บทที่ 6

1223 คำ
“ไม่ค่ะ ฉันไม่ต้องการเป็นแขกของใคร ฉันอยากอยู่คนเดียว” อลินนาเอ่ยตอบโดยไม่ได้ลืมตา ไม่ได้หันหน้ามามองแดเนียล          แม้จะถูกปฏิเสธ แต่แดเนียลก็ยังไม่ละความพยายามในการร้องขอ “ถ้ายังงั้นหากคุณเดือดร้อนในระหว่างอยู่ที่มอสโคว์ หรือไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม คุณสามารถขอความช่วยเหลือจากผมได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง”          “ฉันคงไม่รบกวนคุณถึงเพียงนั้น”          “อลินนา...อย่าเพิ่งปฏิเสธ คุณไม่รู้อนาคต อาจจะมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับคุณระหว่างอยู่ในมอสโคว์ก็เป็นไปได้ รับนามบัตรของผมไว้สิครับ คุณโทร.หาผมได้ตลอดเวลา”          ด้วยไม่อยากถูกแดเนียลเซ้าซี้ไปมากกว่านี้ อลินนาจึงยอมหันมารับนามบัตรจากเขา ทว่า...หญิงสาวไม่ได้เหลือบสายตามองนามบัตรสีทองที่ทำอย่างสวยงามแม้แต่นิดเดียว หญิงสาวยัดนามบัตรลงในกระเป๋ากางเกงเอ่ยขอบคุณพร้อมกับตัดบทการสนทนาด้วย          “ขอบคุณสำหรับน้ำใจ และถ้าหากไม่ว่าอะไร ฉันขอนอนพัก ฉันไม่มีแรงที่จะต่อล้อต่อเถียงกับคุณแล้ว”          สีหน้าที่เผยให้เห็นถึงความอ่อนล้าและเต็มไปด้วยริ้วรอยของความเจ็บปวด ทำให้แดเนียลจำต้องยอมในที่สุด ดวงตาคมกริบทอดสายตามองหญิงสาวด้วยแววห่วงใย และเมื่อมั่นใจว่าอลินนาหลับสนิทแล้วจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายภาพของหญิงสาวในยามหลับพริ้มไว้หลายภาพด้วยกัน จากนั้นก็ส่งภาพของหญิงสาวผ่านระบบไวไฟบนเครื่องบินเข้าโทรศัพท์มือถือของลูกน้องคนสนิท พร้อมกับพิมพ์คำสั่งไปว่า          ‘ต้องการประวัติของผู้หญิงคนนี้ทันทีที่ถึงสนามบิน’          ‘ได้ครับ เจ้านาย’          แดเนียลกระตุกยิ้มพึงพอใจกับข้อความตอบรับจากลูกน้อง จากนั้นก็หันมาให้ความสนใจกับคนที่ยังหลับสนิทอยู่ มือใหญ่ยกขึ้นลูบบางเบาไปบนพวงแก้มขาวซีดที่ยังมีคราบน้ำตาอยู่บ้าง อยากรู้ซะเหลือเกินว่าใครกัน! ที่ทำให้ผู้หญิงอย่างอลินนาต้องเสียน้ำตา เกือบสิบชั่วโมงที่กัปตันนำเครื่องบินลำใหญ่เหินฟ้าจากประเทศไทยสู่กรุงมอสโคว์ประเทศรัสเซีย ตลอดเวลาที่อยู่บนเครื่องบิน อลินนาได้รับการดูแลจากแอร์โฮสเตสเป็นอย่างดี นั่นก็เป็นเพราะว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินต่างก็คิดว่าหญิงสาวเป็นแขกคนพิเศษของผู้เป็นเจ้าของสายการบิน          แต่คนที่ดูแลอลินนาดีที่สุดคือแดเนียล...นอกจากจะดูแลอลินนาแล้วยังคะยั้นคะยอให้หญิงสาวไปเป็นแขกคนพิเศษของตน ซึ่งแดเนียลจำต้องยอมรับความจริงที่ก่อขึ้นในใจว่าเขาชื่นชอบและสนใจในตัวอลินนา กระทั่งเชื้อเชิญให้หญิงสาวไปพักในคฤหาสน์ของเขา และชายหนุ่มก็ต้องพบกับความผิดหวังทุกครั้ง เพราะอลินนายังคงปฏิเสธในทุกครั้ง แต่แดเนียลก็ไม่ละความพยายาม กระทั่งนาทีสุดท้ายก่อนลงจากเครื่องบิน ก็ไม่ลืมเอ่ยชวนอีกครั้ง “อลินนา...แน่ใจว่าไม่ต้องการไปเป็นแขกคนพิเศษของผม” “ไม่ค่ะ ฉันกลัวตรงคำว่าแขกคนพิเศษ และฉันต้องการท่องเที่ยวคนเดียวเงียบๆ หวังว่าคุณจะเข้าใจ” อลินนาปฏิเสธโดยไม่ใยดี ซึ่งหญิงสาวหารู้ไม่ว่าคำปฏิเสธของเธอกำลังกวนตะกอนอารมณ์โกรธของแดเนียลให้ขุ่นมัวโดยไม่รู้ตัว เมื่อเชื้อเชิญด้วยคำพูดดีๆ หลายครั้ง แต่ก็ยังถูกปฏิเสธอย่างไม่แยแส แดเนียลก็เริ่มโกรธขึง คิดว่าอลินนากำลังเล่นตัวเพื่อเรียกร้องความสนใจ จึงหลุดคำพูดออกมาให้หญิงสาวต้องโกรธจัด “ที่ปฏิเสธตั้งแต่แรกเริ่มเพราะรู้ว่าผมสนใจในตัวคุณ เลยต้องการอัพราคาค่าตัวใช่ไหม อยากได้เท่าไรบอกมา” อลินนานิ่งงันตัวชากับคำพูดดูถูกดูแคลนจากอีกฝ่าย มือเล็กกำเข้าหากันแน่น ขบเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง พยายามนับหนึ่งถึงร้อยอยู่ในใจเพื่อข่มอารมณ์โกรธไว้สุดกำลัง แต่ดูเหมือนว่าแดเนียลจะไม่สนใจดวงตาที่จ้องมองเขม็ง ไม่สนใจเสียงกัดฟันกรอดจากอลินนา ชายหนุ่มยังคงพ่นคำถามดูถูกถากถางออกมาว่า “อยากได้ค่าตัวเป็นตัวเลขกี่หลัก ระบุมา! ต่อให้เป็นตัวเลขเจ็ดหลัก แปดหลักผมก็มีปัญญาจ่าย!” เผี้ยะ!!! แดเนียลพูดไม่ทันจบประโยคก็ต้องหน้าหัน เมื่ออลินนาสะบัดมือตบลงไปบนใบหน้าหล่อเหลาเต็มแรงตามอารมณ์โกรธจัดที่ขาดผึงลงเพราะคำพูดดูถูกของเขา “ฉันไม่เคยคิดขายตัว หยุดปากพล่อย หยุดดูถูกฉันได้แล้ว ขออย่าให้เจอกันอีกเลย” โครม! ทั้งตบ ทั้งผลักร่างใหญ่ล่ำสันจนทรุดตัวลงไปกระแทกกับเก้าอี้ ท่ามกลางความตกใจของผู้โดยสารชั้นธุรกิจและแอร์โฮสเตสที่หันมามองเป็นสายตาเดียวกัน          อลินนาไม่สนใจว่าแดเนียลจะโกรธมากเพียงใด หญิงสาวคว้ากระเป๋าสะพายใบเล็กแล้วเดินลิ่วๆ ออกจากเครื่องบินโดยไม่สนใจว่าแดเนียลจะตามมาคิดบัญชีกับเธอหรือไม่          ทางด้านของแดเนียลเกิดมาไม่เคยโดนผู้หญิงตบหน้าแม้แต่ครั้งเดียว จึงเกิดอาการนิ่งงันนั่งอยู่บนเก้าอี้หลายนาที กว่าจะรู้สึกตัวผุดลุกขึ้นยืนเดินออกจากเครื่องบินพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมาโทร.หาลูกน้องคนสนิทด้วย          ไม่มีการทักทายลูกน้องให้เสียเวลา ทันทีที่โรซอฟรับโทรศัพท์ แดเนียลก็ออกคำสั่งในทันที          “โรซอฟ...รายงานมา เรากำลังรอฟัง”          “ครับ เจ้านาย” โรซอฟรับคำ แปลกใจอยู่มากที่เจ้านายหนุ่มสนใจผู้หญิงชาวไทยคนนี้เป็นพิเศษ กระทั่งส่งภาพถ่ายของหญิงสาวมาให้เขาสืบประวัติเป็นการเร่งด่วน “เธอชื่ออลินนา...เป็นชาวเชียงใหม่ แต่มาทำงานในบริษัทส่งออกในกรุงเทพฯ ได้สามปีแล้ว เธอมีคู่หมั้นทำงานในบริษัทเดียวกัน และจัดงานแต่งงานเมื่อสองวันที่ผ่านมา...” “อลินนา แต่งงานแล้ว” แดเนียลครางออกมา บอกไม่ถูกว่าทำไมจู่ๆ อาการห่อเหี่ยว ผิดหวังและแสนเสียดายได้วิ่งเข้ามาปะทะในหัวใจเมื่อรู้ว่าผู้หญิงที่เขาสนใจได้แต่งงานแล้ว   “ครับ เจ้านาย แต่...” “แค่นี้ก่อน โรซอฟ เรากำลังจะผ่านตม.แล้ว” แดเนียลจำต้องกดตัดสายการสนทนา เพราะกำลังจะผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์มือถือ ใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีชายหนุ่มก็ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อย และเมื่อไปรับกระเป๋าเดินทางก็พยายามกวาดสายตามองหาอลินนา ทว่าไม่พบแม้แต่เงาของหญิงสาว          “อลินนา...คุณแต่งงานแล้ว แต่ทำไมมาเที่ยวคนเดียว แถมยังร้องไห้แทบจะตลอดเวลาด้วย”          แดเนียลพึมพำถามตัวเอง อยากได้คำตอบในสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจ ทว่าคงเป็นไปไม่ได้ เพราะคนที่จะตอบคำถามของเขาได้ดีที่สุดคืออลินนา แต่ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าหญิงสาวไปอยู่ไหนแล้ว แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะสืบตามหาหญิงสาวขณะเธอท่องเที่ยวอยู่ในมอสโคว์
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม