คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน ดวงตาคมกริบจ้องมองผู้หญิงตรงหน้าไม่วางตา
“หมายความว่ายังไงครับ?”เขาถามแม้จะรู้อยู่แก่ใจ
“คือ... ฉันหมายความว่า เราสองคนจะทดลองอยู่เพื่อศึกษานิสัยใจคอกันและกัน ฉันเลยคิดว่าบางที...เราอาจจะควรอยู่ด้วยกันค่ะ”เทียร่าตะกุกตะกัก
“เราก็อยู่ในบ้านหลังเดียวกันอยู่แล้วนี่ครับ”น้ำเสียงเรียบเฉยสีหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“ฉันหมายถึงการอยู่ร่วมห้องนอนค่ะ”
เขาหันมามองเธอเต็มตา พลางกวาดสายตาไปทั่วร่างอวบอิ่ม ไม่มีรอยยิ้มไม่มีความยินดีไม่มีความรู้สึกอะไรเลย เขาตายด้านหรือยังไง เขาเฝ้าถามตัวเอง อยากจะรู้สึกบ้างแต่มันดันไม่มีเลยไม่รู้เพราะอะไร
“แต่คุณจะเสียเปรียบได้นะครับ”
“ไม่หรอกค่ะ ฉันยินดี” เธอตอบแล้วยิ้มออกมา
“ได้ครับ แต่ผมจะไปนอนที่ห้องของคุณก็แล้วกัน” ซาฟปรายตามองแล้วเดินจากไป
ดวงตาเรียวคมทอดมองเส้นทางในหัวกำลังคิดบางอย่าง โมนา... งั้นเหรอ น่าแปลกดูอย่างไรก็ไม่น่าเชื่อ เคยได้ยินว่าโมนาเป็นลูกสาวคนเล็กของตระกูลดีกาลโน่ อายุเธอแค่เพียงยี่สิบสองปีเท่านั้น แต่ทำไมผู้หญิงที่มาหาเขาถึงได้ดูมีประสบการณ์และอายุอานามก็น่าจะมากกว่านั้น โมนาเป็นลูกครึ่งแต่ทำไมเค้าโครงหน้าถึงบ่งบอกว่าเป็นสาวอิตาลีเต็มตัว
เขาไม่ได้โง่ แค่หวังอย่าให้ตัวเองโดนสวมเขา ด้วยตนเองเกลียดการโกหกที่สุด หากตระกูลดีกาลโน่เล่นตลก เห็นทีคงต้องจัดการให้สมน้ำสมเนื้อ ถึงเขาเฉยไม่ได้หมายความว่ายอมให้หลอกได้ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นคงไม่มีหน้าเป็นผู้ดูแลกิจการทั้งหมดของตระกูลหรอก
“เดวิช ช่วยหารูปลูกสาวทั้งสามคนของตระกูลดีกาลโน่ให้หน่อย” เขาต่อสายถึงบอดี้การ์ดคนสนิท
“ครับนาย”
สาวร่างสมส่วนตามแบบฉบับสาวยุโรปเดินเข้ามาภายในคฤหาสน์ตระกูลดีกาลโน่ เวน่าเดินเข้ามาด้านในแล้วสาวเท้าเดินมาหาบิดาด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ เธอหย่อนกายลงนั่งตรงข้ามบิดาให้ห้องหนังสือ
“ลมอะไรหอบลูกมาถึงนี่ละเวน่า?”เซโตถามบุตรสาว
“พ่อ... สิ่งที่พ่อทำมันผิดนะ ซาฟไม่เหมือนคนอื่นถ้าเขารู้เรื่องที่เราสลับตัวโมนากับเทียร่าแล้วละก็ พ่ออย่าหวังจะได้เงินทุนนั้นเลย!”
“เทียร่าคงไม่ทำให้เราผิดหวังหรอกลูก..”
“พ่อคิดน้อยไป! ซาฟไม่ได้โง่ไม่อย่างนั้นเค้าขยายธุรกิจจนแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้เหรอ”
เซโตวางมือจากเอกสารตรงหน้าเขาเงยหน้าสบตาบุตรสาวที่นั่งขมวดคิ้วใช้ความคิดอย่างหนักอยู่ ชายชรานิ่งงันไปชั่วครู่
“แล้วแกจะให้พ่อทำยังไง?”
“หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าซาฟรู้เมื่อไหร่เป็นเรื่องแน่!”สีหน้าวิตกอย่างรุนแรง
“พ่อส่งตัวโมนาให้ซาฟไม่ได้ โมนาไม่ควรจะได้แต่งงานกับใครด้วยซ้ำลูกก็ดูน้องสิ น้องเป็นแบบนั้น!”เซโตเสียงเครียด
“พ่อต้องตัดสินใจแล้วละค่ะ ว่าพ่อจะเลือกลูกตัวเองหรือเลือกตระกูลและลูกน้องนับพันชีวิต!”
เทพธิดาเวนิชยืนนิ่งอยู่หน้าห้องหนังสือของบิดา มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาปิดปากไว้เพื่อกลั้นเสียงสะอื้นเธอผิดเอง ผิดที่ทำให้ใครๆต้องมาเดือดร้อนแบบนี้ นี่เธอกำลังจะทำให้ใครหลายๆ คนต้องเดือดร้อนเพราะความเห็นแก่ตัวเหรอนี่ ร่างบอบบางทรุดกายลงกับพื้นแล้วสะอื้นออกมาอย่างหนัก
บุตรสาวคนโตเดินออกมาจากห้องหนังสือของบิดา เธอชะงักเมื่อเห็นน้องสาวมองมาน้ำตาอาบแก้ม เวน่าเม้มริมฝีปากแน่นแล้วเมินหน้าหนี แม้จะสงสารน้องแต่โมนาควรโตได้แล้วไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้ามาดูแลคุณหนูขี้แงตลอดชีวิต สูญเสียแม่เสียใจเธอเข้าใจอยู่แต่ใช้ว่าโมนาเป็นผู้หญิงคนเดียวในโลกที่สูญเสียแม่ไปสักหน่อย เธอเองก็สูญเสียแม่ไปเหมือนกัน เวน่าสาวเท้าเดินจากไปอย่างรวดเร็วเพราะไม่ต้องการเข้าไปกอดน้องเพื่อปลอบเหมือนที่เคยทำมาทุกครั้ง
ร่างสูงใหญ่ยืนเหม่อออกไปด้านนอกหน้าต่างห้องทำงานอีกครั้ง เขากำลังใช้ความคิดเรื่องของผู้หญิงที่ก้าวเข้ามาเพื่อทำหน้าที่ภรรยาให้กับเขา ดวงตาสีเทาจ้องมองไปยังเบื้องหน้า
“นายครับ!”เสียงเรียกสะดุดความคิดเขาลงเขาหันกลับมามองเดวิชบอดี้การ์ดคนสนิท
“ได้แล้วใช่ไหม?”
“ครับ”เดวิชวางรูปสองใบลงบนโต๊ะทำงานของเขา
ซาฟขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ ดวงตาคมจ้องมอบลูกน้องตนเอง เดวิชทำสีหน้าไม่ถูกเพราะเขาจนปัญญาที่จะหารูปของลูกสาวคนเล็กของดีกาลโน่เหมือนกัน
“มีแค่สองใบเหรอ?”
“เอ่อ..ครับ”
“หารูปใครไม่ได้”เขาถามเสียงเรียบแต่แฝงความดุดัน
“รูปคุณหนูโมนาครับ”
ไม่มีคำถามใดๆ ออกจากริมฝีปากหยักได้รูปอีก เมื่อเขาเอาแต่เพ็งมองไปยังรูปพวกนั้นด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์ก่อนจะหันไปถามบอดี้การ์ด
“คนนี้คือเวน่าใช่ไหม?”
“ใช่ครับ เธอออกงานบ่อยผมเลยได้รูปเธอเยอะมากเลยครับ”
เขาหยิบรูปอีกใบมาดู สีหน้าของเขาปรับเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมลงทันที
“แล้วคนนี้ละ?”
“คนนั้นคุณเทียร่าครับ เป็นลูกสาวคนที่สองของตระกูล”
ชายหนุ่มนิ่งเขาวางรูปลงบนโต๊ะ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันแล้วถอนหายใจหนักออกมา เขาไม่ใช่น้องคนที่สามหรือสี่ที่จะเหวี่ยงรูปทิ้งทันทีที่ได้รับรู้ แม้สีหน้าเขาจะเรียบเฉยแต่ออกจะรู้สึกไม่พอใจมากเช่นกันที่ตระกูลดีกาลโน่บังอาจเล่นตลกกับเขา ถ้าไม่สั่งสอนกันบ้างคงไม่ต้องออกไปมองหน้าใคร