ตอนที่ 16 ทางเลือกของหมากบนเกม

1924 คำ
“อัคคีราห์ไอ้คนเลว!” ทันทีที่ก้าวขาพ้นจากหลังคารถหรูของอัคคีราห์ ณิชาก็ปรี่ตรงขึ้นห้องนอนเพื่อกรีดร้องระบายความอัดอั้นภายในใจตั้งแต่นั่งคุยกันเรื่องเงิน “เย็นไว้.. ยังไงเขาก็ต้องตกลงอยู่แล้ว” ณิชาพูดพลางผ่อนปรนลมหายใจที่ถี่กระชั้นให้ช้าลง พลางยกมือขึ้นเสยผมจนมันเริ่มยุ่งเหยิงเล็กน้อย อัคคีราห์พูดจาดูถูกเหยียดหยามกันไม่พอ ยังมองตัวของเธอเป็นเพียงสินค้าที่ใช้เงินจับจ่ายเหมือนของทั่วไป ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงบอกว่าเธอเป็นได้แค่ของประดับตระกูล “คืนนี้เจอกันที่ BLXCK SWXN สัญญาจะถูกร่างที่นั่น” เธอหลับตาลงเพื่อปรับอารมณ์เดือดพล่านข้างใน ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงที่ปลายเตียงพร้อมกับชูกำปั้นฮึดสู้อีกครั้ง อย่างน้อยเธอก็ไม่อยากทำให้พ่อแม่ต้องอับอายที่มีลูกสาวเกิดในตระกูลหมอ แต่กลับเลือกเส้นทางเดินต่างจากคนอื่น การได้เป็นเจ้าสาวของอัคคีราห์จากตระกูลที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น คงทำให้หลายคนที่เคยดูถูกว่าเธอเป็นหมอไม่ได้กระอักเลือดไม่น้อย “แทนที่มีลูกสาวจะจับมีดผ่าตัดเหมือนพ่อ กลับจับพู่กันวาดรูปซะงั้น” “ลูกสาวป้ากำลังเรียนต่อแพทย์ทรวงอก พ่อเขาภูมิใจน่าดู” “ถ้าณิชาไม่เรียนต่อหมอแล้วจะทำอะไร น่าเสียดายจังเลยที่มีลูกสาวแค่คนเดียว.. ไม่งั้นอีกคนคงอยากเป็นหมอแน่ๆ” คำพูดที่ณิชาได้ยินต่อหน้าและสายตาของผู้คนเหล่านั้นที่ได้เห็นเชิงประจักษ์ ทำให้เธอเกลียดชังวันรวมญาติไปโดยปริยาย เพราะเหล่าลูกชายหรือลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของคนตระกูลชีเฟิ่ง ต่างก็เรียนทางสายการแพทย์ตามรอยพ่อกับแม่พวกเขาที่วางทางไว้ มีเพียงแค่ณิชาคนเดียวที่เป็นเหมือนนกหลงฝูง เธอทำการต่อต้านเพราะอยากทำในสิ่งที่ชอบ เธอรู้ดีว่าถ้าตัวเองไม่ชอบอะไร คงทำออกมาได้ไม่ดีแน่ “อ่า ไม่มีอะไรได้ดั่งใจสักอย่างสินะ” ใบหน้าสวยฉาบรอยยิ้มกลบความเศร้าในแววตาที่หยาดน้ำสีใสเอ่อล้นออกมา กำปั้นเล็กที่บีบมือเข้าหากันจนปลายเจ็บจิกเนื้อทุบลงบนหน้าขาด้วยความขัดใจ ทุกอย่างรอบกายล้วนแล้วแต่ไม่มีอะไรได้ดั่งใจเลยสักอย่างเดียว ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นเธอก็ไม่กล้าเข้าร้านของเทียนนานเกินไป เพราะรู้ดีว่ามีคนของอัคคีราห์ตามติดเป็นเงาตามตัวเธอ ต่อให้มองไม่เห็นหรือจับไม่ได้ แต่คนพวกนี้ไม่ต่างอะไรจากผีที่หายตัวได้ไวจนเธอไล่ตามไม่ทัน เพราะงั้นการถอยห่างจากเทียนก็เพื่อเป็นการไม่ทำให้เขาเดือดร้อนเพราะเธอ.. “เฮ้อ อัคคีราห์ไอ้คนเผด็จการ.. นิสัยเสีย ไอ้คนชั่ว” ณิชาสบถหยาบถึงบุคคลที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วยการผูกใจเจ็บ ร่างบางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนแบหลาบนเตียงอย่างหมดอาลัยตายอยาก แค่ไปทานข้าวให้อร่อยยังทำให้ยากเลย คงไม่ต้องนึกถึงภาพวันวิวาห์ที่ทั้งณิชาและอัคคีราห์ต้องร่วมชายคาเดียวกัน มีหวังได้ตีกันจนบ้านแตกสาแหรกขาดไปข้างแน่ ใช่ ต้องมีใครสักคนตายไปข้างนึงแน่นอน BLXCK SWXN แบล็คสวอนเป็นคลับหรูใจกลางเมืองที่อยู่ภายใต้อำนาจของอัคคีราห์ แหล่งรวมตัวของคนมีชื่อเสียงและนักธุรกิจมากมายที่มักจะแวะเวียนเข้ามาใช้บริการ ซึ่งการตกแต่งภายนอกดูเรียบหรู แต่ก็อลังการไปด้วยแสงสีเสียง จนสมกับฉายาพยัคฆ์มังกรทองตามคำร่ำลือ “ถ้ากลับแล้วจะโทรเรียกนะคะ” ณิชาเอ่ยขึ้นกับคนขับรถประจำตระกูล ชายวัยกลางคนค้อมศีรษะรับทราบ ก่อนจะลงจากรถเพื่อเปิดประตูให้คุณหนูที่เขารับส่งประจำตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย เพราะครั้งหนึ่งณิชาเคยมีประสบการณ์ไม่ดีเกี่ยวกับการขับรถบนท้องถนน บวกกับการตัดสินใจที่ไม่ค่อยดี หลังจากนั้นเธอก็ไม่กล้าขับรถอีกเลยถึงได้ให้คนคอยรับคอยส่งมาตลอด ใบหน้าสวยเจือรอยความตื่นตระหนกในแววตาไม่น้อย ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นมั่นใจในไม่กี่วินาทีต่อมา พร้อมเชิดหน้าเข้าไว้หลังก้าวขาลงจากรถ การเผชิญหน้ากับอัคคีราห์ไม่เคยง่ายเลยสักครั้ง.. “สู้เขาณิชา” เธอพูดพลางเป่าลมร้อนผ่านริมฝีปาก สายตามองตรงไปข้างหน้าแล้วก้าวขาด้วยท่าทางมั่นใจ เดินสะโพกผายในชุดรัดรูปที่เผยให้เห็นเรือนร่างชัดทุกสัดส่วน ผิวขาวอมชมพูราวกับไข่มุกทำให้สายตาชายหนุ่มที่ผ่านไปมาเหลียวมองคอแทบเคล็ด เธอเลือกใส่เดรสแบบผ้ากำมะหยี่ เป็นสายเดี่ยวสีดำที่ไม่มีลวดลายยิ่งขลับผิวให้เปล่งปลั่งมากกว่าเดิม ชุดด้านหลังเว้าจนเห็นแผ่นหลังเรียบเนียน ช่วงอกดันทรงสวยส่งผลให้หน้าอกตูมของเธอเด่นหราขึ้นมา ไม่ว่าใครที่เดินผ่านก็ต้องหันมองกันเป็นตาเดียว “บอกอัคคีราห์ว่าฉันมา” ณิชาเอ่ยบอกกับการ์ดหน้าทางเข้า พลางกวาดสายตาสำรวจไปรอบบริเวณ พวกเขาสองคนมองหน้ากันครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบประสานงานไปยังคนด้านใน ที่ไม่นานณิชาก็ได้รับการปฏิบัติอย่างดีจากคนของอัคคีราห์ ด้วยการเดินคุ้มกันขนาบข้างจนกว่าจะถึงห้องส่วนตัวของเขา นานแล้วที่เธอไม่ได้ปลดปล่อยความเป็นตัวเองแบบนี้.. ณิชาระบายยิ้มพอใจกับเสียงบีทสุดมันส์ที่ดังกระหึ่มชวนให้คนโยกตาม ครั้งสุดท้ายที่เธอเมาแบบสุดเหวี่ยงก็คงจะเป็นตอนเรียนจบปริญญาโท หลังจากนั้นก็ห่างหายเมไรยไปนานพอสมควรเลย เพราะสุดท้ายเพื่อนฝูงที่มีก็แห่กันสร้างครอบครัวไปหมด เหลือแค่เธอที่ยังเป็นโสดอยู่คนเดียว ณิชาก็เลยพักเรื่องเที่ยวแล้วลุยงานแบบเป็นจริงเป็นจัง จนตอนนี้มันเหมือนได้ปลดปล่อยตัวตนที่แท้จริงของเธอออกมาอีกครั้งเลย “ขอโทษนะคะ แต่ช่วยขึ้นไปตามเจ้านายของคุณ.. แล้วบอกว่าฉันจะรอข้างล่างทีค่ะ” ณิชาพูดขึ้นหลังเดินผ่านเคาน์เตอร์บาร์แล้วเปรี้ยวปากอยากซัดแอลกอฮอล์เข้าร่างกาย อีกอย่างเธอไม่ใช่เบี้ยบนหมากกระดานของใคร การขึ้นไปหาอัคคีราห์แบบสองต่อสองคงไม่ดีเท่าไหร่ มันเหมือนการเดิมตามเกมเขาแล้วก็เชื่อฟังคำสั่งราวกับสุนัขรับใช้อย่างบอกไม่ถูก คนผีเข้าผีออกแบบนั้นกันไว้ดีกว่าแก้อยู่แล้ว “เอ่อ แต่ว่า..” “ถ้าเขาไม่พอใจอะไร ฉันจะรับผิดชอบทั้งหมดเองค่ะ” “ครับ ผมจะบอกคุณอัคคีให้ครับ” บอดี้การ์ดของคลับโค้งคำนับลาเธอ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในฝูงคน พอเหลือตัวคนเดียวเจ้าของใบหน้าสวยก็ทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์บาร์ ก่อนกวักมือเรียกพนักงานเพื่อสั่งมาร์ตินีนั่งจิบระหว่างรอให้อัคคีราห์ลงมาหาเธอ อีกฝั่งของอัคคีราห์ที่กำลังนั่งดื่มเหล้ารสเข้มเพียงลำพังกำลังคิดไม่ตกกับหลายเรื่องที่รุมเร้าเข้ามาในหัว เรื่องราวเมื่อเช้าที่ผ่านมาทำเอาเขาไม่มีสมาธิทั้งวัน “ทั้งที่รับปากจะช่วยแท้ๆ” อัคคีราห์พูดเสียงค่อยคล้ายรำพึงรำพัน หลังเหล้าเข้าปากสมองก็เริ่มขุดเรื่องราวในหัวไม่หยุด สักพักเสียงเคาะประตูจากด้านนอกก็ดังขึ้น ฉุดรั้งคนที่กำลังตกลงไปในภวังค์ให้เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ พลางเหลือบสายตาขึ้นมองเรนที่เดินเข้ามา “คุณณิชามาแล้วค่ะ” เรนรายงานหลังได้ข้อมูลจากบอดี้การ์ดมาเมื่อครู่ “แล้วทำไมไม่เข้ามา” “เธอบอกให้คุณอัคคีลงไปหาค่ะ เธอจะรออยู่ที่หน้าบาร์..” เลขาส่วนตัวอย่างเรนแอบยิ้มมุมปากให้ความแสบซนของณิชา ที่น่าจะทำให้เจ้านายตัวเองปวดหัวไม่น้อย เพราะเธอเป็นคนเดียวที่ไม่เคยอยู่ในคำสั่งของอัคคีราห์เลยสักครั้งเดียว “จะให้ฉันเรียกคนพาเธอขึ้นมามั้ยคะ” เรนเลิกคิ้วถาม พลางมองอัคคีราห์ที่เริ่มดื่มหนักตั้งแต่ช่วงค่ำที่ผ่านมา จนตอนนี้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิกดื่มง่ายๆ “ไปลากเธอขึ้นมา” เขาพูดขึ้นขณะที่จุดบุหรี่เตรียมสูบ ก่อนจะชะงักเล็กน้อยหลังไฟสีส้มเป็นประกายสะท้อนในแววตา “ได้ค่ะ” “อีกครึ่งชั่วโมง..” “คะ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนมุมปาก นัยน์ตาสีรัตติกาลวาวโรจน์ขึ้นมาครู่หนึ่ง ก่อนจะจุดบุหรี่แล้วอัดควันเข้าปากพร้อมกับพ่นออกมาด้วยสีหน้าเริ่มคลายกังวล “อีกครึ่งชั่วโมงค่อยลงไปตาม ปล่อยให้รออยู่ตรงนั้นแหละ.. เก่งดีนัก” เขาแยกยิ้มก่อนปรายหางตามองเรนที่ค้อมศีรษะรับคำสั่ง “ได้ค่ะ” พูดจบเธอก็เดินออกจากห้องไป เหลือทิ้งไว้แค่อัคคีราห์กับควันสีเทาที่ลอยฟุ้งในอากาศ หลังจากเรนออกจากห้องไปประมาณเกือบชั่วโมง อัคคีราห์ก็จมอยู่กับความเงียบโดยไม่พูดอะไรสักคำ ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้วที่เขายังอยู่ตรงนี้ เขาเอนหลังทิ้งร่างลงบนโซฟา เงยหน้ามองเพดานด้านบนด้วยสายตาเหม่อลอย ปล่อยให้ไฟสีส้มกลืนกินบุหรี่ที่นิ้วคีบอยู่ทีละนิด กระทั่งเสียงริงโทนมือถือบนโต๊ะดังขึ้น นัยน์ตาคู่คมถึงได้มีสติขึ้นมา ก่อนจะผงกหัวขึ้นมองรายชื่อเรียกเข้า พลันใบหน้าก็แสดงออกถึงความไม่สบอารมณ์ทันที ( ไอ้มาเฟียหัวเจลนี่มันหายหัวไปไหนวะ อึก.. ) ใบหน้าคมคายขมวดคิ้วมุ่น เพิ่งเคยเจอคนสบถใส่แล้วก็ใช้ฉายาแปลกๆ นั่นกับตัวเองเป็นครั้งแรก ระคายหูอย่าบอกใคร.. ( ปล่อยให้แขกรอแบบนี้เนี่ย โคตรจาไร้มา.. มารยาทที่ฉุด ) “เมาเหรอ” อัคคีราห์พูดพลางยกมือขึ้นกุมขมับ “ให้ตายเหอะว่ะ” แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ เสียงจากปลายสายก็กรีดร้องจนแสบแก้วหูอัคคีราห์ จนต้องรีบยกมือถือออกห่างพลันคิ้วเข้มก็ขมวดเข้าหากันแน่นอย่างไม่สบอารมณ์ “ยัยหนูท่อนี่!” ( ถ้าไม่ลงมาอีกห้า ไม่.. สี่ หึ สามนาที.. ถ้าไม่มาในสามนะ นายตายแน่อัคคีราห์ ) “มีปัญญาฆ่าฉันหรือไง” น้ำเสียงเชิงท้าทายส่งผลให้ปลายสายส่งเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายไร้สติในการพูดคุยมากแค่ไหน หนำซ้ำยังกล้าอวดดีใส่เขาทั้งที่สติไม่ครบถ้วนอีกต่างหาก “เหอะ งั้นก็ขึ้นมาสิ” ( อ่อ ) “.....” ( รออยู่ตรงนั้นแหละ.. เหอะ แม่จะ.. จะสั่งสอนให้เข็ดเล้ย คอยดู )
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม