7.บทลงโทษ

990 คำ
“ ไม่จ่าย ยังไงฉันก็ไม่จ่าย “ เจียวอ้ายเอ่ยขึ้นอย่างไม่ยินยอม เรื่องอะไรที่หล่อนจะต้องจ่ายเงินร้อยหยวนกัน ไม่มีทางเสียหรอก “ รบกวนน้องชายช่วยเรียกทหารแดงมาที่นี่ด้วย “ “ เสี่ยวลู่ เรื่องนี้มัน … “ หัวหน้าหมู่บ้านกำลังจะเอ่ยขึ้นก็ถูกสายตาของใครบางคนสะกดให้เขาพูดไม่ออก เขาจึงหันมาบอกลูกชายตนเองให้ไปตามทหารแดงมาจัดการ ส่วนครอบครัวฉินนั้นเมื่อรับรู้แล้วว่าเป่ยลู่ผู้นี้ไม่ยอมความง่ายๆแน่นอน พวกเขาต่างถอยหนีเจียวอ้ายทันที เพราะไม่อยากติดร่างแหถูกลงโทษไปด้วย หลังจากที่ลูกชายคนที่สามบ้านเฟิงเข้าเมืองไปไม่นานก็กลับมาพร้อมกับรถของเหล่าทหารแดงจำนวน6คน เข้ามาที่ลานกลางหมู่บ้าน ส่วนตัวต้นเรื่องนั้นตอนนี้ได้แต่ยืนขาสั่นอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน ถึงแม้ว่าตอนนี้ทหารแดงจะไม่ได้มีอำนาจเหมือนเมื่อก่อนก็ตามแต่ตามหมู่บ้านชนบทเช่นนี้อำนาจจากทางรัฐยังเข้ามาไม่ถึง เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นจึงต้องใช้อำนาจของทหารแดงเหล่านี้ต่อไป “ มีคนไปแจ้งว่า มีคนปากไม่ดีพูดเรื่องไม่จริง ใช่หรือเปล่าหัวหน้าเฟิง “ “ ครับ เรื่องจริง “ “ เอาตัวมา อย่างที่รู้ๆกันว่ากฏหมายเขียนเอาไว้ว่ายังไง “ “ นำตัวไปจัดการ ส่วนคนอื่นๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ก็เลือกเอาว่าจะชดใช้ต่อคำพูดของตนเองหรือจะยอม เสียลิ้นไป “ จบคำพูดของทหารแดงคนนั้นเสียงร้องดังลั่นของเจียวอ้ายก็ดังขึ้น ทำเอาชาวบ้านต่างหวาดผวากันถ้วนหน้า ชาวบ้านทั้งสามที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต่างรวบรวมเงินแล้วรีบนำเงินมาวางที่โต๊ะทันที ก่อนจะกลับไปซุกหลังสามีของตนเองเงียบๆ พวกหล่อนยอมอดตายดีกว่าถูกตัดลิ้น หลังจากที่เหล่าทหารแดงกลับไปแล้วหัวหน้าหมู่บ้านได้เอ่ยเตือนชาวบ้านทุกคน ที่อยู่กลางลานอย่างทั่วถึง รวมทั้งร่างที่หมดสติของเจียวอ้าย ที่เต็มไปด้วยเลือดที่ไหลออกมาจากปาก เพราะถูกตัดสิ้นจนสั้นกุด ไม่แน่ว่าฟื้นขึ้นมาจะยังเป็นคนปกติอยู่ไหม “ บทลงโทษนั้นทุกคนคงได้เห็นแล้ว เอาล่ะแยกย้ายกันไปเถอะหวังว่าเรื่องครั้งนี้จะเป็นบทเรียนให้ทุกคนได้จดจำกันนะ “ ส่วนเงินจำนวน300 หยวนที่กองอยู่นั้นหัวหน้าหมู่บ้านได้มอบให้เป่ยลู่ทั้งหมด ซึ่งเป่ยลู่มอบให้ลูกชายบ้านเฟิงไป10หยวน เป็นการตอบแทน ชาวบ้านต่างแยกย้ายกันกลับบ้านของตนเอง ในใจทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าจะไม่ให้ลูกหลานของตนมายุ่งเกี่ยวกับลูกสาวคนโตของบ้านหวงเด็ดขาด ซึ่งนั้นก็เป็นสิ่งที่เป่ยลู่ต้องการเช่นกัน เธอไม่ต้องการให้ใครมายุ่งวุ่นวายในเรื่องของตนเอง แต่ในตอนนี้เธอกำลังเผชิญหน้ากับพ่อที่เอาแต่นิ่งเงียบมาตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว “ พ่อคะ พ่อไม่พอใจที่ฉันเอาเรื่องคนพวกนั้นหรอคะ “ ” เปล่าหรอก พ่อแค่คิดว่า ลูกต้องพบเจออะไรมามากมายแค่ไหน ถึงได้ทำให้ลูกสาวที่แสนดีของพ่อเปลี่ยนไปถึงขนาดนี้ “ เป่ยลู่ถึงกับสะอึกไปทันที นั่นเพราะเธอไม่ใช่เป่ยลู่คนก่อนยังไงล่ะ แต่เธอก็ไม่สามารถบอกได้ จึงเอ่ยเพียงว่า “ ที่ผ่านมาฉันต้องเจอเรื่องราวมากมายทั้งดีทั้งร้าย จากบ้านของพี่ต้าหลง แล้วถ้าฉันยังยอมให้พวกเขารังแกต่อไป ฉันคงไม่สามารถมีชีวิตรอดกลับมาบ้านได้แล้วค่ะ “ เอ่ยจบก็เดินเข้าห้องไปปล่อยให้พ่อแม่และน้องชายนั่งคิดกันไปเงียบๆ ในหัวของเธอตอนนี้คิดว่าพวกเขาไม่ยินดีที่เธอกลับมาที่บ้านหรือเปล่า หรือเพราะครั้งนี้เธอให้บทเรียนต่อทุกคนในหมู่บ้าน พวกเขาจึงได้มีอาการนิ่งเฉยกับเธอแบบนี้ เป่ยลู่คิดอย่างน้อยใจและก็เผลอหลับไป เธอตื่นขึ้นมาอีกทีในเข้าวันรุ่งขึ้น ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่าแต่ดูจากการกระทำของคนในบ้านแล้ว เธอไม่มั่นใจว่าจะอยู่ที่นี่ต่อไปดีไหม หลังอาบน้ำเสร็จเธอก็เข้าเมืองไปหาดูบ้านเช่า เพราะตอนนี้เธอยังไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อบ้านได้ การที่เธอแยกตัวออกมาคงจะเป็นความคิดที่ดีกว่า เป่ยลู่เดินเล่นดูร้านค้าต่างๆที่เปิดขายของกันหลายร้านแล้ว เธอคิดว่าจะขายอาหารอย่างที่เมื่อชีวิตก่อนของเธอทำขาย เมื่อนึกถึงเรื่องราวในชีวิตก่อน เป่ยลู่ก็อดคิดไม่ได้ว่าต่อให้เธอตัวคนเดียว หาเลี้ยงตนเองลำพัง ก็ยังดีกว่าที่จะต้องมาคอยดูสีหน้าคนอื่นๆแบบนี้ สุดท้ายแล้วเธอตัดสินใจแล้วว่าจะเช่าบ้านอยู่ในเมือง ขายอาหารเลี้ยงตนเอง แต่ตอนนี้ต้องหาบ้านเช่าให้ได้เสียก่อน !! โดยที่ไม่รู้เลยว่าตั้งแต่ที่เธอเข้ามาที่หมู่บ้านนั้นทุกการกระทำก็อยู่ในสายตาของเขามาตลอด ชายหนุ่มเดินไปที่บ้านอีกหลังที่เขาซื้อเอาไว้ที่เมืองนี้ ก่อนจะติดประกาศให้เช่า แล้วรอคอยให้เธอเดินมาทางบ้านของเขา และก็เป็นไปตามที่เขาต้องการ เมื่อเธอเดินเข้ามาจ้องมองที่ป้ายหน้าบ้าน ชายหนุ่มจึงทำท่าจะออกไปข้างนอก “ เอ่อ ขอโทษนะคะ บ้านหลังนี้ให้เช่าหรือเปล่าคะ “ “ อ่ออืม ใช่ คุณสนใจงั้นหรอ “ “ ค่ะ แต่ว่าฉันขอบอกตามตรงว่าฉันมีเงินไม่มากนักหรอกค่ะ “
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม