ตอนที่ 2 คิด

1630 คำ
@ร้านอาหารชื่อดังใจกลางเมือง “สวัสดีค่ะพี่เชนท์” “สวัสดีครับ น้องเพนนี น้องมีนา และก็…น้ำชาแมวน้อยของพี่” “กรี๊ดดดด!!!…พี่เชนท์อย่ามาจีบกันต่อหน้าเพนนีนะ…หึ!!” “ยัยเพนนี…แกยังไม่ชินอีกเหรอ???…” “ก็มันเขินแทนเพื่อนนี่…พี่เชนท์มีฝาแฝดอีกคนที่บ้านมั๊ยคะเพนนีอยากได้” “ฮ่ะๆๆๆ…เพนนีพี่อาจจะไม่ได้เฟอร์เฟคอย่างที่คิดก็ได้นะ” “พี่เชนท์ทั้งหล่อทั้งเก่งใจดีอบอุ่นรักน้ำชาขนาดนี้ก็ต้องดีสิคะ” “พอเลยเพนนีชมพี่เชนท์จนจะลอยติดเพนดานแล้ว…กินข้าวกันเถอะวันนี้ฉันเป็นเจ้ามือตามสัญญา” “จ๊า!!!…คุณหนูน้ำชาแค่เลี้ยงข้าวเพื่อนขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกเน๊อะมีนา??” “ใช่!!” หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จทุกคนจึงได้สั่งเครื่องดื่มมานั่งจิบเพราะบรรยากาศในร้านพาไป และไม่บ่อยครั้งที่จะได้มีโอกาสพร้อมหน้าพร้อมตากันแบบนี้ จากที่ดื่มเบาๆเพนนีนั้นก็สั่งไวท์ยี่ห้อโปรดมาเรื่อยๆจนทุกคนเริ่มเมา “เพนนีเบาๆแกเนี้ยนะขี้เมาตั้งแต่สมัยเรียน” “ชา…แกเป็นเพื่อนหรือว่าแม่กันเนี่ย…ชิ!!” “อุ๊ย!!” “นั่นไง…เมาแล้วยังซุ่มซ่ามอีกพูดยังไม่ทันจะขาดคำ” เพนนีได้เผลอทำมือถือหล่นลงกับพื้นด้วยความมึนๆ จึงก้มลงไปเก็บมือถือที่หล่นไปอยู่ใต้โต๊ะ สายตาเจ้ากรรมกลับดันไปเห็นขาของผู้หญิงฝั่งตรงข้ามเกี่ยวกับขาของเชนท์อยู่ จึงใช้สองมือขยี้ตามองให้ชัดแล้วดึงสติเพ่งมองดูอีกที ขาคู่นั้นมันไม่ใช่ขาของน้ำชาเพราะเชนท์นั่งติดกับน้ำชา ขาที่ยื่นมามันอยู่ฝั่งตรงข้ามซึ่งเธอก็นั่งตรงข้ามกับน้ำชา ดังนั้นขาเรียวนั้นก็ต้องเป็นของมีนา “พี่เชนท์คะหญิงแม่ท่านถามหาพี่เชนท์บ่อยๆวันไหนพี่เชนท์ว่างก็ไปเยี่ยมท่านบ้างนะคะ” “ครับน้ำชา…พี่ฝากกราบขอโทษคุณหญิงแม่ด้วยนะพี่ยุ่งมากเลยช่วงนี้ว่าความเกือบทุกวัน” มือหนาของเชนท์จึงจับไปที่มือบางของน้ำชาอย่างละมุน “ไม่เป็นไรค่ะหญิงแม่ท่านรู้ดีว่าพี่เชนท์ขยันและก็กำลังเตรียมตัวสอบ” “ขอบคุณน้ำชานะที่เข้าใจพี่” “สู้ๆนะคะพี่เชนท์คนเก่ง” น้ำชาส่งยิ้มหวานให้กำลังใจเชนท์อย่างสดใส หลังจากที่ทุกคนดื่มกันเสร็จเพนนีที่ได้เห็นภาพที่เธอเองก็ยังสับสนและกังขาอยู่ในใจ จึงนั่งคิดทบทวนจากที่สนุกสนานครึกครื้นก็เอาแต่เงียบพูดจาน้อยลง จนเชนท์และทุกคนถามว่าเธอเมาแล้วหรือเปล่า เพนนีจึงอ้างว่ารู้สึกไม่สบายจึงชวนกลับโดยเธอขับรถมาเองแล้วขอตัวกลับก่อน ส่วนน้ำชาและมีนาเชนท์จึงอาสาไปส่ง 2 วันต่อมา เพนนีเธอได้คิดทบทวนเรื่องที่กังวลใจตอนแรกคิดว่าจะไม่พูดเกรงว่าน้ำชาจะไม่เชื่อ แต่เธอก็ไม่อยากเก็บงำความสงสัยนี้เอาไว้คนเดียวจึงส่งข้อความไปนัดน้ำชาให้มาพบเธอที่ร้านกาแฟในห้างสรรพสินค้า พร้อมกับกำชับว่าให้มาคนเดียวเท่านั้น “เพนนีฉันก็เปิดร้านกาแฟยังจะชวนมากินกาแฟอีก?” “ชา…แกฟังฉันก่อนนะและต้องสัญญากับฉันก่อนว่าถ้าฟังเรื่องที่ฉันเล่าแล้วจะมีสติและจะไม่โกรธ” “อะไรมาถึงก็ซีเรียสเชียว??” “แก….จำคืนนั้นที่ร้านอาหารตอนที่เรานั่งดื่มกันฉันเผลอทำมือถือหล่นได้ปะ??” “อื้ม!!!..จำได้ฉันยังบ่นแกอยู่ให้ดื่มเบาๆ” “แกรู้มั๊ย???…ว่าฉันเจอเข้ากับอะไร??” “อะไร??” “ก็…..ฉันเห็นขาของมีนาเกี่ยวขาของพี่เชนท์แฟนแกอยู่” “……………………….” “น้ำชา….น้ำชา….แกฟังที่ฉันพูดอยู่รึเปล่า??” ใบหน้าสวยนั่งนิ่งเงียบไม่พูดจาอึ้งอยู่อย่างนั้นจนเพนนีต้องเรียกให้เธอตื่นจากภวังค์ “แกพูดจริงเหรอเพนนีไม่ได้อำฉันเล่นใช่มั้ย??” “เฮ้ยย!!!…ชาเรื่องแบบนี้ใครจะกล้าล้อเล่นพี่เชนท์กูก็นับถือแกกับมีนาก็เพื่อนฉัน” “มันอาจจะแค่เมารึเปล่าวะ??” “ตอนแรกฉันก็คิดแบบนี้ว่ะแก…แต่ก็เอามันออกจากสมองไม่ได้เลย” “งั้นเราไปถามพี่เชนท์เลยดีมั๊ย??..พี่เชนท์คงจะไม่โกหก” “จะบ้าเหรอชาผู้ชายเค้าจะบอกจะยอมรับเรื่องพวกนี้หรอกไม่มีทาง” “แล้วฉันต้องทำยังไงมีนาคือเพื่อนรักอีกคนฉันก็รักมันมากพอๆกะแก” “งั้นเอางี้เราต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองคนนั่นถ้าแค่เมาแล้วอีมีนาแค่อ่อยก็ให้มันจบไป แต่ถ้าทั้งคู่เล่นหูเล่นตากันแล้วมีอะไรที่ทำไม่ดีลับหลังแกก็ค่อยจัดการพวกนั้นไปเลยทีเดียว” “ต่อหน้าเวลาอยู่ด้วยกันสามคนมีนากับพี่เชนท์ก็ปกตินะไม่ค่อยจะพูดกันด้วยซ้ำมีนาวางตัวดีตลอด” “แกลองไม่อยู่ร้านสักสองอาทิตย์สิแล้วให้มีนาเป็นคนคอยดูแลร้าน แกก็ให้พี่เชนท์มาช่วยดูแลความเรียบร้อยให้ระหว่างที่แกไม่อยู่” “แล้วไงต่อ??” “ร้านแกมีกล้องวงจรปิดตรงไหนบ้าง?” “ก็มีอยู่หลายจุดนะพนักงานในร้านทุกคนจะรู้ดี” “อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะแกเอากล้องไปติดที่ห้องนอนแกชั้นบน และจุดอับที่คิดว่าไม่มีใครเห็นแล้วเรามาดูกันนะว่าเรื่องที่คิดมันจะเป็นแค่ฉันมโนไปเอง” “อื้ม!!!…เอางั้นก็ได้เรื่องนี้จะมีแค่ฉันกับแกที่รู้กัน” “เค..ดีล” หลังจากนั้นน้ำชาจึงแจ้งกับพนักงานทุกคนว่าเธอจะต้องเดินทางไปต่างประเทศ 2 สัปดาห์ก่อนที่จะเริ่มเปิดสาขาใหม่เพื่อเป็นการพักผ่อน จึงฝากฝังให้มีนาเป็นคนจัดการเรื่องทุกอย่างในร้าน และบอกให้เชนท์ว่าถ้าวันไหนเขาว่างหรือเลิกงานเร็วก็ให้มาดูแลความเรียบร้อยแทนเธอ เชนท์จึงรับปากและแอบบ่นอ้อนเธอว่าคิดถึงและอยากจะไปกับเธอบ้าง เมื่อน้ำชาวางแผนกับเพนนีเรียบร้อยโดยการแอบตั้งกล้องเอาไว้ตามสถานที่ลับตาต่างๆ พวกเธอจึงออกเดินทางไปต่างประเทศด้วยกัน ในใจของทั้งคู่หวังว่าสิ่งที่คิดนั้นมันไม่ได้เป็นจริง @ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ “พี่เชนท์ชาถึงห้องแล้วนะคะอากาศหนาวมากเลย” “ดีแล้วครับใส่เสื้อหนาๆนะพี่เป็นห่วง” “ค๊า!!!…อยากได้อะไรเป็นของฝากคะ??” “ของฝากทริปที่แล้วชาไปมาพี่ยังไม่ได้ใช้เลยเที่ยวเก่งนักนะเรา” “งื้อ!!…ชาไม่ได้ขอเงินหม่อมแม่เลยนะใช้เงินเก็บตัวเองเที่ยวพี่เชนท์ก็” “โอ๋ๆๆๆ…แมวน้อยของพี่ไม่งอนนะ” “พี่เชนท์อย่าลืมแวะไปดูร้านคาเฟ่ให้ชาด้วยนะสงสารยัยมีนาด้วยทำงานคนเดียวตัวเป็นเกรียวแน่นอน” “คร๊าบๆๆ!!..พรุ่งนี้พี่หยุดจะไปดูให้นะจะไปช่วยทั้งวันเลยโอเคมั๊ยครับ?” “ขอบคุณค่ะ” หลังจากวางสายวิดีโอคลอทางไกลกับเชนท์แล้ว น้ำชากับเพนนีจึงตรวจดูความเรียบร้อยข้องสัญญากล้องวงจรปิดผ่านทางมือถือ และก็ไม่พบอะไรผิดปกติเชนท์ไม่ได้เข้ามาที่ร้านตามที่เขาบอก แต่ในวันพรุ่งนี้เขาจะเข้ามาช่วยงานที่ร้านพวกเธอทั้งสองจึงนอนหลับไปเพราะในเวลาที่ต่างประเทศนั้นห่างจากเวลาที่ไทย 5 ชั่วโมง เช้าวันต่อมาที่ประเทศไทย “สวัสดีค่ะ” “สวัสดีครับ” พนักงานทุกคนสวัสดีเชนท์หนุ่มหล่อทนายความมากความสามารถ ที่เดินเข้าร้านมาแต่ช่วงเช้าตรู่ของวัน ในมือถือโจ๊กใส่ถุงมาฝากพนักงานที่ร้านทุกคนรวมทั้งมีนา เชนท์เป็นคนที่เอาใจเก่งยิ้มเก่งอัธยาศัยดีและอบอุ่น สาวๆทุกคนจะชื่นชมในตัวเขามาก และจะคอยบอกกับน้ำชาว่าเธอนั้นมีแฟนที่ดีและน่าอิจฉาที่สุด “มีนากินโจ๊กก่อนสิร้านยังไม่เปิด” “ขอบคุณค่ะพี่เชนท์” มีนาจึงเดินไปหยิบถุงโจ๊กแล้วไปเทใส่ชามและเผื่อให้เชนท์อีกใบ เธอนั้นได้ไปนั่งทานโจ๊กกับเขาที่ห้องครัวหลังร้านซึ่งทางหน้าร้านนั้นโต๊ะอื่นๆพนักงานนั่งกินก่อนแล้ว เชนท์จึงเดินไปทานร่วมโต๊ะกับเธอ “พี่เชนท์มาแต่เช้าเลยไม่เห็นต้องลำบาก” “ไม่ลำบากเลยพี่เต็มใจ” “ชิ!!…มาตามคำสั่งยัยชา” “ตรงนี้มีแค่เราอย่าพูดถึงคนอื่นสิ…กินเยอะๆนะครับ” เชนท์จึงตักโจ๊กในชามแล้วเป่าและป้อนให้กับมีนาอย่างเอาใจ “อร่อยไหม??” “อื้ม!!..อร่อยจังเลยค่ะ” มีนาและเชนท์นั่งทานโจ๊กหลังร้านกันสองคนทั้งคู่คอยพะเน้าพะนอเอาอกเอาใจกัน จนเมื่อทานเสร็จจึงลุกออกไปที่หน้าร้านด้วยสีหน้าท่าทางปกติราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม