เมื่อมาถึงโรงแรมหรูที่คุณหญิงสุปรานีจองเอาไว้ให้สำหรับฮันนีมูน พาทิศก็เอากระเป๋าเดินทางของตัวเองเข้ามาเก็บเอาไว้ในห้องพักซึ่งพักห้องเดียวกับอารดา ในขณะที่แววดาวพักห้องถัดไปเพียงลำพัง
อารดาใจชื่นขึ้นมาบ้าง เมื่อพาทิศไม่ได้จะไปนอนห้องเดียวกับแววดาว ซึ่งเขาก็ให้เหตุผลกับหล่อนว่า เพราะเขาต้องการรักษาคำสัญญาที่ให้เอาไว้กับคุณหญิงย่า
ในขณะที่อารดากำลังนั่งอยู่ภายในห้องพักนั้น เสียงกดกริ่งก็ดังขึ้น หล่อนก้าวลงจากเตียงและเดินไปเปิดประตู ซึ่งก็พบว่าคนมากดกริ่งคือแววดาว
“คุณ... มีธุระอะไรกับฉันเหรอคะ”
“ขอฉันเข้าไปหน่อยได้ไหม”
อารดาไม่มีทางเลือก จำต้องขยับตัวเข้าไปด้านข้าง เพื่อให้แววดาวเดินเข้ามา
แววดาวกวาดตามองไปรอบๆ ห้อง ก่อนจะหันมาพูดกับอารดา
“ห้องนี้กว้างกว่าห้องของฉันอีก เตียงก็นุ่มกว่า” แววดาวเอามือสัมผัสกับที่นอนนุ่ม
อารดาไม่ได้พูดอะไรออกมา
“เอกบอกว่า เขาจะนอนกับเธอในห้องนี้ แต่ฉันต้องการนอนกับเขาแทนเธอ”
อารดาคาดไม่ถึงว่าแววดาวจะกล้าพูดคำนี้ออกมา
“เธอจะเสียสละให้ฉันได้ไหม”
“ห้องนี้คุณหญิงย่าจองให้ฉันค่ะ ถ้าคุณอยากนอนกับคุณพาทิศ ก็ให้เขาไปนอนกับคุณที่ห้องของคุณเถอะค่ะ”
แววดาวยิ้มหยัน มองผู้หญิงที่อ่อนวัยกว่าด้วยความสมเพชเวทนา
“ฉันไม่อยากทำให้เอกลำบากใจน่ะ หรือว่าเธออยากให้เขาลำบากใจกันล่ะ”
อารดานิ่งเงียบไม่ได้ตอบ
แววดาวเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของอารดา และก็วางมือของตัวเองบนท่อนแขนเรียวงามของ
อารดา
“ฉันเสียสละผัวของตัวเองให้ไปแต่งงานกับเธอ แล้วเธอไม่คิดจะใจกว้างกับฉันหน่อยเลยเหรอ
อารดา”
ตอนนี้อารดาไม่สามารถบรรยายความรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจออกมาเป็นคำพูดได้ รู้เพียงแต่ว่ามันเจ็บเหลือเกิน
ดวงตากลมโตมีหยาดน้ำตาเอ่อล้น ก่อนที่หล่อนจะถอยออกห่าง ทำให้แขนที่ถูกแววดาวจับอยู่หลุดพ้นเป็นอิสระ
“ว่าไงล่ะ ใจกว้างกับฉันหน่อยได้ไหม”
อารดาหันหลังให้กับคู่สนทนา น้ำตาหยดลงอาบแก้ม ก่อนจะรีบยกมือขึ้นป้ายทิ้งจนแห้ง
“ค่ะ”
แววดาวยิ้มหยันออกมาอย่างผู้ชนะ
“ขอบใจมากนะคุณเมียหลวง แบบนี้สิ เราถึงจะอยู่ร่วมกันได้ สามคนผัวเมีย”
“คุณไปเก็บข้าวของของคุณมาไว้ในห้องนี้เถอะ ฉันจะได้ย้ายไปห้องของคุณ”
“แหม ใจร้อนจังเลยคุณเมียหลวง”
แววดาวหัวเราะชอบใจ ก่อนจะเดินออกไปจากห้องสวีตสุดหรูที่เพิ่งแย่งชิงมาได้อย่างผู้ชนะ
พาทิศออกไปเดินเล่นที่ริมชายหาดเกือบสองชั่วโมง จึงกลับมาที่ห้องพักของตัวเอง แต่เมื่อเข้ามาในห้องพักก็ต้องแปลกใจ เพราะผู้หญิงที่อยู่ภายในห้องไม่ใช่อารดา แต่เป็นแววดาว
“แวว... คุณมาอยู่ห้องนี้ได้ยังไงครับเนี่ย”
แววดาวรีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียง และเดินลงมาโอบกอดพาทิศเอาไว้
“ก็เมียหลวงคุณอนุญาตน่ะสิคะ”
“อารดาเนี่ยนะ?”
“ใช่ค่ะ เธอบอกให้แววมาพักห้องนี้กับคุณ ส่วนเธอจะไปนอนห้องของแววค่ะ”
“ผมจะไปคุยกับอารดาเอง”
แววดาวรีบรั้งร่างใหญ่ของพาทิศเอาไว้ เมื่อเห็นเขาจะออกไปนอกห้อง
“ทำไมต้องไปคุยล่ะคะ แววมาอยู่ห้องนี้กับคุณก็ดีแล้วนี่คะ จะได้ไม่มีใครขัดความสุขของพวกเราไงคะ”
นั่นสิ...
จริงอย่างที่แววดาวพูดทุกอย่าง แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกละอายใจแบบนี้นะ
“แต่ห้องนี้คุณหญิงย่าจองให้กับอารดา ผมคิดว่ามันไม่เหมาะ ถ้าคุณจะมาอยู่ห้องนี้”
“ทำไมคะ แววไม่เหมาะสมตรงไหน หรือว่าเพราะแววเป็นแค่ชู้รักคะ”
เมื่อเห็นท่าทางน้อยอกน้อยใจ และน้ำตาจอมปลอมของแววดาวพาทิศก็ไม่มีทางเลือกอื่นใดอีก เขาดึงร่างของแววดาวเข้ามากอด ยกมือขึ้นลูบศีรษะอย่างอ่อนโยน
“ผมก็แค่รู้สึกผิดน่ะ แต่ถ้าคุณชอบห้องนี้ ผมก็จะตามใจคุณ”
“เย้... เพราะเอกน่ารักแบบนี้ไงคะ แววถึงรักคุณมาก... มาให้แววจูบหน่อยค่ะ”
แววดาวยกมือขึ้นโน้มลำคอแข็งแรงของพาทิศลงมาจูบอย่างดูดดื่ม ซึ่งพาทิศก็ยินยอมแต่โดยดีอย่างเต็มใจ
หลังจากรับประทานอาหารค่ำร่วมกันแบบสามคนผัวเมียแล้ว อารดาที่เปรียบเสมือนเป็นส่วนเกินก็เดินออกมาเดินเล่นที่ริมชายหาดตามลำพัง ส่วนพาทิศกับแววดาวกลับห้องไปกันแล้ว
“ผมส่งรูปให้คุณหญิงทางไลน์แล้วครับ”
คุณหญิงสุปราณีรีบเปิดรูปที่คนของตัวเองส่งมาดู ก่อนจะกัดฟันกรอดๆ
“ไอ้หลานไม่รักดี”
“คุณหญิงใจเย็นๆ ค่ะ เดี๋ยวหน้ามืดนะคะ” แม่บ้านคนสนิทเอ่ยเตือน
“หาจังหวะ จับนังแมวขโมยกลับมากรุงเทพฯ ให้เร็วที่สุดนะ”
“ครับคุณหญิง”
หลังจากคนของตัวเองวางสายไปแล้ว คุณหญิงสุปรานีก็รีบต่อสายหาอารดาด้วยความเป็นห่วง เพราะเดาว่าตอนนี้หลานสะใภ้น่าจะกำลังเจ็บหนัก
“หนูดา... เป็นยังไงบ้างลูก ชอบที่พักไหม”
อารดากลืนก้อนสะอื้นลงไปในอก และพยายามปั้นเสียงให้เป็นปกติที่สุด
“ชะ... ชอบค่ะคุณหญิงย่า”
“แล้วนี่เจ้าเอกมันรังแกอะไรหนูดาของย่าหรือเปล่า”
น้ำตาเม็ดโตไหลออกมาจากสองดวงตา แต่หญิงสาวก็รีบป้ายมันทิ้ง และก็ฝืนยิ้มออกมา เพราะไม่อยากให้คนปลายสายเป็นห่วง
“ไม่... ไม่เลยค่ะคุณหญิงย่า พี่เอก... ใจดีกับดามากค่ะ ใจดีมากๆ”
คุณหญิงสุปรานีได้ยินคำตอบของอารดาก็หันไปสบตากับแม่นิ่ม รู้สึกสงสารหลานสะใภ้จับหัวใจ และก็หมั่นไส้หลานชายของตัวเองเหลือเกิน
“งั้นก็ดีแล้ว หนูดาเที่ยวให้สนุกนะลูก... ย่าจะรอหนูดากลับมาบ้านนะ”
“ค่ะคุณหญิงย่า... ฝันดีค่ะ”
“ฝันดีหนูดา”
หลังจากวางสายจากอารดาแล้ว คุณหญิงสุปรานีก็หันไปคุยกับแม่นิ่ม
“หนูดาน่าสงสารเหลือเกินแม่นิ่ม นี่ฉันชักไม่แน่ใจแล้วว่า ตัวเองทำบาปหรือเปล่า ที่ลากหนูดาเข้ามาในเกมนี้น่ะ”
“คุณดาเธอรักคุณเอก เธอก็เลยยอมค่ะ คุณหญิงไม่ได้บังคับเธอเลย...”
แม้คนข้างตัวจะพูดให้กำลังใจ แต่คุณหญิงสุปรานีก็ยังรู้สึกผิดไม่น้อยเลย