บางทีเขาอาจจะตำหนิด้วยซ้ำว่าหล่อนไม่ใช่ผู้หญิงที่สดซิงสำหรับเขาแต่ก็ดี พะงาแขไม่ได้ยินเขาบ่นคำนี้ หล่อนนอนไม่หลับอีกครั้ง วนเวียนแต่คิดเรื่องของชีวิตของตัวเอง มันทำให้เครียดขึ้นมานิดหนึ่ง บนเตียง ผ้าปูที่ยับยู่ มีคราบเหนียวเลอะเปรอะติดผ้าปู หล่อนสัมผัสถึงอารมณ์นั้นได้ ผมเผ้าของหล่อนก็กระเซิงไปหมด บราที่ถูกปลดและบิกินีตัวจิ๋วถูกรูดมากองที่ปลายเท้า แต่หล่อนยังมีผ้าขนหนูและผ้าห่มพันกาย
สายของวันต่อมาหล่อนนึกว่าคุณคามินไปทำงานแล้วหญิงสาวจึงลุกจากที่นอนเพื่อเตรียมอาบน้ำชำระกาย เมื่อเดินออกมาอีกทีด้วยชุดแต่งกายอยู่กับบ้านสะอาดเอี่ยมเป็นเสื้อผ้าฝ้ายสวมใส่ง่ายสบาย กำลังนึกอยากจะดื่มเครื่องดื่มสักอย่างในครัว สายตาของหล่อนก็ปะทะเข้ากับร่างสูงสง่าที่ทรุดนั่งอยู่ที่โซฟากลางห้องรับแขก ตรงหน้าของเขามีถ้วยกาแฟวางอยู่กับโต๊ะทรงกลมกระจกสีดำ สูงเหนือจากโซฟานิดหนึ่ง ในระดับพอดี หญิงสาวจึงทัก
“อ้าวไม่ไปทำงานหรือคะ เอ้อ แขนึกว่าคุณไปแล้วเสียอีก” เขาจึงเงยหน้าขึ้นมาตอบหล่อนแต้มด้วยรอยยิ้มที่มุมปากอย่างสดใส เมื่อเห็นร่างระหงของหล่อนเนื้อตัวสดใสแบบนี้ร่าเริง แขนเล็กเรียวของหล่อนช่างกลมกลึงเหมือนลำเทียน และที่สำคัญหล่อนก่อความสุนทรีให้แก่เขาอย่างมาก จึงเงยใบหน้าและดวงตาคมพร้อมตอบ
“วันนี้นัดลูกค้าบ่ายสอง เลยไม่ได้รีบร้อนที่จะไป เผอิญฉันตื่นเช้าน่ะ แปลกจริง ที่ควรจะน่าหลับนอนอยู่ แต่มันก็ไม่รู้สึกเพลีย กลับสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาเฉยๆ ถึงให้แม่บ้านช่วยลวกไข่สองฟองกับกาแฟให้”
คำอธิบายของเขาทำให้หล่อนพยักหน้า “ค่ะ”
“แล้วเธอนี่ทำไมรีบตื่นแต่เช้าล่ะ เมื่อคืนเพลียไม่ใช่เหรอ” เขาหันมาถามด้วยความใส่ใจอีกครั้ง
“ค่ะ แต่เพราะเป็นความเคยชินของแขค่ะ มักจะตื่นเวลานี้ทุกครั้ง ก็แขไม่ได้ทำอะไรนี่คะ นอนกินอยู่กับบ้านอย่างเดียว” หล่อนบ่นให้เขาฟัง และก็รับรู้ดีว่าชีวิตผู้หญิงของเขาเป็นแบบนี้ล่ะ เขาจำกัดให้หล่อนอยู่แต่ในบ้าน คอยรับใช้ปรนนิบัติเขาเรื่องบนเตียงนอนเท่านั้น
“ฉันจำกัดสิทธิ์เธอมากจนรู้สึกเบื่อและอึดอัดเลยหรือ” เมื่อเขาถามขึ้นมาแบบนี้หล่อนเกรงว่าเขาจะไม่สบายใจ
“เปล่าค่ะ แขไม่ได้เบื่อหรืออึดอัด”
“เธอแน่ใจหรือที่พูด” เพราะสายตากับกิริยาเขาสังเกตว่าไม่เหมือนกัน พะงาแขจึงต้องเอ่ยตอบเขาอย่างหนักแน่นแน่ชัด
“ใช่ค่ะ แขรับรู้ถึงหน้าที่ของตัวเองไงคะ แต่กำลังจะบอกกับคุณคามินด้วยว่า หากถ้าแขขออนุญาตคุณไปเยี่ยมพ่อแม่บ้างได้ไหมคะ”
“ได้สิ” เขาพยักหน้ารับ
“ฉันไม่ได้ห้ามหวงเธอถึงขนาดนั้น แต่ก็ต้องรู้เวลากลับบ้าน”
หล่อนยิ้มอีกครั้งที่เขาใจดีเช่นนี้
“ขอบคุณนะคะ” รอยยิ้มของหล่อนแสดงออกมาอย่างจริงใจไม่ยิ้มหวานแบบพร่ำเพรื่อเขาแอบลอบจ้องมันมีเสน่ห์เหลือเกินกับปากเล็กรูปกระจับรู้สึกทั้งให้อารมณ์เย้ายวนและเซ็กซี่ชวนนึกอยากจูบปากหล่อนแทนอาหารเช้าคือกาแฟ และที่สำคัญพะงาแขคือผู้หญิงที่เขามองแล้วไม่เบื่อ เหมือนผู้หญิงบางคน หล่อนเจรจาน้อยรู้พอเหมาะพอควร
“มีใครบอกหรือเปล่าปากเธอยั่วฉันเหลือเกิน มีเสน่ห์ดูเซ็กซี่จริงๆ พอๆ กับบั้นท้ายงอนของเธอ”
“เกี่ยวอะไรกับบั้นท้ายด้วยล่ะคะ เรื่องปากเนี่ย” พะงาแขเอ่ยพูดเสียงตำหนิเขาบ้าง แต่ชายหนุ่มยิ้มแบบละไมไม่ถือสาหาหล่อน ซึ่งเขายั่วเย้าด้วยความสุขของหนุ่มโสดนั่นล่ะที่มีต่อคู่รักอาจจะเป็นชั่วคราว
“แหม ถ้าแขไม่เซ็กซี่นี่ คุณก็ไม่เลือกแขนะสิคะ”
“ก็อาจไม่แน่ ไม่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่โดยรวมๆ นั้นฉันชอบผู้หญิงเซ็กซี่มีอะไรดึงดูดให้อยากเข้าใกล้ตลอด”
คำตอบของเขาทำให้หล่อนอึ้งเล็กน้อย ยังไม่เคยคิดสำคัญตัวเองกับเขาเลย
“เวลามีถมไปอย่างนี้ อือม ฉันว่าออกไปเดินเล่นที่ห้างกันดีมั๊ยช่วงสิบเอ็ดโมง เผื่อเธออยากจะซื้ออะไรบ้าง”
เขาเอ่ยอย่างคนใจสปอร์ตทำให้พะงาแขตาโตขึ้นแล้วในคราวเดียวหล่อนก็ยิ้มออกมา ดีเหมือนกันจะได้ผ่อนคลาย
“ว่าไง เธออยากจะไปหรือเปล่า”
“อยากไปสิคะ ที่ไหนทุกๆ ที่ ที่มีคุณคามิน แขอยากจะไปทั้งนั้น” หล่อนเอ่ยตอบเขาเสียงนุ่มเติมจริตเพียงเล็กน้อยดูหวานแบบไม่เว่อเท่าไหร่นัก เขายิ้มแบบขำๆ ใส่หล่อน การที่หล่อนบอกล่าวอย่างนั้น เหมือนติดใจเขานักหนา
“อ้าว ตอบคำถามของฉันก่อนที่เรื่องปากของเธอที่ยั่วยวนฉันอยากให้จูบตลอด มีใครเคยบอกแบบนี้กับเธอหรือเปล่า”
“มีคุณคามินคนเดียวนั่นแหละค่ะ ที่บอกกับแข”
“จริงเหรอ เธอไม่เคยมีใครชมเหมือนอย่างฉันเลยเหรอ”
“จริงสิคะ แขจะมาโกหกอะไรล่ะ”
“งั้นขยับเข้ามานั่งใกล้ๆ สิ”
“ทำอะไรคะ”
“ก็คุยกันไง เวลาตั้งถมไปกว่าห้างจะเปิดนี่มันแปดโมงครึ่งเอง”
“ค่ะ” หล่อนขยับตัวมานั่งใกล้เขา มีสิ่งหนึ่งที่พะงาแขอยากจะพูดกับเขาเหลือเกิน จนหล่อนตงิดในใจก็เรื่องลูกไง เผื่อหล่อนพลาดพลั้งไปท้องขึ้นมากับเขา อยากจะรู้ว่าหน้าตาเขาจะเป็นอย่างไร เขาจะรับได้ไหม ซึ่งหล่อนไม่คาดการหรอกว่าผลจะออกมายังไง ถ้าจะกล้าถามเขา แต่ต้องรอจังหวะและเวลาก่อน
แต่เขาอาจจะกล่าวหาว่าหล่อนเป็นผู้หญิงที่เรียกร้อง พะงาแขครุ่นคิดอีกทีก่อนจะตัดสินใจ แต่หล่อนก็เรียกร้องในสิทธิ์ของหล่อนไม่ใช่หรือ ถ้าหากหล่อนท้องลูกในท้องก็เป็นของหล่อน หล่อนเป็นแม่เป็นสายเลือดของหล่อนโดยตรงแม้จะมีส่วนของเขามาปะปนครึ่งหนึ่ง แต่สัญชาตญาณความรัก หล่อนเป็นแม่อันดับหนึ่งที่ต้องดูแลคุ้มครองลูกของตัวเองหากว่าพลาดพลั้งมีขึ้นกับเขา แม้ว่า ลูกอาจจะเป็นลูกนอกสมรสก็ตาม
“ไหนบอกให้ฟังหน่อยซิ มีอะไรต้องคิดในใจ”
เมื่อเห็นหล่อนเงียบไปนานเขาจึงถาม พะงาแขยังอึกอักในสิ่งที่หล่อนอยากจะบอกเขา แต่มันยังไม่ใช่เวลานี้หรอก
“เอ้อ เปล่าคะ แขตื่นเต้นมากกว่าที่จะได้เดินห้างคู่กับคุณ”
“แค่นี้เหรอ” เขายิ้มให้หล่อน
“ค่ะ” มันมีมากกว่านี้อีก แต่พะงาแขจะพูดอะไรออกมาได้ หล่อนไม่อยากกลายเป็นผู้หญิงที่เรียกร้องมากเกินไปพาลที่เขาจะเบื่อหล่อนขึ้นมาหากทำแบบนี้ พะงาแขต้องรู้จักสะกดอารมณ์สะกดใจไว้ ไว้ถามเขาเวลาอื่นก็ได้ ที่เขาว่างที่สุด ว่างจากปัญหาเรื่องราวต่างๆ ไม่ได้คิดสุมเอามาไว้ในหัวสมองจนเครียด อย่างที่เวลานั่งอยู่กับหล่อนบนเตียงนอน หล่อนจะใช้เวลานั้นถามเขาอีก
“ขอบใจนะที่บอกว่าฉันเป็นคนแรกในชีวิตที่ชมเธอว่าปากเธอเซ็กซี่ แล้วน่าจูบ”
“จะให้จูบมั๊ย” เขาถามในตอนนี้อีกที
“ไม่เอาค่ะ” หล่อนตอบเขาด้วยสายตาอ่อนหวานแต่ดวงตาพยายามหนีเขา เป็นการปฏิเสธแต่พองาม แม่บ้านจันทร์แรมยังคงขลุกอยู่ในครัว ดวงหน้าเรียวยาวคมคายสง่ากำลังจะโน้มใบหน้าจูบเธอ เพื่อที่จะใช้จมูกชนแก้มและริมฝีปากแต่เขาก็เปลี่ยนท่าทีพร้อมกับการหยุดชะงัก เมื่อหล่อนไม่ยินยอม และพะงาแขกลัวว่ามันจะลามไหลไปไกลมากกว่านั้น ประจุอารมณ์ของคุณคามินที่ฝังอยู่ข้างในใจเขานั้นมีเกินพิกัด การเรียกร้องของเขามีตลอดเวลา เขาไม่หยุดอิ่มเอมเสน่หาในเรือนกายของหล่อน และเขามีความสุขกับมัน เหมือนการร่วมรักบนเตียงที่เร่าร้อนในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นประจักษ์ชัดแก่หล่อนได้ดี เขาดูจะเป็นผู้ชายที่ขาดเซ็กซ์ไปไม่ได้