“คุณดา นี่ก็ค่ำแล้วนะคะ สามียังไม่กลับมาอีกเหรอค่า” โสธิยากล่าวถามหญิงเจ้าของบ้าน ในขณะชะเง้อคอมองออกไปด้านนอก พบว่ามันมืดค่ำเสียแล้ว พร้อมกับเสียงสัตว์ที่ร้องกระหึ่มไปทั่วทั้งป่า
“เดี๋ยวก็คงกลับค่าคุณหยก ฉันได้โทรไปแจ้งที่ทำงานของเขาแล้วค่า ช่วงที่ไปตลาด” หล่อนกล่าวพลางปะเย็บเสื้อผ้าไปพลางอย่างประณีต อยู่บนเก้าอี้ไม้เก่า ๆ ในขณะที่มีเด็กน้อยทั้งสองนั่งเล่นกันอยู่บนพื้น
“ทำไมป้าต้องถามหาคุณอา ป้าเป็นอะไรกับเขา” เด็กหนุ่มที่เล่นอยู่กับน้องหยก เอ่ยปากถามอย่างไม่เข้าใจ ทำไมหญิงแปลกหน้าคนนี้ ต้องถามหาบิดาของคนอื่น
“ปืน” หล่อนเรียกชื่อเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้า พร้อมกับสายตาที่ตำหนิ “อย่าไปถือสาเด็กเลยค่าคุณหยก” หล่อนหันไปกล่าวกับหญิงสาว ที่นั่งข้าง ๆ
“ไม่เป็นไรหรอกค่า หยกเองก็ไม่อยากถือสาหาความกับเด็ก” ว่าแล้วเธอก็เหลือบสายตาไปทางเด็กชาย ก่อนจะวางฝ่ามือลงบนตักด้วยความอบอุ่น “อย่าคิดมากนะคะ หยกไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลยค่ะ หยกก็แค่ต้องการให้เขาลองชิมฝีมืออาหารที่หยกทำเองกับมือ” โสธิยาพยายามปลอบใจมารดาของตนในวัยสาว
“อาหารของป้าใครอยากจะกิน กินเข้าไปจะท้องเสียรึเปล่าก็ไม่รู้” เด็กน้อยยังคงไม่ลดละความพยายาม เพราะเขาพยายามหาเรื่องแขวะหญิงแปลกหน้าเสมอ
“ปืน ไม่พูดแบบนี้กับผู้ใหญ่สิจ๊ะ เดี๋ยวน้าจะไปฟ้องคุณพ่อคุณแม่ที่เราทำตัวไม่น่ารัก” โสรดา หันไปดุเด็กน้อยอีกครั้ง
“พี่ปืน ทำไมถึงชอบว่าพี่สาวนัก พี่สาวไปทำอะไรให้พี่ปืนไม่พอใจเหรอค่า” เด็กน้อยของบ้านเอ่ยปากถามอย่างไม่เข้าใจ ว่าทำไมเด็กชายตรงหน้าชอบว่าโสธิยาอยู่เรื่อย
“กะ กะ...ก็เขาหน้าตาเหมือนน้องหยกยังไงล่ะ นึกว่าคนคนเดียวกันด้วยซ้ำ” เด็กน้อยกล่าวออกมาในสิ่งที่เขาคิดมาตลอด
“เอ๊ะ!” โสรดารีบหันหน้าไปหาผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ ในขณะที่เธอเองก็ได้แต่นั่งตาโตเป็นไข่หาน ไม่คิดว่าเด็กตัวแค่นี้จะมีความคิดขนาดนี้ “หยกมาหาแม่ซิลูก” หล่อนเอ่ยเรียก โดยที่แขนของหล่อนกวักมือเรียกบุตรสาวของตน
“คะ คงไม่หรอกมั่งคะ เด็กมันก็พูดไปเรื่อยเปื่อยค่าคุณดา” หญิงสาวหลบสายตาคงตรงหน้า เพราะไม่อยากให้หล่อนต้องมาสนใจในตัวเธอ
“ทำไมมันเหมือนกันขนาดนี้” หล่อนเพ่งมองจากใบหน้าเด็กน้อย สลับกับมองหญิงสาวแปลกหน้า “ต่างกันแค่ ช่วงอายุ คุณหยกมีหน้าตาเหมือนลูกของดามากเลยนะคะ มากสะจนเหมือนเป็นแม่ของเขาเองเลยค่ะ” หล่อนยังคงกล่าวออกมา ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มและไม่ได้คิดอะไร
“คงไม่หรอกค่า ลูกของคุณดาดูน่ารัก น่าเอ็นดูกว่าหยกอีกนะคะ และอีกอย่างเขาเองก็ยังเด็กอยู่ค่า” เธอว่าพลางนำฝ่ามือลูบศีรษะของ เด็กน้อย
“พี่สาวชื่อหยกด้วยเหรอค่า ชื่อเหมือนหนูเลยค่ะ” เด็กน้อยหันหน้าไปหาเธอ พร้อมกับฉีกยิ้มจนเห็นฟันครบสามสิบสองซี่ ด้วยใบหน้าที่ไร้เดียงสา
“จ้า พี่ชื่อหยก” โสธิยารับคำ และย้ำชื่อตนเองอีกครั้ง
“ทำไมป้าต้องชื่อเหมือนกับน้องหยกของผมด้วย ผมมีน้องแค่ คนเดียวนะ” ว่าแล้วเด็กน้อยก็ยืนกอดอกอีกครั้ง ทั้งที่ตัวเล็กกว่าเธอเป็นไหน ๆ
“ปืน” น้ำเสียงดุกล่าวออกมาจากหญิงตรงหน้า พลางส่ายศีรษะ ไปมาอย่างอ่อนใจ
“คุณพ่อ” เด็กน้อยปรี่เข้าไปหาผู้ที่มาใหม่ เมื่อเด็กน้อยหันไปเห็นบิดาของตนที่กำลังสาวเท้าเข้ามาในตัวบ้าน
“ว่าไงจ๊ะลูกพ่อ วันนี้เป็นเด็กดีของคุณแม่ไหม” ชายคนดังกล่าว ที่ถูกเรียกว่าพ่อ คุกเข่าลงตรงหน้า พลางนำฝ่ามือหนาที่หยาบกระด้างลูบศีรษะของบุตรสาว
เขามีชื่อว่าธนัช เป็นสามีของโสรดา ที่คบหาดูใจกันมานานก่อนจะมีโซ่ทองคล้องใจพวกเขาทั้งสองนั้นคือน้อยหยก ที่เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของพวกเขา
สามีของโสรดา ทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ของธนาคารแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในตัวเมือง การเดินทางไปกลับอาจจะลำบากไป สักหน่อย ถนนหนทางยังคงเป็นดินทราย เขาจึงต้องเดินเท้าไปยังถนนใหญ่ เพื่อนั่งรถไปยังที่ทำงาน
นี่คือสาเหตุที่ทำให้เขาต้องกลับบ้านค่ำ แต่กระนั้นไม่ได้ทำให้ภรรยารักเขาน้อยลงเลย
“มาแล้วหรือคะ” หล่อนวางมือจากทุกอย่าง ก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้ไม้ “ไปอาบน้ำอาบท่าแล้วมาทานข้าวด้วยกันนะคะ” โสรดาช่วยสามีของตนถอดชุดออกทีละส่วน
“คุณเป็นใครเหรอครับ” เขาเหลือบไปเห็นหญิงสาวแปลกหน้าที่นั่งมองพวกเขา ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมยิ้ม
“สวัสดีค่าคุณพ่อ เอ๊ย! คุณพ่อของน้องหยก” โสธิยารีบลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะพนมมือยกขึ้นมาไหว้ผู้ใหญ่ตรงหน้า
“อะ ครับ” เขาพยักหน้ารับสองสามครั้ง
“เขาจะมาขออาศัยกับเราด้วยค่ะ อาหารมื้อนี้เขาก็ลงมือทำเอง นะคะ” โสรดากล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลกับสามีของตน
“หยกขออยู่ที่นี่ด้วยคนนะคะ และจะช่วยทำงานบ้านทุกอย่างค่ะ จะไม่ทำให้คุณทั้งสองลำบากแน่นอนค่า สิ่งไหนที่หยกช่วยทำได้ก็จะทำค่ะ” หญิงสาวกลัวว่าชายตรงหน้าจะดุเธอ เพราะสายตาของเขามันน่ากลัวเสียเหลือเกิน
“งั้นผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ” เขาพยักหน้าให้กับหญิงสาว ก่อนจะหันไปบอกภรรยาของตน