สิบเอ็ดโมงครึ่งพะงาแขกับคามินดูเหมือนทั้งคู่จะเป็นเหมือนแขกคนแรกของห้างสรรพสินค้าหรูใจกลางเมืองบนถนนสุขุมวิทแห่งนี้ ทุกคนพุ่งสายตามาที่สองหนุ่มสาวด้วยความรู้สึกนึกอิจฉาทั้งการแต่งตัวลักษณะท่าทางและรูปร่างที่เพอร์เฟกต์ของสัดส่วน ร่างสูงโปร่งที่สง่าและใบหน้าคมคายจัดถึงขั้นหล่อเหลากับสาวสวยร่างบางระหงที่ต่างต้องอุทานมองมาอย่างชื่นชมราวกับกิ่งทองใบหยก ที่นี่ถือว่าใกล้ที่พักที่สุด ก่อนหน้านี้ คามินเคยมาที่ห้างแห่งนี้ไม่ต่ำกว่าห้าครั้งเท่านั้น
“เธอตื่นเต้นหรือไง” อาการที่พะงาแขแสดงออกมาทำให้เขาคาดเดาได้ ใช่พะงาแขกำลังมีอาการเหมือนคนตัวลอยจริงๆ กับความกรุณาของเขาในครั้งนี้ หล่อนเคยวาดฝันเสมอกับสามีคู่ชีวิต อยากจะมีโอกาสไปไหนมาไหนตามลำพังกับเขาสักครั้ง เป็นความอบอุ่นความภูมิใจของหล่อน
แม้คุณคามินจะห่างไกลคำว่าสามีนัก เพราะเขาไม่จัดหล่อนเป็นภรรยาที่ดีของเขาแน่ สถานะผู้หญิงของเขาหรือนางบำเรอ หล่อนพอจะรู้แต่ก็แอบคาดหวังไว้ แต่ไม่ว่าอะไรทั้งสิ้นนาทีนี้หล่อนกำลังจะมีความสุขนัก อันดับแรกเขาเป็นคนเอ่ยปากชวนหล่อนมาที่นี่เอง มิใช่หล่อนไปขอร้องหรือรบกวน มันจึงบังเกิดเป็นความปลาบปลื้มในใจสาว ที่อย่างน้อยผู้หญิงอย่างหล่อนในฐานะนี้ เขาก็ใส่ใจอย่างมากมายทีเดียว มิใช่ทิ้งให้หล่อนอยู่เดียวดายกับคอนโดตลอดวันตลอดคืนทั้งปีทั้งชาติ
เมื่อห้างเปิดผู้คนจึงหลั่งไหลพลุกพล่านเข้ามาและมากันแบบไม่ขาดสาย ทั้งไทยทั้งเทศ เนื่องจากห้างหรูแห่งนี้เป็นที่โปรดปรานและต้องการมาช็อปปิ้งของเหล่านักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและชาวยุโรปที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้มากที่สุด ส่วนคนไทยก็มีหนุ่มสาววัยรุ่นที่มีฐานะเป็นผู้มีอันจะกิน ชนชั้นระดับสูงระดับกลาง ส่วนระดับล่างนั้นแต่มาเที่ยวเดินเล่น มิอาจซื้อข้าวของที่ราคาแสนแพงได้ กับอีกกลุ่มคือพนักงานขายของให้บริการสินค้า
พะงาแขมองดูอย่างเพลินเพลินตาช็อปไปเรื่อย จนคามินเอ่ยถาม
“เสื้อผ้าถ้าเธออยากได้ดีๆ มาใส่ก็เลือกเอานะ”
นี่เขายังตามใจเธอเรื่องเสื้อผ้าอีก จากน้ำเสียงนุ่มทุ้มของเขาที่บอก พะงาแขหันไปมองเขานิดหนึ่ง อมยิ้มแล้วเอ่ย
“ขอบคุณค่ะ”
“ถ้าหิวแล้วก็บอกจะได้ชวนกันไปนั่งทานอาหาร เอ้อ ส่วนฉันจะขอเข้าไปดูเสื้อผ้าแผนกผู้ชายสักหน่อย จะไปดูรองเท้ากับเนคไทค์สักเส้น”
เขาบอกเขาเองก็ปรารถนาในสินค้าของห้างนี้เหมือนกัน เห็นว่าควรจะมีเสื้อผ้ากับกางเกงเปลี่ยนไปทำงานอีก และเนคไทค์เก่าที่ใช้มานานแล้ว ควรเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความหลากหลายของสี เขาดูแลทั้งตัวเอง ดูแลทั้งความสะอาดรวมทั้งดูและเรื่องการแต่งกาย เพื่อให้เนี้ยบดูดีตลอดเวลา มันเป็นความเคยชินของเขา ในฐานะชายหนุ่มที่เป็นทายาทของมหาเศรษฐีหมื่นล้าน อย่างตระกูล ประณตเลิศ
ที่ยังเป็นชายหนุ่มโสดและยังไม่ปรารถนาใครเป็นภรรยาด้วยซ้ำ คนในครอบครัวของเขารู้ดี คุณมนทิดา
นักธุรกิจหญิงแกร่งในวงการอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจอื่นๆ อีกสองสามอย่าง เช่นบริษัทผู้ผลิตหลอดไฟ รวมทั้งเป็นบริษัทตัวแทนจำหน่ายนำเข้ารถสปอร์ตคันหรูมาจากต่างประเทศในเมืองไทย กับท่านผู้เป็นสามี คุณครามสิทธิ์ ผู้มีวิสัยทัศน์ยาวไกลในการทำธุรกิจ และเป็นต้นแบบของคามินในปัจจุบัน
แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในครอบครัว สมาชิกของบ้านเหมือนอย่างในอดีต แต่เขาก็แวะเวียนไปที่บ้านพักแถวถนนสาทรบ่อยครั้งเหมือนกัน เมื่อสมาชิกในครอบครัวนัดทานข้าวกัน แต่ส่วนมากเขาจะอยู่ที่คอนโดส่วนตัวซึ่งเขาซื้อเป็นกรรมสิทธิ์เจ้าของ คอนโดหรูระดับซุปเปอร์ลักซ์ในปัจจุบันที่กว้างขวางทั้งหรูหราด้วยการตกแต่ง ในฐานะหนุ่มโสดที่อยากให้กำไรแก่ชีวิตตนเอง เขาชอบความอิสระ และอยู่ไกลจากการควบคุมของครอบครัวในฐานะที่เขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว เป็นซีอีโอของบริษัท ณปัจจุบัน ที่บิดาและมารดาทั้งภูมิใจ
แต่ท่านทั้งสองไม่มาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขาการใช้ชีวิตของเขา และในขณะที่เขาก้มเลือกรองเท้าหนังที่คิดว่าเป็นเบอร์ที่เหมาะกับขาทั้งสองของเขาซึ่งใส่ประจำ ชายหนุ่มหยิบแล้วนำมาลองใส่เลือกดูคุณภาพไม่มีตำหนิ เมื่อพึงพอใจหลังจากใส่ลองดูแล้ว ก็หยิบมาใส่รถเข็นใกล้มือ ซึ่งมีพนักงานขายคอยดูแลให้บริการแขกที่ถือว่าวีไอพีอย่างเขาเพราะคามินกำลังจะตัดสินใจซื้อรองเท้าแบรนด์ดังไปสามคู่
สายตาของผู้หญิงคนหนึ่งที่งจ้องเข้ามาแล้วหล่อนก็ตาโต จนต้องเดินเข้ามาใกล้อีกนิด ผู้ชายของหล่อนคนนี้ไม่ว่าเขาจะไปอยู่ที่ไหน หล่อนก็จำเขาได้ บุปผชาติไม่รีรอเลย หล่อนคิดว่าเขาจำหล่อนได้
“คุณคามินขา” เสียงเรียกจากทางด้านหลังทำให้ชายหนุ่มหันสายตาจ้องไปมีแววตานิ่งและเรียบเฉยเมยกับน้ำเสียงดังกล่าว และดูเหมือนเขาทำไม่ใส่ใจ บุปผชาติทั้งตื่นเต้นเมื่อเห็นว่าเขามาคนเดียว หล่อนกวาดตามองแล้วไม่มีใครเดินตามเขามา หล่อนคิดว่าเข้ามาเพื่อจะสารภาพในความผิดกับเขา หวังว่าเขาจะเห็นใจและให้อภัยหล่อน เผื่อจะมีทางที่กลับไปเป็นดั่งเดิมได้ หล่อนหลงใหลเขา ยินยอมหากเขาจะให้หล่อนตกอยู่ในสภาพเช่นไร เพราะสภาพแบบนั้นหล่อนก็เคยชินกับเขามาแล้ว
แต่หล่อนลืมไปอย่างหนึ่งว่าผู้ชายอย่างคามิน หากทิ้งผู้หญิงคนไหนแล้วทิ้งเลย เขาจะไม่หวนกลับมาอีกครั้งเป็นแน่
ร่างสูงโปร่งยืนนิ่งสายตาละจากรองเท้าทั้งสามคู่ พนักงานบริการถอยอออกห่างเมื่อเขามีแขก แต่ก็ยังยิ้มอยู่เพราะลูกค้าคนสำคัญรายนี้ซื้อแน่และเขาจะได้คอมมิชชั่นจากรองเท้าสามคู่หลายร้อยทีเดียว นึกว่าใคร คามินจำได้แม่นอย่างทีเดียว แล้วแววตาของเขาก็เหมือนไม่สนใจหล่อน ทำให้บุปผชาติต้องกล้าก้าวมาหาเขามากกว่าเดิม หล่อนจะแสดงตัวกับเขาอีกครั้ง แม้เขาจะไม่ชอบก็ตาม
หล่อนคิดว่าเขาน่าจะมีเยื่อใยกับหล่อนหลงเหลืออยู่บ้าง และหล่อนคิดว่าในเวลานี้เขามีนังแข ไม่คาดคิดหรอก ว่าพะงาแขจะมาด้วย เพราะหล่อนเห็นเขายืนอยู่คนเดียวตามลำพัง
“หยุดนะ” เสียงนั้นดังขึ้นดวงตาเรียวดำคมกลมขลับของพะงาแขที่เดินถือเสื้อผ้าหรูๆ สามสี่ชุดกับรองเท้าแก้วส้นสูง ที่หล่อนหมายใจชื่นชอบ คุณคามินให้หล่อนถือบัตรเครดิตเพื่อรูดสินค้า แต่พะงาแขต้องการเดินมาตามเขาก่อนเพื่อที่จะคิดค่าบริการพร้อมกันก่อนที่จะได้ไปทำกิจกรรมอย่างอื่น
แต่หล่อนก็เห็นตรงหน้าอย่างนึกแปลกใจ ไม่เคยคาดด้วยว่าจะได้มาเจอคู่ปรับเก่าที่นี่ บุปผชาติเบิกตากว้างเมื่อเสียงเรียกได้ยินเป็นเสียงศัตรูเก่าและกลายเป็นมารหัวใจของหล่อนในขณะนี้
พะงาแขหยุดร่างแล้วนิ่งหากใบหน้าจ้องเขม็งไปยังร่างบางผอมและหมดราศีของฝ่ายตรงกันข้าม ที่หล่อนกำลังเข้ามายุ่งกับคุณคามินผู้ชายของหล่อน ทั้งๆ ที่ไม่มีสิทธิ์ พะงาแขจึงใช้น้ำเสียงปรามเพื่อให้หญิงสาวหยุดการกระทำ และเมื่อรู้ว่าเป็นใคร