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่จุดประสงค์หลักคือบุรุษหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาที่พกพาความไฮโซเต็มไปด้วยสิ่งหรูหราอยู่บนตัวของเขา
“อย่าสอดเรื่องของคนอื่นแม่สาวน้อย มีเรียนก็รีบไปเรียน...เชิญไปไกลๆ ที่อื่น”คอนเนอร์ตะคอกเสียงต่ำขับไล่เด็กสาวซึ่งทำทีอยากเข้ามาช่วยเหลือปรางค์ลดา จนอีกฝ่ายหน้าเจื่อนอย่างเห็นได้ชัด
ร่างใหญ่หันกลับไปใช้ลำแขนแข็งแกร่งคล้องแขนของแม่สาวน้อย ก่อนจะลากร่างอรชรที่แทบจะเดินตัวลอยตามเขาไปอยู่ในขณะนี้ จวบจนกระทั่งถึงรถยนต์คันหรูที่จอดอยู่ในลานจอดรถ ร่างระหงถูกผลักเข้าไปภายในรถดังกล่าวอย่างรวดเร็ว
ตุ๊บ! ร่างอรชรกระแทกลงนั่งบนเบาะรถอย่างแรง
“โอ๊ย!เจ็บนะ!”หญิงสาวร้องบอกทันใด
“ไง! จะให้ป่าวประกาศทั่วมหาวิทยาลัยก็ได้นะ ว่ามีผัวแล้ว อยู่กับคนอื่นก็เห็นพูดดีกับทุกคนแต่กับฉันที่เป็นผัวของเธอแท้ๆ แค่คำให้เรียกยังไม่ยอมที่จะพูดออกมาเลย”ชายหนุ่มตะคอกเสียงใส่
“ก็ดีกว่าอยู่กับคนใจร้ายแบบคุณก็แล้วกัน” หญิงสาวย่นจมูกเข้าหากันด้วยความหมั้นไส้ เป็นเหตุให้อีกคนแอบอมยิ้มก่อนจะเดินอ้อมรถเปิดประตูด้านคนขับพร้อมนั่งลงอย่างรวดเร็ว
“อย่ามาต่อปากต่อคำ รู้อยู่แล้วว่าไม่ชอบ...หรือว่า”ชายหนุ่มพูดพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนแม่สาวน้อยกระเถิบถอยหนีเพราะไม่เคยชินกับลมหายใจอุ่นๆ ที่รินรดผิวแก้มจนหลังชิดกับประตูรถ
คอนเนอร์ตวัดลำแขนโอบเอวคอดกิ่วดั่งตัวเอสเข้ามาใกล้แทบจะให้นั่งบนตักก็ว่าได้ เนื้อตัวนุ่มนิ่มของหญิงสาวในเวลานี้ช่างเย้ายวนยิ่งเพิ่มความต้องการของเขามากขึ้นอย่างไม่มีสิ้นสุด กลิ่นหอมอ่อนๆจากกายสาวทำให้ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะฝังจมูกดอมดมซอกคอขาวระหง
อื้ม อื้อ หญิงสาวปัดป้องเป็นพัลวันเมื่ออยู่ๆ เขาก็จู่โจมไม่ให้เธอทันตั้งตัว มืออันร้อนผ่าวเริ่มแปลงร่างเป็นมือปลาหมึกกลายๆ และเริ่มติดหนึบอยู่ที่ขาเรียวพลางลูบไปมาจนหญิงสาวตัวสั่นระริก
“นี่คุณ!...อย่านะ!” หญิงสาวส่งเสียงห้ามพร้อมพยายามแกะมือปลาหมึกนั้นออก
“ฉันมีชื่อ ลืมไปแล้วหรือว่าจะต้องเรียกอย่างไง..”ชายหนุ่มกระซิบเสียงพร่าและเริ่มดึงชายเสื้อนักศึกษาของเธอให้พ้นจากขอบกระโปรง
“ปล่อยฉันนะคะ”เด็กสาวกล่าวอ้อนวอน
“ปล่อยปรางค์นะคะ….พูดใหม่!” ชายหนุ่มบอกพร้อมเชยปลายคางหญิงสาวขึ้นมาสบตาก่อนจะบดเคล้าริมฝีปากเข้าหาเธออย่างอดใจเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
ยิ่งมือเรียวที่ขยำลงบนปกเสื้อจนสัมผัสกับแผงอกของเขาอย่างที่เธอไม่รู้ตัวว่ากำลังปลุกเร้าเขาทางอ้อมนั้น ยิ่งทำให้คอนเนอร์ส่งเสียงครางออกมาอย่างไม่เคยเป็นกับผู้หญิงคนใด
“ที่รักขา ปล่อยปรางค์เถอะนะคะ บริเวณนี้ในมหาวิทยาลัยนะ”หญิงสาวพยายามดันคนตัวใหญ่ให้ออกห่างจากตัวเธออย่างยากลำบาก จนอีกฝ่ายเริ่มรู้สึกตัวว่าสถานที่แห่งนี้ช่างเป็นที่สาธารณะยิ่งนัก
“วันนี้เราสองคนต้องเคลียร์กันอีกยาว อย่างไงเธอก็ไม่รอดยายเด็กแสบ เจ้าแผนการนักนะ”ชายหนุ่มกระซิบบอกพร้อมใช้นิ้วมือเขี่ยปอยผมหญิงสาว
ครั้นยิ่งเห็นเธอตัวสั่นระริกเขากลับยิ่งชอบใจ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเธอยังปากดีเถียงคำไม่ตกฟากเลยทีเดียว เครื่องยนต์รถคันหรูถูกสตาร์ทขึ้นเร็วพลัน ก่อนจะเคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถไปอย่างรวดเร็วตามภาวะอารมณ์ของคนขับ