ตอนที่ 9

1426 คำ
บางทีเขาอาจจะตำหนิด้วยซ้ำว่าหล่อนไม่ใช่ผู้หญิงที่สดซิงสำหรับเขาแต่ก็ดี พะงาแขไม่ได้ยินเขาบ่นคำนี้ หล่อนนอนไม่หลับอีกครั้ง วนเวียนแต่คิดเรื่องของชีวิตของตัวเอง มันทำให้เครียดขึ้นมานิดหนึ่ง บนเตียง ผ้าปูที่ยับยู่ มีคราบเหนียวเลอะเปรอะติดผ้าปู หล่อนสัมผัสถึงอารมณ์นั้นได้ ผมเผ้าของหล่อนก็กระเซิงไปหมด บราที่ถูกปลดและบิกินีตัวจิ๋วถูกรูดมากองที่ปลายเท้า แต่หล่อนยังมีผ้าขนหนูและผ้าห่มพันกาย สายของวันต่อมาหล่อนนึกว่าคุณคามินไปทำงานแล้วหญิงสาวจึงลุกจากที่นอนเพื่อเตรียมอาบน้ำชำระกาย เมื่อเดินออกมาอีกทีด้วยชุดแต่งกายอยู่กับบ้านสะอาดเอี่ยมเป็นเสื้อผ้าฝ้ายสวมใส่ง่ายสบาย กำลังนึกอยากจะดื่มเครื่องดื่มสักอย่างในครัว สายตาของหล่อนก็ปะทะเข้ากับร่างสูงสง่าที่ทรุดนั่งอยู่ที่โซฟากลางห้องรับแขก ตรงหน้าของเขามีถ้วยกาแฟวางอยู่กับโต๊ะทรงกลมกระจกสีดำ สูงเหนือจากโซฟานิดหนึ่ง ในระดับพอดี หญิงสาวจึงทัก “อ้าวไม่ไปทำงานหรือคะ เอ้อ แขนึกว่าคุณไปแล้วเสียอีก” เขาจึงเงยหน้าขึ้นมาตอบหล่อนแต้มด้วยรอยยิ้มที่มุมปากอย่างสดใส เมื่อเห็นร่างระหงของหล่อนเนื้อตัวสดใสแบบนี้ร่าเริง แขนเล็กเรียวของหล่อนช่างกลมกลึงเหมือนลำเทียน และที่สำคัญหล่อนก่อความสุนทรีให้แก่เขาอย่างมาก จึงเงยใบหน้าและดวงตาคมพร้อมตอบ “วันนี้นัดลูกค้าบ่ายสอง เลยไม่ได้รีบร้อนที่จะไป เผอิญฉันตื่นเช้าน่ะ แปลกจริง ที่ควรจะน่าหลับนอนอยู่ แต่มันก็ไม่รู้สึกเพลีย กลับสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาเฉยๆ ถึงให้แม่บ้านช่วยลวกไข่สองฟองกับกาแฟให้” คำอธิบายของเขาทำให้หล่อนพยักหน้า “ค่ะ” “แล้วเธอนี่ทำไมรีบตื่นแต่เช้าล่ะ เมื่อคืนเพลียไม่ใช่เหรอ” เขาหันมาถามด้วยความใส่ใจอีกครั้ง “ค่ะ แต่เพราะเป็นความเคยชินของแขค่ะ มักจะตื่นเวลานี้ทุกครั้ง ก็แขไม่ได้ทำอะไรนี่คะ นอนกินอยู่กับบ้านอย่างเดียว” หล่อนบ่นให้เขาฟัง และก็รับรู้ดีว่าชีวิตผู้หญิงของเขาเป็นแบบนี้ล่ะ เขาจำกัดให้หล่อนอยู่แต่ในบ้าน คอยรับใช้ปรนนิบัติเขาเรื่องบนเตียงนอนเท่านั้น “ฉันจำกัดสิทธิ์เธอมากจนรู้สึกเบื่อและอึดอัดเลยหรือ” เมื่อเขาถามขึ้นมาแบบนี้หล่อนเกรงว่าเขาจะไม่สบายใจ “เปล่าค่ะ แขไม่ได้เบื่อหรืออึดอัด” “เธอแน่ใจหรือที่พูด” เพราะสายตากับกิริยาเขาสังเกตว่าไม่เหมือนกัน พะงาแขจึงต้องเอ่ยตอบเขาอย่างหนักแน่นแน่ชัด “ใช่ค่ะ แขรับรู้ถึงหน้าที่ของตัวเองไงคะ แต่กำลังจะบอกกับคุณคามินด้วยว่า หากถ้าแขขออนุญาตคุณไปเยี่ยมพ่อแม่บ้างได้ไหมคะ” “ได้สิ” เขาพยักหน้ารับ “ฉันไม่ได้ห้ามหวงเธอถึงขนาดนั้น แต่ก็ต้องรู้เวลากลับบ้าน” หล่อนยิ้มอีกครั้งที่เขาใจดีเช่นนี้ “ขอบคุณนะคะ” รอยยิ้มของหล่อนแสดงออกมาอย่างจริงใจไม่ยิ้มหวานแบบพร่ำเพรื่อเขาแอบลอบจ้องมันมีเสน่ห์เหลือเกินกับปากเล็กรูปกระจับรู้สึกทั้งให้อารมณ์เย้ายวนและเซ็กซี่ชวนนึกอยากจูบปากหล่อนแทนอาหารเช้าคือกาแฟ และที่สำคัญพะงาแขคือผู้หญิงที่เขามองแล้วไม่เบื่อ เหมือนผู้หญิงบางคน หล่อนเจรจาน้อยรู้พอเหมาะพอควร “มีใครบอกหรือเปล่าปากเธอยั่วฉันเหลือเกิน มีเสน่ห์ดูเซ็กซี่จริงๆ พอๆ กับบั้นท้ายงอนของเธอ” “เกี่ยวอะไรกับบั้นท้ายด้วยล่ะคะ เรื่องปากเนี่ย” พะงาแขเอ่ยพูดเสียงตำหนิเขาบ้าง แต่ชายหนุ่มยิ้มแบบละไมไม่ถือสาหาหล่อน ซึ่งเขายั่วเย้าด้วยความสุขของหนุ่มโสดนั่นล่ะที่มีต่อคู่รักอาจจะเป็นชั่วคราว “แหม ถ้าแขไม่เซ็กซี่นี่ คุณก็ไม่เลือกแขนะสิคะ” “ก็อาจไม่แน่ ไม่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่โดยรวมๆ นั้นฉันชอบผู้หญิงเซ็กซี่มีอะไรดึงดูดให้อยากเข้าใกล้ตลอด” คำตอบของเขาทำให้หล่อนอึ้งเล็กน้อย ยังไม่เคยคิดสำคัญตัวเองกับเขาเลย “เวลามีถมไปอย่างนี้ อือม ฉันว่าออกไปเดินเล่นที่ห้างกันดีมั๊ยช่วงสิบเอ็ดโมง เผื่อเธออยากจะซื้ออะไรบ้าง” เขาเอ่ยอย่างคนใจสปอร์ตทำให้พะงาแขตาโตขึ้นแล้วในคราวเดียวหล่อนก็ยิ้มออกมา ดีเหมือนกันจะได้ผ่อนคลาย “ว่าไง เธออยากจะไปหรือเปล่า” “อยากไปสิคะ ที่ไหนทุกๆ ที่ ที่มีคุณคามิน แขอยากจะไปทั้งนั้น” หล่อนเอ่ยตอบเขาเสียงนุ่มเติมจริตเพียงเล็กน้อยดูหวานแบบไม่เว่อเท่าไหร่นัก เขายิ้มแบบขำๆ ใส่หล่อน การที่หล่อนบอกล่าวอย่างนั้น เหมือนติดใจเขานักหนา “อ้าว ตอบคำถามของฉันก่อนที่เรื่องปากของเธอที่ยั่วยวนฉันอยากให้จูบตลอด มีใครเคยบอกแบบนี้กับเธอหรือเปล่า” “มีคุณคามินคนเดียวนั่นแหละค่ะ ที่บอกกับแข” “จริงเหรอ เธอไม่เคยมีใครชมเหมือนอย่างฉันเลยเหรอ” “จริงสิคะ แขจะมาโกหกอะไรล่ะ” “งั้นขยับเข้ามานั่งใกล้ๆ สิ” “ทำอะไรคะ” “ก็คุยกันไง เวลาตั้งถมไปกว่าห้างจะเปิดนี่มันแปดโมงครึ่งเอง” “ค่ะ” หล่อนขยับตัวมานั่งใกล้เขา มีสิ่งหนึ่งที่พะงาแขอยากจะพูดกับเขาเหลือเกิน จนหล่อนตงิดในใจก็เรื่องลูกไง เผื่อหล่อนพลาดพลั้งไปท้องขึ้นมากับเขา อยากจะรู้ว่าหน้าตาเขาจะเป็นอย่างไร เขาจะรับได้ไหม ซึ่งหล่อนไม่คาดการหรอกว่าผลจะออกมายังไง ถ้าจะกล้าถามเขา แต่ต้องรอจังหวะและเวลาก่อน แต่เขาอาจจะกล่าวหาว่าหล่อนเป็นผู้หญิงที่เรียกร้อง พะงาแขครุ่นคิดอีกทีก่อนจะตัดสินใจ แต่หล่อนก็เรียกร้องในสิทธิ์ของหล่อนไม่ใช่หรือ ถ้าหากหล่อนท้องลูกในท้องก็เป็นของหล่อน หล่อนเป็นแม่เป็นสายเลือดของหล่อนโดยตรงแม้จะมีส่วนของเขามาปะปนครึ่งหนึ่ง แต่สัญชาตญาณความรัก หล่อนเป็นแม่อันดับหนึ่งที่ต้องดูแลคุ้มครองลูกของตัวเองหากว่าพลาดพลั้งมีขึ้นกับเขา แม้ว่า ลูกอาจจะเป็นลูกนอกสมรสก็ตาม “ไหนบอกให้ฟังหน่อยซิ มีอะไรต้องคิดในใจ” เมื่อเห็นหล่อนเงียบไปนานเขาจึงถาม พะงาแขยังอึกอักในสิ่งที่หล่อนอยากจะบอกเขา แต่มันยังไม่ใช่เวลานี้หรอก “เอ้อ เปล่าคะ แขตื่นเต้นมากกว่าที่จะได้เดินห้างคู่กับคุณ” “แค่นี้เหรอ” เขายิ้มให้หล่อน “ค่ะ” มันมีมากกว่านี้อีก แต่พะงาแขจะพูดอะไรออกมาได้ หล่อนไม่อยากกลายเป็นผู้หญิงที่เรียกร้องมากเกินไปพาลที่เขาจะเบื่อหล่อนขึ้นมาหากทำแบบนี้ พะงาแขต้องรู้จักสะกดอารมณ์สะกดใจไว้ ไว้ถามเขาเวลาอื่นก็ได้ ที่เขาว่างที่สุด ว่างจากปัญหาเรื่องราวต่างๆ ไม่ได้คิดสุมเอามาไว้ในหัวสมองจนเครียด อย่างที่เวลานั่งอยู่กับหล่อนบนเตียงนอน หล่อนจะใช้เวลานั้นถามเขาอีก “ขอบใจนะที่บอกว่าฉันเป็นคนแรกในชีวิตที่ชมเธอว่าปากเธอเซ็กซี่ แล้วน่าจูบ” “จะให้จูบมั๊ย” เขาถามในตอนนี้อีกที “ไม่เอาค่ะ” หล่อนตอบเขาด้วยสายตาอ่อนหวานแต่ดวงตาพยายามหนีเขา เป็นการปฏิเสธแต่พองาม แม่บ้านจันทร์แรมยังคงขลุกอยู่ในครัว ดวงหน้าเรียวยาวคมคายสง่ากำลังจะโน้มใบหน้าจูบเธอ เพื่อที่จะใช้จมูกชนแก้มและริมฝีปากแต่เขาก็เปลี่ยนท่าทีพร้อมกับการหยุดชะงัก เมื่อหล่อนไม่ยินยอม และพะงาแขกลัวว่ามันจะลามไหลไปไกลมากกว่านั้น ประจุอารมณ์ของคุณคามินที่ฝังอยู่ข้างในใจเขานั้นมีเกินพิกัด การเรียกร้องของเขามีตลอดเวลา เขาไม่หยุดอิ่มเอมเสน่หาในเรือนกายของหล่อน และเขามีความสุขกับมัน เหมือนการร่วมรักบนเตียงที่เร่าร้อนในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นประจักษ์ชัดแก่หล่อนได้ดี เขาดูจะเป็นผู้ชายที่ขาดเซ็กซ์ไปไม่ได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม